วันนี้ ( 16 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระวัดบ่อบุญ ออกกิจนิมนต์โดยใช้รถอีแต๋นประกอบเองเป็นพาหนะ ต่างจากพระวัดอื่นที่ต้องนั่งรถยนต์ สร้างความศรัทธาและเลื่อมใสกับชาวบ้านจำนวนมาก จึงเดินทางไปตรวจสอบที่วัดบ่อบุญ หมู่ 1 ต.ไร่สะท้อน อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี พบพระอธิการผ่อน กิตติภฺโท เจ้าอาวาสวัดบ่อบุญ อายุ 46 ปี และพระลูกวัดกำลังจะออกกิจนิมนต์ ผู้สื่อข่าวจึงติดตามไปด้วย พบว่าตลอดการเดินทางชาวบ้านที่เห็นหลวงพ่อวัดบ่อบุญกับพระลูกวัดนั่งรถอี แต๋น ต่างพากันยิ้ม และมองด้วยความสนใจตลอดทาง บางครั้งเจอนักท่องเที่ยวต่างประเทศก็จะถ่ายรูปกัน

หลังจากเสร็จกิจนิมนต์จากญาติโยมแล้วพระอธิการผ่อน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า อาตมาใช้รถอีแต๋นออกกิจนิมนต์มาประมาณ 2 ปี แล้ว โดยมีความคิดนี้มาจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเคยตรัสไว้เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง จึงน้อมนำมาใช้ ประกอบกับมีพระที่วัดมีฝีมือด้านนี้จึงช่วยกันประกอบรถอีแต๋นขึ้นมา ซึ่งรถอีแต๋นนี้ก็ประหยัดน้ำมัน ทำให้เวลาที่ญาติโยมถวายปัจจัยช่วยค่าน้ำมันก็ยังมีเงินเหลือเข้าบัญชีสะสม ได้

พระอธิการผ่อน กล่าวต่อไปว่าช่วงแรกที่ออกกิจนิมนต์ด้วยรถอีแต๋นนี้ โยมข้าง ๆ วัด หรือโยมที่นิมนต์อาตมาไปพบเห็น เขาพูดว่าอายแทน เห็นหลวงพ่อนั่งรถอีแต๋น แต่หลวงพ่อวัดอื่นๆ นั่งรถยนต์ที่ดูดี โยมบางคนบอกว่าถ้าถูกหวยจะซื้อรถถวายให้ก็มี อาตมาจึงบอกโยมว่า ไม่เป็นไรเราพอใจในสิ่งที่เรามี การนั่งรถอีแต๋นหรือรถยนต์มันไม่สำคัญ ขอให้ไปถึงงานทันเวลาก็ใช้ได้ ในส่วนของพระลูกวัดที่ต้องออกกิจนิมนต์ด้วยนั้น บางรูปก็ไม่อยากจะนั่ง เพราะเขาบ่นร้อน แต่เดี๋ยวนี้ต้องนั่งเหมือนกันทั้งหมด อาตมาไปยังไง ทุกคนก็ต้องไปอย่างนั้น ปฏิเสธไม่ได้ เคยไปออกกิจนิมนต์ด้วยกันที่ไปไกลสุดตอนนี้ก็ที่ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ ตอนที่ไปกันชาวบ้าน2 ข้างทางที่เห็นก็ยิ้มกันใหญ่ อาตมาก็ยิ้มให้ไม่รู้สึกอายอะไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่านอกจากที่ พระอธิการผ่อน กิตติภฺโท เจ้าอาวาสวัดบ่อบุญจะยึดถือความเรียบง่ายในการออกกิจนิมนต์แล้ว เจ้าอาวาสวัดบ่อบุญยังซื้อพื้นที่เล็ก ๆ ปลูกป่าทดแทนไว้ด้วย โดยหลวงพ่อบอกว่า ปัจจุบัน วัดบ่อบุญ อยู่ในฐานะที่ไม่ลำบากเหมือนก่อน สมัยก่อนการอยู่ของพระที่วัดอยู่กันอย่างฝืดเคือง มีพระเยอะ แต่ตอนนี้พระมีอยู่ 8 รูป กุฎิมีแต่ที่ผุพัง ทางเข้าทางออกของวัดก็ลำบากไม่เหมือนตอนนี้ที่ดีขึ้นบ้าง อาตมาจึงนำปัจจัยส่วนหนึ่งที่ออกกิจนิมนต์ เทศน์ตามบ้านเรา แม้ไม่ได้มากมายสะสมเป็นทุนมาซื้อที่ดินที่มีชาวบ้านบอกขาย มาปลูกป่าทดแทน คืนป่าให้ธรรมชาติบ้าง เนื่องจากสมัยก่อนวัดก็ไปเอาไม้มาก่อสร้างเหมือนกัน ถึงเวลาที่พระ และวัด ควรจะคืนป่าให้ธรรมชาติบ้าง ซึ่งไม้ที่ปลูกเป็นไม้มะค่า ทั้งหมด อีกส่วนหนึ่งก็เป็นการพาพระออกมาเปลี่ยนบรรยากาศแบบธรรมชาติบ้าง มาช่วยกันปลูกต้นไม้ ช่วยกันพัฒนา เพราะพระใหม่ ๆ หรือพระหนุ่ม ๆ บางทีอยู่แต่กับวัดสวดมนต์จะเหงา และในพื้นที่แห่งนี้ต่อไปจะจัดทำเป็นสถานที่บำเพ็ญจิตเภาวนาของพระที่วัด ด้วย

ด้านพระลูกวัดบ่อบุญ รูปหนึ่งกล่าวว่า ตอนนี้ที่วัดมีรถ อีแต๋น 2 คัน แล้ว รู้สึกสบายดี ไม่อายใคร เวลาที่ต้องออกกิจนิมนต์กับหลวงพ่อโดยนั่งรถอีแต๋นไป บางทีเจอญาติโยมกลางทางเขาก็ยิ้ม อาตมารู้สึกภูมิใจ ที่เรายังอนุรักษ์ของเก่าเอาไว้

ขณะที่ชาวบ้านระแวกใกล้เคียงที่พบเห็นเจ้าอาวาสวัดบ่อบุญกับพระลูกวัด ออกกิจนิมนต์ด้วยรถอีกแต๋น บางคนก็บอกว่าเป็นเรื่องดีเพราะเป็นการอนุรักษ์และประหยัดน้ำมัน ไม่ฟุ้งเฟื้อ บางคนก็บอกว่าสงสารหลวงพ่อต้องนั่งตากแดดไกลๆ.