พระยอดกตัญญู อาศัยช่วงว่างจากกิจสงฆ์กลับบ้านทำนา ทำอาหารเลี้ยง

โยมพ่อโยมแม่ที่ล้มป่วย เตรียมสึกหวั่นสังคมครหา

 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่าที่บ้านโพธิ์งาม เลขที่ 119 หมู่ 4 ต.ป่ามะคาบ อ.เมือง

จ.พิจิตร มีพระภิกษุยอดกตัญญูรูปหนึ่ง ทดแทนบุญคุณพ่อแม่ ด้วยการเลี้ยงดูและทำนา

แทน จึงเดินทางไปตรวจสอบพบพระสมชาย ฉันทธัมโม อายุ 32 ปี พระลูกวัดโพธิ์งาม

ต.ปามะคาบ ขณะกำลังทำนาอย่างแข็งขัน

โดยพระสมชาย เล่าว่า บวชมาแล้ว 5 พรรษา ซึ่งช่วงแรกก็ไม่มีปัญหาอะไร กระทั่งเมื่อปี

2553 นางน้อย แสงสี อายุ 65 ปี โยมแม่เกิดป่วยหนัก เนื่องจากเส้นเลือดในสมองแตก

ต้องผ่าตัดถึง 2 ครั้ง และเพียงไม่นานนายถวิล แสงสี อายุ 66 ปี โยมพ่อก็กลับมาล้มป่วย

ตามไปอีกคน ทำให้ต้องปลีกเวลาว่างจากกิจสงฆ์ มาคอยช่วยดูแลทั้งคู่ ตามหน้าที่ของ

ลูก โดยโยมแม่ช่วงแรกจะอาการหนัก ต้องคอยอาบน้ำ ป้อนข้าว ส่วนโยมพ่อไม่สามารถ

ทำงานหนักได้ อาตมาจึงต้องทำนาแทน เนื่องจากเป็นรายได้หลักของครอบครัว

พระสมชาย กล่าวต่อว่า หลังจากพยายามดูแลทั้งโยมพ่อ โยมแม่ มาเกือบปี อาการของ

โยมพ่อยังทรงอยู่ แต่อาการของโยมแม่ดีขึ้น ปัจจุบันสามารถช่วยตัวเอง เช่น อาบน้ำได้

แล้ว แต่ยังไม่สามารถทำอาหารเองได้ ทำให้ทุกวันนี้ซึ่งในแต่ละวันก่อนออกบิณฑบาต จะ

กลับบ้านมาทำกับข้าวให้กับโยมพ่อ โยมแม่ คอยเตรียมสำรับกับข้าวไว้ให้ทั้งสองคน จาก

นั้นก็จะไปทำกิจของสงฆ์ที่วัดซึ่งอยู่ใกล้กับบ้าน สลับกับการมาดูแลโยมพ่อ โยมแม่ และ

การดูแลนาข้าว ช่วงเย็นจะมาทำกับข้าวให้อีกรอบหนึ่ง

แต่สิ่งที่กังวลก็คือ ความรู้สึกของประชาชนทั่วไปที่มองพระที่ต้องออกมาทำนา แต่หาก

ปล่อยพ่อปล่อยแม่ไว้ตามลำพัง ก็จะกลายเป็นภาระทางสังคม อีกทั้งอาตมาถือว่าพ่อแม่

คือ พระอรหันต์ของลูก ส่วนคำถามที่ถามว่าทำไมไม่สึกไปดูแล โยมพ่อ โยมแม่เสียเลย ก็

ต้องบอกว่าวางแผนไว้แล้วเหมือนกันว่าจะต้องสึก แม้จะรู้สึกเสียดายต่อสมณเพศที่

เลื่อมใสศรัทธา ตอนนี้อาตมารอฤกษ์ที่จะลาสิกขาออกมาเท่านั้น เพราะคนไทยเชื่อถือ

ฤกษ์ยามเป็นเรื่องสำคัญ จากที่สอบถามอาจารย์ผู้รู้บอกว่า ฤกษ์ดีคือต้นเดือนพฤษภาคม

ด้านพระทีฆทัสสีมุนีวงศ์ รองเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า การที่พระสงฆ์ดูแลโยมพ่อ

โยมแม่ ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรสรรเสริญ เพราะครั้งหนึ่งสมัยพุทธกาล สมเด็จพระสัมมาสัม

พุทธเจ้า เคยตรัสสรรเสริญพระสงฆ์รูปหนึ่งที่ดูแลมารดา และทรงยก บิดา มารดา เปรียบ

เสมือนพระอรหันต์ของลูก และทรงอนุญาตให้พระสงฆ์สามารถดูแลบิดามารดาได้ การที่

พระสมชาย ท่านดูแลโยมพ่อ โยมแม่ จึงเป็นสิ่งที่น่าสรรเสริญ และเป็นตัวอย่างของลูกทุก

คน แต่การที่พระทำนา ถือว่าไม่เหมาะสม และไม่ใช่กิจของสงฆ์ แต่อย่างไรก็ตามกรณีนี้

ถือว่าเป็นการตอบแทนผู้มีพระคุณ