บางครั้งเพื่อนสนิทที่ใกล้ชิดไว้วางใจกันมานาน คอยปรึกษาทุกเรื่องมาตลอด ก็กลับกลายเป็นคนที่อันตรายที่สุดได้เหมือนกัน

 

อย่างเช่นกรณีพนักงานสาวของนครปฐมเคเบิลทีวี ที่ถูกสังหารโหด พร้อมเผาทำลายศพคาห้องพักกลางเมืองนครปฐม

 

ที่ตอนแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจมุ่งสอบสวน ไปยังกลุ่มบรรดาเพื่อนชาย และทอม ที่มาติดพัน รวมทั้งคนข้างห้องที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย

แต่จากการสืบสวนสอบสวนทุกด้าน กลับพบว่าคนร้ายที่ลงมือโหด กลายเป็นเพื่อนสมัยอนุบาลของผู้ตาย

ที่หนำซ้ำ เป็นคนที่ผู้ตายโทรศัพท์ขอให้มาอยู่เป็นเพื่อน เพราะกลัวตัวเองจะไม่ปลอดภัย หลังจากมีเรื่องราวเกี่ยวกับการหึงหวงเพื่อนชายที่รู้จักกันจำนวนมาก

โดยไม่รู้ตัวเลยสักนิด ว่าเป็นคนชักชวนทูตมรณะให้เข้ามาอยู่ในห้อง จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต

เหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกวันที่ 7 ก.พ. เมื่อตำรวจสภ.เมือง นครปฐม รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้มีผู้เสียชีวิตในห้องเช่า เลขที่ 71/169 ม.3 ต.ห้วยจระเข้ อ.เมือง จึงรีบเดินทางเข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวชั้นเดียวอยู่ด้านหลังอบต.ห้วยจระเข้ เมื่อเข้าไปตรวจสอบห้องที่เกิดเหตุ ก็ถึงกับผงะ เมื่อพบศพหญิงสาวนอนอยู่บนโซฟา สภาพศพถูกเผาไหม้เกรียม มีบาดแผลพุพองตามร่างกาย บริเวณใบหน้ามีหมอนทับอยู่ ที่ประตูหน้าห้องลูกบิดถูกทุบจนพัง บานเกล็ดแตกเป็นรูโหว่

สอบสวนทราบว่าผู้ตายชื่อ น.ส.ณิชมน หรือ รถตู้ นิ่มเดช อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 หมู่ 10 ต.โพรงมะเดื่อ อ.เมือง เป็นพนักงานนครปฐมเคเบิลทีวี ฝ่ายข่าวและประชาสัมพันธ์ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต น่าจะเกิดจากการขาดอากาศหายใจ แล้วถูกจุดไฟเผาซ้ำเพื่ออำพรางคดี

เพื่อนข้างห้องผู้ตายให้การว่าวันเกิดเหตุ น.ส.ณิชมน ไม่ได้ไปทำงาน และช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. มีผู้ชายมาหาที่ห้อง จนกระทั่งเวลา 01.00 น. ก็ได้ยินเสียงของตก แล้วเห็นชาย 2 คนวิ่งออกไปจากห้องแล้วขี่จักรยานยนต์ฝ่าความมืดออกไป

และหลังจากมีกลิ่นควันไฟออกมาจากห้อง จึงพยายามเปิดห้องแต่ห้องล็อก จึงทุบประตูห้องและบานเกล็ดเข้าไปดับไฟ และรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

หลังจากตำรวจประมวลเรื่องราวทั้งหมด พร้อมสอบประวัติย้อนหลังของผู้ตาย ก็กำหนดประเด็นเบื้องต้นว่าอาจเป็นเรื่องชู้สาว เพราะผู้ตายเป็นคนหน้าตาดี มีผู้ชายมาติดพันมากมาย นอกจากนี้ยังพบไดอารี่ของผู้ตายที่เขียนถึงเพื่อนชาย 6 คน ที่เขียนถึงมากที่สุดก็คือ นายอดิรัตน์ หรือ เอ็ม เด่นชนชัย พนักงานฝ่ายช่าง ที่ทำงานที่เดียวกัน แต่สุดท้ายต้องเลิกราความสัมพันธ์ไปเพราะภรรยาของฝ่ายชายจับได้

