บารากู่ดูดแล้วดีจริงหรือ

ปัจจุบันการสูบ “บารากู่” กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น โดยมักเสพในสถานบันเทิง ผับ บาร์ หรือแม้กระทั่งตามชุมชนต่าง ๆ
 

“บารากู่” หรือที่ชาวอาหรับเรียกว่า ฮุกก้า (Hookah) หรือ ชีช่า (Sheesha) เป็น อุปกรณ์สำหรับการสูบยาเส้นชนิดหนึ่งที่มีมานานแล้ว ซึ่งนำเข้าจากประเทศอียิปต์หรืออินเดีย นิยมใช้อุปกรณ์ชิ้นเดียว ล้อมวงกันสูบหลาย ๆ คน

การสูบบารากู่ จะใช้เครื่องมือการสูบที่เป็นภาชนะเนื้อโลหะ รูปทรงคล้ายตะเกียงอาหรับ ทรงสูงปากแคบ ส่วนบนสุดใช้วาง ยาเส้นที่เรียกว่า มาแอสเซล (MU’ASSEL) ซึ่ง เป็นส่วนผสมของใบยาสูบกับสารที่มีความหวานอย่าง น้ำผึ้ง กากน้ำตาล ผลไม้หรือดอกไม้ตากแห้ง เช่น แอปเปิ้ล สตรอเบอร์รี่ เชอร์รี่ องุ่น มะม่วง กาแฟ วานิลลา มะนาว กุหลาบ รวมไปถึงสมุนไพรต่าง ๆ ทำให้เกิดกลิ่นหอม ซึ่งมักจะห่อไว้ในกระดาษฟอยส์ โดยจะใช้ถ่านหรือความร้อนจากไฟฟ้าในการเผายาเส้น ควันจากการเผาไหม้จะผ่านน้ำมายังส่วนล่างสุด ซึ่งด้านล่างจะเป็นกระเปาะใส่น้ำ เมื่อมีการทำความร้อน ยาสูบจะเกิดควันแล้วลอยผ่านมาทางน้ำ ซึ่งผู้สูบเชื่อว่าจะสามารถกรองเอาของเสียต่าง ๆ เอาไว้ และผ่านไปยังท่อที่ต่อกับส่วนปากดูดเพื่อใช้ในการดูดควัน?

โดยมีกระแสร่ำลือว่า การสูบบารากู่ สามารถช่วยเลิกสูบบุหรี่ ช่วยฟอกปอดให้สะอาดขึ้น และแก้โรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ได้ เช่น โรคแพ้อากาศ หรือไซนัส รวมถึงช่วยกระตุ้นอารมณ์เพศ?

ซึ่งวิธีการที่สูบยาเส้นผ่านน้ำนี่เอง ทำให้ผู้สูบเข้าใจผิดว่า จะทำให้ปลอดภัยมากขึ้น แต่ ผลการวิจัยได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ยาเส้นประเภทสูบผ่านน้ำอย่างบารากู่นั้น มีอันตรายมากกว่าการสูบบุหรี่ทั่วไป เพราะมีสารนิโคติน และสารทาร์จำนวนมากกว่า อีกทั้งการสูบผ่านน้ำและการผสมกับผลไม้กลิ่นต่าง ๆ จะทำให้ความเข้มข้นของควันจางลง ทำให้ผู้สูบ สูบได้ลึกมากขึ้น และจำนวนมากขึ้น ถ้าใช้เวลาสูบนาน 45 นาที จะได้รับสารทาร์เป็น 36 เท่า คาร์บอนมอนนอกไซด์เป็น 15 เท่า และนิโคตินเป็น 70 เท่า เมื่อเทียบกับการสูบบุหรี่ 1 มวน ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายอย่างมาก  

ผู้สูบจะได้รับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ซึ่งเป็นสารที่เป็นปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรค หัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดแข็งตัว และโรคเรื้อรังของระบบทางเดินหายใจ ผู้สูบจะมีอาการปวดศีรษะ ตามองเห็นภาพไม่ชัด ใจสั่น เวียนศีรษะ และมีระดับโคเลสเตอรอลในกระแสเลือดมากกว่าผู้ที่สูบบุหรี่ทั่วไป อีก ทั้ง ยังอาจกระตุ้นให้เกิดหลอดลมตีบตัวในผู้ป่วยโรคหอบหืด และเพิ่มการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร จึงเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นแผลในกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ ยังพบว่าทำให้เกิดการเจริญเติบโตผิดปกติของทารกในครรภ์อีกด้วย?

ด้านนายแพทย์จรัล ตฤณวุฒิพงษ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โดย ทั่วไปคำว่า “บารากู่” ของตะวันออกกลางเป็นการนำเอาใบยาสูบแห้ง มาผสมกับผลไม้ ทำให้เกิดกลิ่นรสชาติ เผาและส่งควันผ่านน้ำ แล้วดูดควันเข้าทางปาก เมื่อเปรียบเทียบแล้วก็เหมือนกับการสูบบุหรี่ธรรมดานั่นเอง ดังนั้น การที่ผู้ประกอบการอ้างว่าสามารถฟอกปอด ช่วยให้เลิกบุหรี่ได้นั้นไม่จริงอย่างแน่นอน เพราะในควันบุหรี่มีสารเคมีมากมาย และสารเคมีก่อให้เกิดโรคมะเร็ง?

