ขวัญกระเจิงยกกองถ่าย "แม่นาค" เฮี้ยน! แอบเหล่"เอก-รังสิโรจน์"

นายโชติพันธุ์ นิธิวัชร ผู้อำนวยการสร้างและผู้กำกับภาพยนตร์ "แม่นาค" ในเวอร์ชั่น 3ดี หรือ 3 มิติ พร้อมทีมงานได้นำข้อมูลและภาพถ่ายลี้ลับเหนือโลกมาเปิดเผยกับ "เดลินิวส์" ว่า ในเวลา 09.56 น. ของวันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นฤกษ์ดีที่ทีมงานถ่ายทำภาพยนตร์ ได้จัดพิธีบวงสรวงขอขมาดวงวิญญาณแม่นาคพระโขนงหรือคุณย่านาค ที่ศาลาวัดมหาบุศย์ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง โดยเหตุการณ์ต่าง ๆ ก็ผ่านพ้นไปด้วยดี ไม่มีเหตุการณ์ที่น่าหวาดผวาแต่อย่างใด

จนกระทั่งเช้าวันเดียวกันนี้ ทีมงานได้นำภาพถ่ายระหว่างทำพิธีมานั่งดูกัน ก็พบกับสิ่งที่ไม่คาดฝันเหนือธรรมชาติ โดยระหว่างที่ เอก-รังสิโรจน์ พันธุ์เพ็ง พระเอกหนุ่มชื่อดัง ซึ่งรับบทเป็น "พ่อมาก" ได้เข้าไปจุุดธูปเทียนสักการะและไหว้แม่นาคเพื่อขอขมาที่รับบทเป็นสามีนั้น ปรากฏว่าดวงตาของรูปปั้นแม่นาคหรือย่านาคได้เหลือบมาชำเลืองมอง เอก-รังสิโรจน์ เห็นได้ชัดเจน รวมทั้งขณะที่เอก-รังสิโรจน์ และตั๊ก-บงกช คงมาลัย นางเอกชื่อดังในฐานะผู้รับบทเป็นแม่นาค นั่งอยู่ใกล้กัน รูปปั้นแม่นาคก็ชำเลืองมอง เอก-รังสิโรจน์ เช่นเดียวกัน สร้างความแตกตื่นให้กับทีมงานและดารานักแสดง ขนลุกขนพองสยองเกล้ากันทั่วหน้า

นายโชติพันธุ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับภาพยนตร์เรื่องแม่นาค 3 ดี เป็นภาพยนตร์ 3 มิติเรื่องแรกของคนไทย เริ่มถ่ายทำกันมาตั้งแต่เดือน ต.ค. 2553 โดยระหว่างการถ่ายทำได้เกิดปาฏิหาริย์และสิ่งลี้ลับขึ้นหลายครั้ง ทั้งเรื่องเงินทุน เคยประสบปัญหาพออธิฐานขอให้แม่นาคช่วยก็จะมีเงินไหลเข้ามาทุกครั้งไป ไม่เคยขัดสนเลย น่าแปลกประหลาดมาก ที่สำคัญหลายครั้งที่ย่านาคมาเข้าฝันบอกโชคลาภให้นำไปเสี่ยงโชคกัน ก็เคยร่ำรวยกันยกกองถ่ายมาแล้วหลายครั้ง

สำหรับหนังนี้มีการสอดแทรกศิลปะวัฒนธรรมไทย เช่น พิธีแต่งงาน, แห่ขันหมาก, แม้แต่พิธีทําบุญให้คนตาย “ทั้งนี้ขอบอกว่าหนังเรื่องนี้ไม่ใช่ของใครหรือเป็นของคนหนึ่งคนใด แต่เป็นของ แม่นาค-ย่านาคอย่างแท้จริง โดยรายได้ส่วนหนึ่งจะนำไปบูรณะซ่อมแซมศาลาแม่นาค และรายได้ทั้งหมดจากการฉายภาพยนต์รอบปฐมฤกษ์จะมอบให้ มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและ สตรี เพื่อนำไปทำกิจกรรมช่วยเหลือสังคมต่อไป โดยในวันที่ 23 ก.พ. ภาพยนตร์เรื่องนี้จะฉายพร้อมกันทุกโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศพร้อม ๆ กับโรงภาพยนตร์ในประเทศสิงคโปร์ด้วย” นายโชติพันธุ์ กล่าว
 

