เรื่องมันมีอยู่ว่าที่แฟนเพจ 9gag in Thai เขาเอามุขนี้มาโพส
อธิบายมุขเล็กน้อย ไอ้ภาพยิ้มเกรียนๆในมุขนี้ฝรั่งเขาเรียกว่า Troll face
และจะเอาไปใส่ในหน้าของคนที่ทำตัวเกรียนๆเป็นการล้อเลียน ส่วนเนื้อหาในมุขนี้
ก็กำลังแซวหมอว่าชอบถามคนไข้ว่าปวดตรงไหน แล้วก็กดลงไปในตำแหน่งที่ปวด
ประมาณว่ามุขนี้ต้องการแซวหมอว่าเกรียนที่จงใจกดตำแหน่งที่คนไข้ปวด ว่างั้นเหอะ?
สมาชิกในแฟนเพจก็เข้ามาแสดงความเห็นกันตามเรื่องตามราว บ้างก็ด่าหมอว่าใจร้าย!!
บ้างก็ด่าหมอว่าแม่งโรคจิต!! รู้ทั้งรู้ว่าคนไข้ปวดตรงไหนยังจะกดลงไปตรงนั้นอีก!!
บางคนก็เล่าประสบการณ์ว่าเคยปวดท้องและไปโรงพยาบาล ปรากฏว่าหมอแม่งเสือกกดตรงตำแหน่งที่กรูปวดพอดี
ทำให้กรูปวดฉิบหายเลย จนแทบจะยกตีนขึ้นไปเตะก้านคอหมออยู่รอมร่อแล้วโว้ย!!
หลังๆก็ยิ่งด่าหมอกันสนุกปากยิ่งขึ้น มีคนด่าหมอว่าอีดอกทองช้างยิ้ม!! กรูบอกว่ากรูปวดตรงนั้น
แล้วมึงจะไปเสือกกดย้ำหาพ่องมึงเหรอ? พวกมึงจบหมอมาได้ยังไงสมัยเรียนครูบาอาจารย์ไม่เคยสั่งสอนรึไงวะ!?
แถมบางคนยังยุแยงตะคงรั่วว่าถ้าใครโดนหมอกดตรงที่ปวด ก็ยกตีนถีบหน้าแม่งเลยสิวะ!!
ซักพักก็เริ่มมีบรรดาหมอๆหรือคนที่รู้ขั้นตอนการตรวจร่างกาย เข้ามาแสดงความเห็นว่า
การกดตำแหน่งที่ปวดมันจำเป็นนะ เพราะโรคภัยไข้เจ็บต่างชนิดกัน มันก็แสดงอาการปวดแตกต่างกัน
ดังนั้นหมอจึงจำเป็นต้องกดตำแหน่งที่คนไข้ปวดเพื่อให้รู้ว่าปวดแบบไหน น่าจะเป็นโรคอะไร จะได้รักษาพวกมึงให้หายได้ยังไงล่ะ
หมอคนนึงใช้ชื่อว่า “หมอโหด โคดรักเชียงราย” ก็บอกว่ามันจำเป็นต้องกดตำแหน่งที่ปวดจริงๆนะจะได้รู้ว่ามันปวดเพราะสาเหตุอะไร?
ปรากฏว่ามีคนด่าหมอโหดทันทีทันควันว่ามึงมันกากสัด!!! ที่ไม่มีปัญญาวินิจฉัยถ้าไม่กดตำแหน่งที่คนไข้ปวด!!!
หมอโหดก็ชี้แจงว่าใครมันจะอยากทำให้คนไข้ทรมานกันวะ? บางทีกรูกดพุงคนไข้ไปก็โดนคนไข้ทำตาขวางใส่เลยนะ!!
