รายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกฯ ตร. เปิดเผยถึงการดูแลความเรียบร้อยในช่วงวันวันวาเลนไทน์ ซึ่งตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ว่า
ผบ.ตร.ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่ตรวจตราดูแล ตามหอพักและโรงแรม เนื่องจากได้มีความเป็นห่วงเรื่องของเด็กเยาวชนและยาเสพติด และได้ขอความร่วมมือไม่ให้ให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีออกจากบ้านหลังเวลา 22.00 น. โดยให้ผู้ปกครองดูแลอย่างใกล้ชิด หากพบเด็กเที่ยวเตร่อยู่หลังเวลา 22.00 น.จะเอาตัวมาไว้ที่ สน.เพื่อให้ผู้ปกครองมารับกลับบ้าน รวมทั้งห้ามแต่งกายยั่วยุทางเพศ
ทั้งนี้ มาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ในช่วงวาเลนไทน์ มีดังนี้
1.ดำเนินการตามมาตรการพิทักษ์เด็ก
2.เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบสถานบริการต่างๆ โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการจัดระเบียบสังคมอย่างเคร่งครัด โดยห้ามมิให้สถานบันเทิงเปิดเกินเวลา หากพบฝ่าฝืนให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับเจ้าของสถานบริการ อย่างใช้มาตรการให้หยุดกิจการชั่วคราว
3.กวดขัน ตรวจตรา ประชาสัมพันธ์ สถานประกอบการ เช่น ตามสถานบันเทิง โรงแรมม่านรูด โดยจะเรียกผู้ประกอบการแต่ละพื้นที่มาประชุมขอความร่วมมือกันสอดส่องดูแลไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้าไปมั่วสุมทางเพศ
4.กวดขันจับกุมสถานที่ลักลอบจำหน่ายสุราแก่เด็กและเยาวชน
5.จัดกำลังตำรวจ กวดขัน ตรวจตราตามสถานที่ต่างๆ อย่างสวนสาธารณะ โรงภาพยนตร์ โต๊ะสนุกเกอร์ ร้านคาราโอเกะ โดยจะมีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ กทม.อย่างต่อเนื่องในการออกตรวจตรา
“หากพบเด็กหรือเยาวชนประพฤติตนไม่เหมาะสม ขั้นต้นจะเป็นการกล่าวตักเตือน และขอความร่วมมือห้ามเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีออกจากบ้านหลังเวลา 22.00 น. หากเจ้าหน้าที่พบกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวหลังเวลาที่กำหนด ก็จะเชิญตัวมาตักเตือนที่สถานีตำรวจ พร้อมเรียกผู้ตัวผู้ปกครองมารับตัวกลับบ้าน”
6.ตั้งจุดตรวจ กวดขันจับกุมผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปริมาณเกินกว่ากฎหมายกำหนด และขับขี่ยานพาหนะ อาจก่อเกิดความเสียหายต่อประชาชนผู้ใช้ถนนได้
7.ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือให้สุภาพสตรีแต่งกายให้รัดกุม ไม่ใส่เครื่องประดับที่มีมูลค่าสูง เพื่อไม่ให้เป็นการยั่วยุทางเพศและเป็นมูลเหตุจูงใจต่อการประทุษร้ายต่อทรัพย์
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ไม่ได้ต้องการที่จะละเมิดสิทธิ แต่ขอความร่วมมือจากพ่อแม่ผู้ปกครองและเยาวชน เนื่องจากเกรงว่าจะมีกลุ่มมิจฉาชีพ เลือกช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ที่มีประชาชนออกมาร่วมทำกิจกรรมเป็นจำนวนมากเพื่อก่อเหตุได้.