ทางด้านพระเอกหนุ่มชื่อดัง เอก-รังสิโรจน์ ผู้รับบท พ่อมาก เปิดเผยว่า เมือเห็นภาพถ่ายแล้วรู้สึกขนลุก ในการทำงานครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้รับการวางตัวให้รับบทพ่อมาก ในวันนั้นได้อธิฐานว่าถ้าได้รับเลือกก็ขอให้ถ่ายทำด้วยความราบรื่น ซึ่งทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี ทั้งนี้เชื่อว่าเป็นความต้องการของย่านากที่ต้องการให้หนังเรื่องนี้ออกมาสมบูรณ์แบบและสมจริงมากที่สุด
 

ส่วนนางเอกสาว ตั๊ก-บงกช ผู้รับบทเป็นแม่นาคในภาพยนตร์ กล่าวว่า เมือเห็นภาพแล้วรู้สึกขนลุก หลังจากไหว้ย่านาคเสร็จแล้วได้เข้าไปกอดองค์ย่านาครู้สึกว่าองค์ย่านาคนิ่มเหมือนกอดคนจริง ๆ ซึ่งไม่รู้ว่าองค์ย่านาคนิ่มอยู่แล้วหรืออย่างไร ทั้งนี้ตั้งแต่รับบทเป็นย่านาค ยอมรับเลยว่าทีแรกไม่ค่อยเชื่อเรื่องลี้ลับเท่าใด แต่พอเริ่มถ่ายทำไปหลายวัน รู้สึกได้เลยว่าเหมือนมีย่านาคมาอยู่ด้วย เวลาถ่ายก็พยายามคิดว่าย่ารู้สึกอย่างไรที่ต้องอยู่คนเดียว ซึ่งตั๊กยอมรับเลยว่ารู้สึกเหงาจับใจขึ้นมาทันที

"นอกจากนี้หลาย ๆ ฉากทั้งตัวตั๊กเอง และทีมงานก็ต้องตกใจเมื่อถ่ายออกมาแล้วไม่เหมือนภาพตั๊กเลย แต่กลับไปเหมือนรูปย่านาคที่วัดมหาบุศย์มากกว่า ตอนนี้ตั๊กเชื่อละนับถือย่านาคมาก ๆ ว่าท่านศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ เห็นรูปแล้วขนลุกทุกครั้ง คิดว่าย่าคงอยากจะมาช่วยให้หนังประสบความสำเร็จด้วย” นางเอกดังกล่าว
 

ขณะที่ โสธรณ์ รุ่งเรือง นักแสดงอาวุโส ผู้รับบท อาจารย์คง ในภาพยนตร์เรื่องนี้ เปิดเผยว่ารู้สึกดีใจที่ได้ร่วมแสดงภาพยนตร์ 3 มิติเรื่องแรกของคนไทย แม้ว่าระหว่างถ่ายทำจะพบอุปสรรคเรื่องฝนเพราะเริ่มถ่ายในฤดูฝน แต่ทุกครั้งที่จะเข้าฉากกลางแจ้งก็จะอธิฐานบอกแม่นาคว่าขออย่าให้ฝนตกเลย เพราะหากถ่ายไม่ได้ลูกก็ไม่ได้เงิน ก็เกิดเรื่องอัศจรรย์ขึ้นหลายครั้งฝนที่ตกชนิดไม่ลืมหูลืมตากลับหยุดสนิท ส่วนตัวเชื่อเต็มร้อยในอภินิหารของแม่นาคพระโขนง
 

สำหรับเรื่องย่อ แม่นาค 3ดี กล่าวถึง ณ พระโขนง เมื่อผัวเมียคู่หนึ่งยืนล่ำลากันที่ศาลาด้วยความอาลัย นายมาก ผู้ผัวถูกบาดหมายเกณฑ์เลขไพร่ไปเป็นทหารที่บางกอก ฝ่ายเมีย คือ นางนาค ขณะนั้นกำลังตั้งครรภ์อ่อน ๆ อยู่ด้วย นางนาคเอาแต่ร่ำไห้ว่าจะขาดใจตาย ในยามที่เรือของผัวลับคุ้งน้ำไป นายมากถูกเกณฑ์ไปรบในสงคราม ณ สมรภูมิอันกันดาร ได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงถูกส่งตัวไปรักษากับ สมเด็จพุฒาจารย์โตที่วัดระฆัง นางนาคไม่ได้ข่าวคราวผัวเลยตั้งแต่จากกันไป ได้แต่เพียรมายืนรอผัวที่ศาลาท่าน้ำแห่งนั้นทุกเมื่อเชื่อวัน ขณะที่ครรภ์ของนางก็ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
 

