มิวสิกวีดีโอ หื่นโผล่รับวาเลนไทน์

 

 

 

 

 

มิวสิกวีดีโอ หื่นโผล่รับวาเลนไทน์

 

ผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์”  ได้ทำการติดตามความเคลื่อนไหว ของเว็บไซต์ชื่อดัง “ยูทูบ”  ซึ่งเป็นที่เว็บไซต์ที่ประชาชนนิยมเข้าไปใช้บริการชมคลิปวีดิโอออนไลน์กันอย่างแพร่หลาย  ได้พบว่ามีมิวสิควีดีโอแนวเพลงอาร์แอน์บี ของวงอิลสลิก (illslick) ชื่อเพลง เอ็ม เล๊กซ์  (M-LEG) ซึ่งมีเนื้อหาของเพลงที่ไม่เหมาะสม   ส่อไปในทางลามกอนาจาร โดยมีความหมายของเพลงต้องการจะสื่อว่าขอให้ผู้หญิงนั่งถ่างขาออกให้เหมือนกับตัวอักษรภาษาอังกฤษคือตัวเอ็ม พิมพ์ใหญ่ ( M ) อีกทั้งภาพประกอบมิวสิควีดีโอที่นำนางแบบหลายคนสวมชุดว่ายน้ำ แบบบิกีนี่ มาทำท่าทางเต้นยั่วยวน เค้าคลอกับนักร้องนำ พร้อมทั้งมีการเต้นในลักษณะท่าทางที่ถ่างขาตรงตามกับเนื้อเพลง

ซึ่งมิวสิควีดีโอเพลงนี้ ถูกโพสไว้ในเว็บไซต์ “ยูทูบ”  โดยคนผู้ที่อัพโหลดนั้นใช้ชื่อว่า “NUKIEPEE”  ตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ. ที่ผ่านมา จนมาถึงในปัจจุบันนี้ มิวสิควีดีโอเพลงดังกล่าวได้มีคนเข้าไปชมแล้วกว่า 216,000 คน จนทำให้เกิดกระแสการเต้นขยับขาให้เป็นรูปตัว “เอ็ม” กันในหมู่วัยรุ่น ที่หัดร้องเพลงนี้ ตลอดไปถึงเต้นท่าทางขยับขากางออก ตามเนื้อเพลงดังกล่าว จากนั้นก็นำมาอัพโหลดเพื่อประชันกันในอินเตอร์เน็ตว่า ใครจะเต้นเพลงนี้ได้เซ็กซี่มากกว่ากัน ซึ่งคาดว่าในค่ำคืนของวันที่ 14 ก.พ. หรือวันวาเลนไทน์ ที่กำลังจะถึงนี้ กระแสความแรงของเพลงนี้ น่าจะ 1 ในเพลงติดอันดับ ที่ตามผับ เธค หรือสถานบันเทิงต่างๆ เปิดกัน เพื่อให้นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะผู้หญิง ได้เต้นพร้อมกับทำทางตามเนื้อหาของเพลง ซึ่งอาจเป็นการยุยั่วทางเพศ ให้กับผู้ที่พบเห็น จนเป็นอีกสาเหตุหนึ่งในการเกิดอาชญากรรมทางเพศในเทศกาลวันแห่งความรักได้

 

โดย ผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์” ได้ติดต่อทางโทรศัพท์ไปยัง นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช อดีตรองประธานคณะกรรมาธิการกิจการสตรี เยาวชนและผู้สูงอายุ ซึ่งในขณะนี้กำลังอยู่ที่ประเทศอินเดียในขณะนี้  ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภาพและเนื้อหาของมิวสิควีดีโอเพลงดัง กล่าวว่า ประเทศไทยถือว่าเป็นประเทศที่เสรี เสรีจนเรียกว่าไม่รู้จักคำว่ารับผิดชอบต่อสังคม  ไม่ว่าจะเป็นเพลง มิวสิควีดีโอ หรือการถ่ายแบบแฟชั่น ที่ออกมาในขณะนี้ ล้วนแต่โน้มน้าวให้เด็กและเยาวชน ทางไปสู่ความเสื่อม มีแต่เรื่องยั่วยุ ปลุกเร้า ทางเพศ  ซึ่งปกติเพลงที่มีลักษณะที่แปลกๆ พิเรนท์  ก็เป็นที่ชื่นชอบของเด็กและเยาวชนอยู่แล้ว ที่ผ่านมาอย่างเช่น เพลงคันหู ที่ออกมานั้น ซึ่งมีท่าเต้นที่ต่ำมาก ตนก็พูดมาเยอะแล้ว แต่ก็ไม่มีหน่วยงานไหนจะเข้ามาดูแลเรื่องแบบนี้สักที
 
