วันนี้ ( 12 ก.พ.) ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้สื่อข่าวได้พบกับชายชาวต่างชาติคนหนึ่งกำลังเข็นรถพาผู้หญิงพิการเดินไม่ได้นอนอยู่ในรถเข็น มาตามถนนศรีเสนา หมู่ 8 ต.สามกอ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยชายดังกล่าวได้จอดรถป้อนไก่ทอดให้กับผู้หญิงที่นอนอยู่ในรถ และยังคอยใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ด รวมทั้งเอาหวีแปลงผมหญิงสาวพิการที่นอนอยู่ตลอดเวลา เมื่อเข้าไปสอบถาม ทราบว่าชายชาวต่างชาติคนดังกล่าวคือนายนีวด์ โมเดน อายุ 43 ปี เป็นชาวออสเตรเลีย เป็นคู่รักของผู้หญิงที่นั่งอยู่ในรถเข็นดังกล่าว ทราบชือว่าน.ส.ปฎิมาภรณ์ ทองเทศ หรือกุ้ง อายุ 36 ปี
น.ส.ปฎิมาภรณ์ เปิดเผยด้วยรอยยิ้มว่า ขณะที่ตนอายุเพียง 13 ปี ตนเรียนหนังสืออยู่ชั้น ป.6 ที่ ร.ร.ราษฎร์บำรุงศิลป์ อ.เสนา ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชน ปรากฏว่าวันหนึ่งตนได้กระโดดเล่นอยู่ในที่นอนด้วยความเป็นเด็ก ปรากฏว่าเอาก้านคอลงกับที่นอนจนคอเคล็ด แต่ก็ไม่ได้เจ็บปวดมาก จึงไปเรียนหนังสือตามปกติ วันรุ่งขึ้นกลับมาบ้านด้วยความที่เป็นเด็กซน บ้านอยู่ริมแม่น้ำ จึงกระโดดลงไปในแม่น้ำว่ายน้ำกับเพื่อนๆ แล้วก็เกิดอาการปวดที่ต้นคออย่างรุนแรง จนต้องว่ายน้ำเข้าฝั่ง จากนั้นพ่อแม่พาไปโรงพยาบาลเสนา แล้วส่งต่อไปรักษาที่รพ.ศิริราช แล้วก็กลับมารักษาที่บ้านเกิด จ.พระนครศรีอยุธยา แต่แพทย์ลงความเห็นว่ากระดูกทับเส้นไม่สามารถที่จะฟื้นฟูได้
น.ส.ปฏิมาภรณ์ กล่าวอีกว่า ตนรู้สึกเสียใจ แต่ไม่ท้องแท้ พ่อแม่ซื้อคอมพิวเตอร์มาให้ ได้ฝึกอ่านเขียนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง จนเพื่อให้ทำเว็บไซต์บอกเล่าเรื่องราวของตนเอง จนกระทั่ง 7 ปีที่แล้ว นายนีวส์ ได้คอมเม้นท์ในเว็บไซต์ของตนแล้วให้กำลังใจ จนเวลาผ่านไป 2 ปี นายนีวส์ก็เดินทางมาหาตนที่เมืองไทย และขอดูแลตน จากนั้นทุกปีนีวส์ ก็จะบินมาปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อมาดูแล โดยทุกครั้งที่มาจะหาอาหารอร่อยมาให้ทาน ที่สำคัญคือพาเที่ยว ด้วยการพาออกจากบ้าน โดยเข็นรถวินแชร์สองล้อแบบคนพิการที่มีอยู่ไปตามที่ต่างๆในอำเภอ เข็นข้ามสะพาน ข้ามแม่น้ำ ไปตามหมู่บ้าน วันละ 5-6 ก.ม. และยังได้พาตนไปเที่ยวที่พัทยา ต่างจังหวัด โดยจะเดินเข็นรถอย่างนี้ตลอด ระหว่างทางก็จะแวะซื้ออาหาร ขนม บางวันเคยเข็นได้วันละเกือบ 10 ก.ม. และเช็ดหน้าให้ ใช้เวลาทั้งวัน ทำอย่างนี้จนถึงวันสุดท้ายที่เขาเดินทางกลับ
"ทำอย่างนี้มาตลอดเวลา 5 ปี บินมาทั้งหมด 8 ครั้งล่าสุดเพิ่งมาเมื่อปลายเดือน ม.ค.55 และจะกลับวันที่ 26 ก.พ.55 นี้ นีวส์อยากอยู่เมืองไทยดูแลตนแต่ทางการไม่ยอม อยากจะพาตนไปอยู่ด้วยที่ออสเตรเลีย ทางการออสเตรเลียก็ไม่ยอม ตนรู้สึกเสียใจตรงนี้ที่รักเราไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ แต่ดีใจที่ได้เจอเขา ขอให้เขามาหาเราทุกปี เราก็จะมีชีวิตอยู่ได้แล้ว" น.ส.ปฏิมาภรณ์ กล่าว
ด้านนายนีวส์ เปิดเผยว่า ครั้งแรกที่เห็นเรื่องราวของกุ้ง รู้สึกสงสาร ตนเป็นช่างอีเล็กทอรนิค ได้พยายามให้กำลังใจและเป็นเพื่อนพูดคุยกันมาเสมอ จนกระทั่งตัดสินใจที่จะเป็นคู่รักกัน และสัญญาว่าจะมาดูแลเขาทุกปี แต่ละครั้งจะอยู่ได้ไม่เกิน 1 เดือนเท่านั้น อยากจะเอากุ้งไปอยู่ด้วยก็ไม่ได้ จึงต้องยอมที่จะบินมาหาทุกปี และเชื่อว่านี่เป็นคนที่เราเคยอยู่ด้วยกันเมื่อชาติที่แล้ว ชาตินี้จึงได้ตามมาดูแลเธอ และจะดูแลตลอดไป และถ้ารัฐบาลให้ตนอยู่ในไทยได้ ตนก็จะมาอยู่ดูแลเธอตลอดไป