แหล่งข่าววัยรุ่นนักเที่ยวคนหนึ่ง เปิดเผยว่า ขณะนี้การสูบบารากู่ นอกเหนือจากลูกค้าชาวไทยที่มีทั้งหญิงทั้งชายแล้ว ลูกค้าชาวต่างชาติ ก็นิยมสูบ สำหรับสนนราคาการสูบบารากู่นั้น หากเป็นบารากู่แบบธรรมดา อัตราค่าสูบตกครั้งละ 380 บาท แพงที่สุดคือ 480 บาท แต่ที่น่าเป็นห่วงในขณะนี้คือ มีนักเที่ยวบางคนฉวยโอกาสนำยาเสพติด อาทิ ยาเค ยาอี ยาบ้า กัญชา หรือผงขาว ผสม เข้าไปในยาสูบบารากู่ หากร้านสูบบารากู่ร้านใดมีลูกค้าแนวนี้ ก็จะคิดราคาเพิ่มอีกในอัตราตั้งแต่ 200 – 1,000 บาท ดังนั้น บารากู่จึงเป็นช่องทางหนึ่ง ในการขายยาเสพติด โดยพ่อค้าจะมีกลวิธีล่อใจลูกค้าด้วยการบอกว่า ใครสูบบารากู่แล้ว จะทำให้มีรูปร่างและผิวพรรณดี นอนหลับ กินได้ ที่สำคัญจะช่วยกระตุ้นอารมณ์เพศได้อีกด้วย ที่น่าเป็นห่วงก็คือ กลุ่มลูกค้าที่เป็นนักเรียน นักศึกษา ส่วนใหญ่จะติดการสูบบารากู่กันงอมแงม บางรายพ่อแม่ทำไร่ทำนาอยู่ต่างจังหวัด ส่งเงินมาให้ลูกเรียนหนังสือในกรุงเทพฯ แต่กลับเอาเงินไปสูบบารากู่กันจนหมด

สอดคล้องกับแหล่งข่าวอีกคน ที่เป็นเจ้าของร้านบารากู่แห่งหนึ่ง บอกว่า แรก ๆ มองดูว่าบารากู่ไม่มีอันตราย แต่กลับมีภัยแฝงที่หลายคนคาดไม่ถึง เมื่อมีการนำยาเสพติดมาผสมในการสูบแล้ว หวั่นว่าจะเป็นผลร้ายต่อสังคมในอนาคต เพราะขณะนี้มีนายทุนใหญ่ยาเสพติดอย่างน้อย 5 ราย ที่กำลังแข่งขันกันในธุรกิจมืดนี้ บางรายถึงกับยิงกันตายก็มี เพื่อแย่งชิงพื้นที่การเปิดร้านบารากู่ โดยเป้าหมายของนายทุน หวังขายยาเสพติดให้กับกลุ่มวัยรุ่นที่นิยมสูบบารากู่ โดยนายทุนเหล่านี้จะขอเปิดมุมสูบบารากู่ ตามสถานบันเทิงทั่วไป ทั้งในเขตนครบาล เช่น ย่านตรอกข้าวสาร ซอยนานา พัฒน์พงษ์ สีลม รวมถึงย่านอาร์ซีเอและตามจังหวัดใหญ่ ๆ อาทิ เชียงใหม่ หาดใหญ่ ภูเก็ต พัทยา

“โดยให้เปอร์เซ็นต์สูงถึง 30 – 40% เมื่อลูกค้ามาสูบก็จะพยายามหลอกล่อให้สูบบารากู่ชนิดพิเศษ ที่ผสมยา พร้อมอธิบายถึงสรรพคุณบารากู่ จนลูกค้าติด ก็จะชวนมาสูบกันเป็นประจำ ซึ่งการมั่วสุมสูบบารากู่แบบนี้ ไม่ต่างอะไรกับการสูบฝิ่น ตามโรงฝิ่นในสมัยโบราณ ถึงโทษภัยมันจะต่างกัน แต่ก็ใกล้เคียงกันมาก รัฐบาลยังจำกัดเรื่องบุหรี่ได้ เช่น ห้ามโฆษณา ห้ามวางจำหน่ายให้เห็นหรือกำหนดอายุผู้ซื้อ น่าจะมีข้อกำหนดกับผู้สูบบารากู่บ้าง” แหล่งข่าวคนเดิม กล่าว? 

ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีผู้คนหันมาสูบบารากู่กันมากขึ้น โดยเฉพาะวัยรุ่นและนักศึกษา สาเหตุก็เหมือนกับคนลองสูบบุหรี่ส่วนใหญ่ อยากเท่ อยากลอง แก้เครียด คิดว่าสูบนิดเดียวไม่ติดหรอก รวมถึงมีความเชื่อที่ผิด ๆ เกี่ยวกับการสูบ และมีแนวโน้มว่ากระแส ?บารากู่ จะเพิ่มพูน รุนแรงและขยายไปในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ตราบใดที่ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังไม่ออกมาตรการที่ชัดเจนมาควบคุม

ไม่ต้องรอให้วัวหายแล้วค่อยล้อมคอกสักเรื่อง จะเป็นไรไป….

credit www.pattayadailynews.com

Credit: http://www.postjung.com/
11 ก.พ. 55 เวลา 15:43 18,432 24 270
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...