นางระเบียบรัตน์ กล่าวต่อว่า จริงๆแล้วไม่ว่าจะเป็นกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงศึกษาธิการ รวมไปถึงกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการสื่อสาร (ไอซีที) ก็ควรที่จะขยับเข้ามาดูแลอย่างจริงจังจะได้เหลือพื้นที่ดีๆ ให้กับเด็กๆ ที่นับวันมีแต่จะน้อยลง และยังเป็นอันตรายกับสังคมไทยในอนาคตเป็นอย่างมาก ในตอนนี้ที่ทำได้ก็ต้องช่วยกันปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน ให้รู้จักแยกแยะข้อมูลทางโลกเทคโนโลยี ว่าควรจะรับข้อมูลที่ดีๆประเภทใดไปใช้ในชีวิตประจำวัน
 
ด้าน ดร. วัลลภ ปิยะมโนธรรม  นักจิตวิทยาและที่ปรึกษาโครงการศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ มศว.  ได้ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับมิวสิควีดีโอดังกล่าว ที่อาจเป็นปัจจัยหนึ่ง ในการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศของวัยรุ่น ในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ ว่า  ในมุมมองของนักจิตวิทยามองว่า การที่มีคนทำเพลงที่มีเนื้อหา หรือท่าต้องประกอบ ที่ส่อเสียดไปทางเรื่องเพศนั้น ก่อนหน้านี้จากการศึกษาวิจัยทางการแพทย์พบว่า จะเกิดขึ้นในหมู่ พวกรักร่วมเพศ ที่มักจะแสดงท่าทางออกมา ส่วนมากจะเป็นด้านการแสดง หรือโชว์ต่างๆ  แต่ในปัจจุบันมีแนวโน้มพบว่า คนที่คิดหรือสร้างผลงาน ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเรื่องเพศนั้น มักจะเป็นผู้ที่มีปมด้อยในอดีต  ไม่ได้รับการยอมรับ เลยนำเรื่องเพศสร้างขึ้นมาให้เป็นปมเด่นของตนอำพรางปมด้อยของตนเอาไว้   เพื่อต้องการให้เป็นที่ยอมรับนั่นเอง ซึ่งถ้าทำบ่อยๆ ก็จะติดเป็นนิสัย
 
ส่วนของมิวสิควีดีโอนี้ ที่มีเนื้อหาในลักษณะล่อไปทางกามอารมณ์  ที่ออกมาเผยแพร่ในช่วงก่อนเทศกาลวาเลนไทน์ที่จะถึงนี้ ก็มองว่าผู้ผลิตต้องการที่พยายามจะผูกโยงให้เรื่องทางเพศกับวันแห่งความรักนั้นเป็นเรื่องด้วยกัน  ยิ่งท่าเต้นในลักษณะนี้ ถ้ามีใครที่นำไปเต้นเลียนแบบ ตามผับ เธค หรือที่เที่ยวกลางคืน ในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์แล้วนั้น  ก็อาจจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของการทำให้เกิดการมีเพศสัมพันธ์ได้ง่ายขึ้นเพราะว่าผู้ที่ได้ดูนั้น รู้สึกว่าตนได้ถูกเย้ายวน ยั่วยุทางเพศ
 
ที่น่าตกใจมากกว่านั้น ตนพบว่าในช่วงใกล้เทศกาลวาเลนไทน์นี้ ได้มีกลุ่มนักเรียนหญิงมัธยมของโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง ได้ถ่ายภาพโดยถลกเสื้อผ้า ชุดนักเรียน แล้วนำไปโพสแข่งกันว่า ภาพของใครจะมีคนเข้ามาดูมากกว่ากัน  ซึ่งจะใช่เวลาตอนเที่ยงคืน ของวันที่ 14 ก.พ. ตัดสินว่าใครเป็นผู้ชนะ ทำให้มองว่าสังคมมันแย่ลงไปทุกวัน นอกจากพ่อแม่แล้ว ครูอาจารย์ ก็ควรที่จะเข้ามาช่วยดูแลด้วย รวมไปถึงกระทรวงวัฒนธรรมก็ควรที่จะรู้จักบทบาทการทำงานของตัวเองให้มากว่านี้ ก่อนที่วัฒนธรรมอันดีงามมันจะเสื่อมจนไม่เหลืออะไรเลย

 

Credit: http://news.impaqmsn.com/articles_hn.aspx?id=475362&ch=hn
13 ก.พ. 55 เวลา 13:37 10,116 13 40
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...