แต่ประเด็นคืออาการปวดมันมีหลายประเภท และอวัยวะในร่างกายมันก็มีเยอะโคตรๆ
อย่างในช่องท้องเนี่ยมีอวัยวะสำคัญเป็นสิบๆชิ้น แถมอาการปวดก็แตกต่างกันไป
บางทีโรคที่ต่างกันเช่นไส้ติ่งหรือลำไส้อักเสบก็อาจแสดงอาการใกล้เคียงกันได้
ดังนั้นมันเลยต้องตรวจร่างกายให้ละเอียด และกดหน้าท้องดูว่ามันปวดแบบไหนไงล่ะ
แต่สมาชิกของแฟนเพจนี้ส่วนใหญ่ก็ไม่สนใจใยดีคำอธิบายของหมอโหด พากันก่นด่าหมอต่อไปอย่างเมามันส์
บ้างก็บอกว่ามึงอย่ามากดจุดที่กรูปวดแล้วถามว่ากรูปวดมั้ยนะไอ้สัด!! ถ้าไม่ปวดแล้วกรูจะมา รพ.หาพ่องมึงเหรอวะ?
บ้างก็ด่าหมอว่าไอ้สัด!!!พวกมึงมันไอ้โรคจิต!!!
บรรดาหมอๆก็อดทน อธิบายให้คนที่ด่าหมอสาดเสียเทเสียฟันกันอีกหลายต่อหลายหน
ว่าการตรวจร่างกายและกดจุดที่ปวดมันจำเป็นจริงๆ ถ้าไม่ตรวจร่างกายจนรักษาไม่ถูกโรค
และถึงในขณะนั้นพวกมึงจะไม่ปวดมากแต่สุดท้ายพวกมึงก็ไม่หาย ถามว่าแบบนั้นมันจะดีแล้วเหรอวะ?
บ้างก็อธิบายว่าขนาดคนที่เป็นอาจารย์หมอท่านยังต้องตรวจร่างกายโดยกดตำแหน่งที่ปวดเหมือนกันเลย
ไม่งั้นมันจะวินิจฉัยโรคกันได้ยังไง? ดังนั้นช่วยเข้าใจแล้วเลิกด่าหมอซักทีเถ้ออออออ
สมาชิกของแฟนเพจนี้พอเห็นหมอออกมาอธิบายเป็นเสียงเดียวกันตั้งไม่รู้กี่คนต่อกี่คน
ก็บอกกับหมอว่า อะเช กรูเข้าใจแล้วว่าพวกมึงต้องกดจุดที่คนไข้ปวดเพราะความจำเป็น
แต่คนไข้ในขณะนั้นเขาไม่รู้ไม่สนหรอกว่ามึงจะทำอะไร เขาแค่อยากจะให้ความเจ็บปวดมันหายไปไหวๆเท่านั้น
เอาเป็นว่าไม่มีใครเขาเจตนาด่าหมอจริงๆจังๆหรอกนะ มีแต่ด่ากันเล่นๆขำๆเท่านั้น อย่าคิดมากให้ไมเกรนแดกเลยน่า
บ้างก็ปรามบรรดาหมอๆว่ามันเป็นมุขตลกขำขันเว้ย พวกมึงก็ขำกันมั่งเซ่!! อย่าซีเรียสกันนักสิวะ!!!
ฝั่งหมอๆก็บ่นกันว่าพวกมึงเล่นด่าพวกกรูซะเสียหมาเลยนี่หว่า กรูก็เลยต้องมาอธิบายให้พวกมึงเข้าใจให้ถูกต้องอ่ะดิ!!
บ้างก็บอกว่าหลายๆคนที่ด่าหมอแหลกราญในมุขนี้อาจจะคิดว่าตัวเองแค่ด่าหมอขำๆ
แต่รู้มั้ยว่าในสายตาหมอ มันไม่ขำเลยซักนิดว่ะ ถ้าพวกมึงคิดว่าหมอมันชั่วหมอมันเลว และจ้องแต่จะจับผิดหมอไปเสียทุกเรื่อง
กรูว่าพวกมึงอย่ามาหมอที่โรงพยาบาลเลยว่ะ ไปหาสมุนไพรมาแดกเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยกันเอาเองเถ้อะ!!!
