สำนักข่าวซีซีทีวีของจีน รายงานว่า พฤติกรรมโจรจีนทำร้ายประชาชนหน้าตู้กดเงินสด

อัตโนมัติกำลังแพร่ระบาดอย่างหนักและน่าวิตกเป็นอย่างยิ่ง โดยเมื่อวันที่ 10 ธันวาคมปีที่

แล้ว เว็บไซต์ไชน่าสแม็คของจีน รายงานข่าวว่า กล้องวงจรปิดในธนาคารแห่งหนึ่งได้

บันทึกภาพหญิงจีนคนหนึ่งได้เข้ามากดเงินที่ตู้ตามปกติ ขณะเดียวกันมีคนร้าย

สวมหมวกกันน็อกเข้ามาทุบหัวเธอจากด้านหลัง และตามทุบซ้ำจนเธอล้มลงไป

กองกับพื้น จากนั้นคนร้ายได้ปล้นเงินจำนวน 3000 หยวน รวมทั้งเงินสดใน

กระเป๋าเงิน และแหวน ของเธอไป
 
          สองวันต่อมา เกิดเหตุซ้ำรอย เหยื่อรายที่สอง เป็นชายชื่อนายตง ถูกปล้นเมื่อเวลา

11.00 น. ขณะกำลังถอนเงินจากตู้เอทีเอ็ม โดยเขาถูกฟาดหมดสติ และถูกปล้นเงินเป็น

จำนวน 47,000 หยวน และโทรศัพท์ไอโฟนสีดำไป ต่อมา เกิดเหตุขึ้นอีกเมื่อวันที่ 25

เดือนเดียวกัน โจรยังใช้วิธีเดิมคือ สวมหมวกกันน็อกแต่คราวนี้เป็นหมวกกันน็อกสีอื่น แต่ก็

ใช้วิธีฟาดเหยื่อจนหมดสติและขโมยเงินกว่า 80,000 หยวนไปได้ 
 

          มาล่าสุดในวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา มีโจรดักปล้นหน้าตู้เอทีเอ็ม โดยภาพจาก

กล้องวงจรปิดได้บันทึกภาพคนร้าย 4 คนเข้าไปปฏิบัติการกับเหยื่อที่ตู้เอทีเอ็ม ขณะที่อีก

4 คน ดูต้นทางอยู่ด้านนอก พร้อมจักรยานเพื่อหลบหนี เมื่อเหยื่อที่เป็นหญิงสาวเข้ามากด

เงินที่ตู้เอทีเอ็ม ก็ถูกคนร้ายเข้าคุกคามพร้อมกับใช้กำลังประทุษร้าย จากนั้นก็ปล้นใน

ลักษณะเดียวกันอีก 2 ครั้งในอีก 2 วันถัดมา จากนั้นก็หลบหนีไปกบดานที่บ้านเกิดที่เมือง

รุ่ยจิน มณฑลเจียงซี ทางตะวันออกของจีน
 
          ล่าสุดวันนี้ (15 กุมภาพันธ์) ตำรวจในเมืองฉวนโจว ทำการแกะรอยตามผู้ต้องหา

ทั้ง 8 จนพบ และรอให้ทั้งหมดอยู่ด้วยกันก่อน จึงเข้ารวบตัว 8 ผู้ต้องหาซึ่งเป็นแก๊งคนร้าย

ปล้นเงินหญิงที่ตู้เอทีเอ็มและใช้กำลังประทุษร้ายเหยื่ออย่างรุนแรงได้ทั้งหมด หลังจากถูก

จับกุมตัว ผู้ต้องหา 8 คนก็ยอมสารภาพกับตำรวจว่า ได้ก่อเหตุปล้นในลักษณะเดียวกันนี้

อีก 3 ครั้ง ในวันที่ 9 และ 10 กุมภาพันธ์ และสารภาพว่าได้ทำการปล้นในลักษณะดัง

กล่าวนี้มาทั้งหมด 6 ครั้งได้เงินไปราว 150,000 หยวนหรือประมาณ 750,000 บาท

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดถูกควบคุมตัวเพื่อขึ้นศาลพิจารณาคดีต่อไป