เข้าเดือนที่ 9 นางนาคเจ็บท้องจะคลอดลูก ทิดอ่ำ ได้ตาม ยายเอิบ หมอตำแยมาทำคลอด แต่ลูกในท้องก็หายอมออกมาไม่ นางนากเบ่งลูกด้วยความเจ็บปวดจนในที่สุดก็ขาดใจตายไปทั้งแม่และลูก ฝ่าย นายมาก เมื่อบาดแผลหายดีแล้วก็ให้เป็นห่วงเมีย จึงอำลา สมเด็จโต กลับบ้านที่พระโขนงระหว่างทาง นายมากให้ผิดสังเกตนัก ด้วยทั่วทั้งบางพระโขนงเงียบเหงาวังเวงผิดหูผิดตา ครั้นมาถึงที่ศาลาริมน้ำก็พบ นางนาค อุ้มลูกมายืนรอผัวอยู่ นายมากก็ดีใจที่ได้พบลูกเมีย โดยหาเฉลียวใจไม่ว่าเมียและลูกของตนนั้นเป็นผีหาชีวิตไม่แล้ว

นายมาก อยู่กินกับ ผีนางนาค ฉันผัวเมีย โดยมิได้ระแคะระคายใด ๆ เลย ผีนางนาคเฝ้าปรนนิบัติผัวเฉกเมื่อครั้นยังมีชีวิตอยู่ ความรักความอาลัยของนางนั้นยิ่งใหญ่เกินกว่ากฎอนิจจัง หากนางเองก็สำเหนียกได้ว่าวันหนึ่งนายมากจะต้องรู้ความจริงว่านางตายไปแล้ว และวันนั้นทั้งสองผัวเมียก็จะต้องจำพรากจากกันไปชั่วนิรันดร์ นางจึงทำทุกวิถีทางเพื่อมิให้นายมากรู้ ขณะที่ชาวบ้านละแวกนั้นเริ่มตายลงทีละคน รวมทั้ง ทิดอ่ำก็ตายลงอย่างลึกลับ และเสียงล่ำลือถึงอิทธิฤทธิ์ ผีนางนาคก็ระบือไปทั่วบางพระโขนง จนไม่มีใครกล้าออกไปไหน และแล้วคืนที่ นายมาก รู้ความจริงก็มาถึง เมื่อผีนางนาคเผลอนำมะนาวตกลงใต้ถุนเรือน นายมากแอบเห็นเมียแสดงอิทธิฤทธิ์ยื่นมือยาวลงไปเก็บผลมะนาวนั้น ก็รู้ทันทีว่าเมียของตนเป็นผี
 

นายมากตกใจกลัวจึงหนีไปซ่อนตัวที่วัดมหาบุศย์ เวลานั้นญาติทิดอ่ำผู้โกรธแค้นได้ยกพวกมาเผาเรือนนางนาค ผีนางนาคอาละวาดฆ่าคนตายไปมากมาย ก่อนจะออกติดตามหาผัวไปถึงวัดมหาบุศย์ จนพระเณรแตกตื่นตกใจกันไปทั่ว ร้อนถึง สมเด็จโต วัดระฆังต้องออกเดินทางมาปราบ ท่านไปที่หลุมศพ นางนาคจึงสงบลง สมเด็จโตจึงเจาะเอากระดูกหน้าผากศพชิ้นหนึ่งเพื่อสะกดวิญญาณนางนาคไว้ และนำติดตัวไปกับท่านตลอดเวลานับตั้งแต่วันนั้นมาไม่มีใครได้ยินข่าว ผีนางนาค ออกอาละวาดอีกเลย นายมากได้บวชเป็นภิกษุเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่เมียรักในสัมปรายภพ ส่วนกระดูกหน้าผากชิ้นนั้นภายหลังได้หายสาบสูญไปเหลือไว้แต่เพียงเรื่องเล่าขานถึงความรักความภักดีต่อผัวของนางนาค ที่ยังคงอยู่ตราบทุกวันนี้.

12 ก.พ. 55 เวลา 11:28 11,366 15 60
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...