นักศึกษาแพทย์คนนึงก็บอกว่ามุขนี้มันก็ฮาอยู่นะ แต่ความเห็นในมุขนี้ต่างหากที่มันฮาไม่ออก
แถมยังทำให้คนในวิชาชีพนี้หลายๆคนต้องสะเทือนใจที่ถูกดูถูกเหยียดหยามวิชาชีพของตัวเอง
เอาเป็นว่าถ้าจะเล่นมุขหรือแสดงความเห็นเกี่ยวกับมุขนี้ ก็กรุณาอย่าดูถูกวิชาชีพแพทย์เสียๆหายๆเลยนะคะ
ซักพักก็เริ่มมีคนหมั่นไส้หมอที่บอกว่าความเห็นของหลายๆคนในมุขนี้กำลังดูถูกวิชาชีพ
และด่าหมอเหล่านั้นว่าพวกมึงจะหัวสูงกันไปหน่อยรึเปล่าวะ? คิดว่าวิชาชีพของพวกมึงมันสูงส่งจนพวกกรูห้ามแตะต้องเลยใช่มั้ย!?
มุขนี้เขาทำขึ้นมาขำๆ ใครอ่านก็น่าจะเข้าใจ แต่ทำไมหมอๆอย่างพวกมึงถึงได้จริงจังกับมุขนี้กันจังวะครับ?
ฝ่ายหมอก็เถียงกลับว่า อ้าวไอ้ฉิบหาย!! พวกกรูไม่ได้คิดว่าวิชาชีพของตัวเองสูงส่งเหมือนอยู่บนอดเขาเอฟเวอเรสท์หรอกนะโว้ย!!
แต่ประเด็นคือพวกมึงแสดงความเห็นด่าหมอกันอย่างมั่วๆซั่วๆ พอพวกกรูออกมาอธิบายมั่ง ทำไมมึงถึงมองว่ากรูจริงจังเกินไป?
พวกกรูไม่มีสิทธิที่จะออกมาปกป้องศักดิ์ศรีของวิชาชีพตัวเองมั่งเลยเหรอวะ? ถ้าพวกมึงไม่เคารพวิชาชีพคนอื่นก็เรื่องของมึง
แต่การที่พวกด่าเหมารวมวิชาชีพของพวกกรูอย่างสาดเสียเทเสียแถมด่ามั่วๆซั่วๆในที่สาธารณะมันถูกต้องเหมาะสมแล้วเหรอวะ?
บ้างก็แขวะพวกที่ด่าหมอว่าไอ้ห่าพวกนี้มันโรคจิตยิ่งกว่าหมอที่พวกมึงรุมด่าซะอีก!!
พวกมึงก็แค่ด่าหมอแรงๆเพื่อให้คนถูกใจกดไลค์ความเห็นสั่วๆของมึงเท่านั้นล่ะวะ
แถมยังมีหน้ามาบอกให้หมออย่าซีเรียสที่โดนพวกมึงด่าด้วยนะ ไม่คิดมั่งล่ะว่าถ้ามึงไปหาหมอ
แล้วเจอหมอพูดกับมึงว่าอีคนไข้ดอกส์ทองช้างยิ้ม!! เด๋วกรูจับมึงไปฉีดฟอร์มาลีนดีมั้ยวะ!!
ซักพักหมอก็บอกกับมึงว่าหมอล้อเล่น!! อย่าซีเรียสเรื่องที่หมอพูดไปเมื่อกี้เลยนะตะเอง
ถามใจตัวเองดูเหอะว่าถ้าพวกมึงโดนด่าแบบนั้นมั่งจะยังมีปัญญาปล่อยวาง ไม่ซีเรียสได้อีกมั้ย!?
