ผ่าเบื้องหลัง-ลุยล้าง ทลายแก๊งค้าสัตว์ป่า ชำแหละ-กลางกรุง

ค่านิยมการสะสมสัตว์ป่า ไม่ว่าจะมีชีวิตแล้วเลี้ยงไว้ในกรงขัง หรือเหลือเพียงเศษซากที่ไร้วิญญาณ ยังคงมีให้เห็นอยู่ทั่วไป

ถึงแม้เจ้าหน้าที่พยายามล้อมคอก ด้วยการปราบปรามขบวนการเหล่านี้ให้สิ้นซาก

แต่ก็ยังมีกลุ่มคนที่อาศัยช่องว่างทางกฎหมาย แอบลักลอบล่าและขนย้ายสัตว์ป่าไปจำหน่ายไม่เว้นแต่ละวัน

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถบุกทลายแก๊งแล่ชำแหละสัตว์ป่าได้กลางกรุง

เมื่อเข้าไปตรวจสอบก็ต้องถึงกับผงะ หลังพบซากสัตว์ป่า ทั้งเสือโคร่ง ม้าลาย กวาง สิงโต

ก่อนสอบสวนขยายผลจับกุมได้เกือบทั้งขบวนการ

ซึ่งคนร้ายกลุ่มนี้ถือเป็นแก๊งชำแหละและส่งออกเนื้อสัตว์ป่ารายใหญ่ของประเทศ

เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ขณะพ.ต.ท.สุขกรี คันศร รอง ผกก.ปป.สน.บางชัน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนอยู่บริเวณปากซอยพระยาสุเรนทร์ 12 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม.

จังหวะนั้นเห็นชายต้องสงสัยยืนซื้อของอยู่ปากซอย แต่มีสิ่งที่สะดุดตาเจ้าหน้าที่ เพราะมือทั้ง 2 ข้างของชายคนดังกล่าวเปื้อนเลือดจนโชก

เจ้าหน้าที่จึงรีบจอดรถและเข้าไปสอบถามข้อเท็จจริง ก่อนคุมตัวชายต้องสงสัยตรวจค้นบ้านพักเลขที่ 64/5 อยู่ในซอยเดียวกัน

เมื่อเดินทางไปถึงบริเวณหน้าบ้านพบถุงดำวางอยู่ 3 ใบ เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดออกดูก็ต้องถึงกับผงะ หลังพบเป็นซากเสือโคร่งเพศผู้ถูกชำแหละยัดอยู่ในถุง

จึงรีบเข้าไปตรวจค้นภายในบ้านแล้วพบคนงาน 4 คน กำลังแล่ชำแหละซากเสือโคร่งขนาดใหญ่ น้ำหนักประมาณ 100 ก.ก.

นอกจากนี้เมื่อตรวจสอบโดยรอบยังพบซากม้าลายที่ถูกสตัฟฟ์ ซากเสือโคร่งสีขาว กวาง วัวป่า วีเดอร์บีสต์ สิงโต และช้าง

จึงเข้าควบคุมตัวนายสมบัติ น้อยชมพู อายุ 49 ปี นางภัทรธมพรรณ มุ่งเกี้ยวกลาง อายุ 40 ปี นางนวล คำจู อายุ 53 ปี และนางบุญชู ขวัญเขียว อายุ 64 ปี

พร้อมด้วยน.ส.ณัฐสุดาพรรณ เรืองศรี อายุ 38 ปี เจ้าของบ้าน และนายยูซุป แซ่ม้า อายุ 61 ปี ผู้ติดต่อรับซากสัตว์

ผู้ต้องหาให้การซัดทอดว่า รับซากเสือโคร่งมาจากนายอ๊อด ซึ่งพักอยู่ย่านบางกรวย โดยนายอ๊อดจะให้คนขับรถส่งซากเสือโคร่งมาชำแหละที่บ้าน

แต่ในทางสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่าแก๊งแล่เสือรายนี้จะนำซากและชิ้นเนื้อส่งไปขายที่ประเทศจีน รวมถึงประเทศในแถบเอเชียหลายประเทศ

ถัดมาอีก 2 วัน เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันและปราบปรามทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 41/6 หมู่บ้านธนากร 2 ต.วัดชลอ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ซึ่งเป็น บ้านพักของนายธนานุวัฒน์ บุญเพิ่ม หรือเสี่ยอ๊อด บางกรวย อายุ 61 ปี

เมื่อตรวจค้นโดยรอบบ้านไร้วี่แววของเสี่ยอ๊อด พบเพียงกรงนกและนกหายากที่เป็นสัตว์คุ้มครองอีก 6 ตัว

ก่อนเจ้าหน้าที่จะได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์จากเจ้าตัวขณะตรวจค้นว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้และจะเข้ามอบตัวในวันถัดไป

ขณะเดียวกันมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกชุดเข้าตรวจค้นบ้านหลังที่พบการลักลอบชำแหละสัตว์ป่าอีกรอบ แล้วพบนายประสิทธิ์ เรืองศรี อายุ 73 ปี พร้อมซากสัตว์ที่ถูกสตัฟฟ์ไว้อีกจำนวนมาก โดยเจ้าตัวอ้างว่ารับจ้างสตัฟฟ์สัตว์และมีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย

ต่อมาเมื่อถึงเวลาที่เสี่ยอ๊อดนัดหมายเจ้าหน้าที่เข้ามอบตัว แต่ก็ยังไร้วี่แววอีกเช่นเคย

พ.ต.อ.นรศักดิ์ เหมนิธิ รรท.ผบก.ปทส. พร้อมด้วยกำลังตำรวจ จึงขออนุญาตหมายจับและติดตามคุมตัวเสี่ยอ๊อดได้ที่บริเวณปากซอยรามอินทรา 129 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา

สอบสวนเสี่ยอ๊อดเบื้องต้นยังให้การปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นกับขบวนการชำแหละสัตว์ป่า ก่อนซัดทอดเป็นลูกน้องของนายยูซุปเท่านั้น

แต่ในทางสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า เสี่ยอ๊อดเปิดร้านอาหารป่าอยู่ในย่านบางกรวยมากว่า 10 ปี และยังลักลอบตระเวนซื้อซากสัตว์ป่า ซึ่งเป็นที่รู้จักในแวดวงค้าสัตว์ป่าเป็นอย่างดี

รวมทั้งเสี่ยอ๊อดยังมีประวัติเคยถูกจับกุมที่ จ.นครพนม ฐานกระทำผิดด้วยการเลี้ยงลูกหมี ซึ่งเป็นสัตว์สงวนเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน

โดยหลังจากนี้จะโอนคดีนี้มาให้ บก.ปทส.ดูแล เพื่อสืบสวนและขยายผลทลายยกแก๊ง

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...