นอกจากนี้ยังสงสัยสาวทอมที่สนิทสนมกับผู้ตาย และเพื่อนข้างห้องที่เข้ามาช่วย เพราะตรวจสอบแล้วมีคดีติดตัวมากมาย แถมยังพบน้ำมันก๊าดครึ่งขวดในห้องพักอีกด้วย

เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน เมื่อสอบสวนประเด็นที่ตั้งไว้ตอนแรกทั้งหมดแล้วพบว่า ไม่เกี่ยวข้อง จึงตรวจสอบการใช้โทรศัพท์เข้า-ออก ของ น.ส.ณิชมนโดยละเอียด พบว่าวันก่อนเกิดเหตุ น.ส.ณิชมนได้โทรศัพท์หาเพื่อนเก่าคนหนึ่ง ชื่อ ไอ้ป้อ หรือ นายวีรพงษ์ เสถียรวีราภาพ ซึ่งเป็นเพื่อนสมัยเรียนของน.ส.ณิชมน

จึงขออนุมัติหมายจับ แล้วเตรียมบุกรวบตัว แต่ปรากฏว่าไอ้คนร้ายรายนี้ซื้อตั๋วรถไฟ เตรียมจะหนีไปกบดานอยู่ที่จ.ยะลาจึงประสานกับตำรวจสภ.เมืองราชบุรีให้สกัดจับ

สุดท้ายก็เจอตัวที่สถานีรถไฟเมืองราชบุรีพอดี แล้วส่งตัวกลับมาสอบสวนที่นครปฐม

หลังสอบเครียด ไอ้ป้อก็รับสารภาพสิ้นว่าเป็นเพื่อนสมัยเรียนอนุบาล ก่อนเกิดเหตุน.ส.ณิชมน โทรศัพท์มาหาขอให้ไปอยู่เป็นเพื่อน เพราะกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากมีคนโทรศัพท์มาเตือนว่ามีคนจ้องจะทำร้าย สาเหตุมาจากเรื่องที่ไปเกี่ยวพันกับเพื่อนชาย

ผมมาหาเธอ ทีนี้พออยู่ในห้องก็เกิดความรู้สึกทางเพศเลยพยายามข่มขืน แต่ณิชมนไม่ยอมจึงโมโหจนลืมตัวใช้สายเตารีดที่อยู่ในห้องรัดคอเธอนานกว่า 10 นาที จนขาดใจตาย จากนั้นหยิบสร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง และโทรศัพท์มือถือหลบหนีออกมา

Ž
เพื่อนทมิฬให้การต่อว่า หลังจากออกจากห้องพักแล้วก็นำโทรศัพท์มือถือไปขายที่ร้านใกล้ห้างบิ๊กซี นครปฐม ได้เงินมา 2 พันบาท แล้วเอาสร้อยทองไปขายในร้านทองที่ตลาด ได้เงินมา 5 พันบาท กลับมาที่ร้านเกมส์ที่มักจะเล่นเป็นประจำชวนเพื่อนรุ่นน้องอีก 3 คน ไปช่วยกันเผาทำลายศพ ให้เหมือนกับว่าน.ส.ณิชมนถูกไฟคลอกตาย

จากนั้นจึงกลับมาใช้ชีวิตปกติ จนกระทั่งตำรวจเริ่มควานตัวเข้ามาใกล้ แล้วเห็นข่าวความคืบหน้าของคดี จึงตัดสินใจหลบหนีก่อนไปจนมุมที่สถานีรถไฟราชบุรี

กลับมาชดใช้กรรม และเป็นอุทาหรณ์อีกเรื่องของคนใกล้ตัวที่กลายเป็นตัวอันตรายเสียเอง!??