ฝั่งที่ด่าหมอก็เถียงกลับว่าพวมึงกดจุดที่เจ็บเพื่อวินิจฉัยโรค แล้วคนไข้ที่เป็นชาวบ้านร้านตลาดอย่างพวกกรู
จะไปตรัสรู้ได้ยังไงวะว่าพวกมึงกดตรงนั้นไปเพื่ออะไร? พวกกรูไม่ได้เรียนมาเหมือนหมออย่างพวกมึงนะโว้ย!!
ถ้าพวกมึงบอกกับกรูดีๆว่าขอกดหน่อยนะ จะตรวจร่างกานเพื่อหาสาเหตุของโรค กรูว่าคนไข้ก็น่าจะเข้าใจ
แต่มึงสังเกตุความเห็นที่ด่าหมอในมุขนี้สิวะ มีแต่คนโดนหมอกดเจ็บโดยไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้าทั้งนั้น!!
แล้วพวกกรูที่ไม่ใช่เทวดา ไม่มีปัญญาเดาใจหมออย่างพวกมึง จะหงุดหงิดที่โดนหมอกดเจ็บมั่งไม่ได้เลยรึไงวะ!?
หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายก็เถียงกันไปเถียงกันมา ฝั่งหมอก็พยายามอธิบายว่าพวกกรูกดจุดที่เจ็บเพราะจำเป็นโว้ย!!
ส่วนฝ่ายที่ด่าหมอก็ด่าซ้ำคำเดิมว่าหมออย่างพวกมึงมันซาดิส!! มันโรคจิต!!! ชอบเห็นคนไข้ทุกข์ทรมาน!!
และบางคนก็บอกว่ามันเป็นแค่มุขขำขัน หมออย่างพวกมึงจะมาซีเรียสกับมุขพรรค์นี้ทำห่าอะไรวะ!
ดราม่านี้ก็แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างคนไข้กับหมอในปัจจุบันได้เสื่อมทรามลงขนาดไหน
ถ้าเป็นสมัยก่อนคนไข้ก็จะเชื่อใจหมอว่าที่หมอทำให้เรา เช่นการตรวจร่างกาย กดตรงนู้น จับตรงนี้
แปลว่าเขากำลังทำการตรวจเพื่อทำการรักษาหรือเพื่อวินิจฉัยโรคแน่ๆ แล้วก็ปล่อยให้หมอทำไปตามใจชอบ
แต่ปัจจุบันสังคมมันเปลี่ยนไป พวกที่แค่เห็นหมอหายใจก็ไม่พอใจแล้วก็มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
หรืออย่างการตรวจร่างกาย กดตรงนู้นจับตรงนี้ ที่ใช้สามัญสำนึกคิดดูก็น่าจะรู้แล้วว่าหมอต้องทำไปเพื่อการรักษาแน่ๆ
แต่ก็ยังมีคนเอาไปตีความว่าหมอแม่งซาดิสม์วิปริตอยากเห็นความเจ็บปวดของคนไข้หน้าตาเฉย
ดังนั้นแอดมินคิดว่าทั้งสองฝ่ายน่าจะปรับตัวเข้าหากัน คนไข้ก็น่าจะไว้วางใจหมอให้มากขึ้น
อย่าคิดเองเออเองเป็นตุเป็นตะ หรือถ้าสงสัยว่าหมอทำไปเพื่ออะไรก็ถามไปเลย หมอไม่กัดหรอก
ส่วนหมอก็ควรที่จะอธิบายคนไข้ให้มากขึ้น คุยกันมากขึ้นเพื่อป้องกันการเข้าใจผิดเหมือนเช่นที่เกิดในมุขนี้
อาห์ แล้วดราม่านี้จะลงเอยเช่นไร? ใครอยากโดนจับฉีดฟอร์มาลีนบ้าง!!
พวกเธอว์จงตามไปเสพในมุขนี้โดยพลัน!!
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=186642691440292&set=a.178463508924877.31909.160866484017913&type=1&ref=nf