เมื่อ 9 ก.พ. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รมช.สาธารณสุข นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวการจัดงานรณรงค์ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอดส์เนื่องในวันวาเลนไทน์ประจำปี 2555
นายวิทยา กล่าวว่า เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สำรวจพฤติกรรมการใช้และการเข้าถึงถุงยางอนามัยของเยาวชน อายุ 12-24 ปี ที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯ จากกลุ่มตัวอย่าง 1,014 คน พบว่าเยาวชนไทยร้อยละ 69 ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ส่วนในกลุ่มที่เคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว ระบุว่าเริ่มมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเมื่ออายุประมาณ 14-15 ปี ในจำนวนนี้ใช้ถุงยางอนามัยเพียงร้อยละ 52
ข้อมูลที่สำคัญพบว่า มีเยาวชนประมาณ 1 ใน 3 ยอมรับว่าเคย “สวิงกิ้ง” หรือเปลี่ยนคู่นอน ขณะที่ในเรื่องของทัศนคติของเยาวชนที่มีต่อถุงยางอนามัย พบเพียง ร้อยละ 43 เห็นว่าถุงยางอนามัยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์ได้ โดยเยาวชน ร้อยละ 89 ไม่พกถุงยางอนามัย
“กระทรวงสาธารณสุขมีความห่วงใยปัญหาที่สำคัญ 2 เรื่องใหญ่คือ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์รวมทั้งเอดส์ และปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ เยาวชนควรเก็บเรื่องเพศสัมพันธ์ไว้จนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม และหากมีเพศสัมพันธ์จะต้องมีการป้องกัน โดยใช้ถุงยางอนามัยซึ่งเป็นเครื่องมือชนิดเดียวเท่านั้นที่ป้องกันโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ทุกชนิดและการตั้งครรภ์ที่ได้ผลดีที่สุด” นายวิทยา กล่าว
นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า พบข้อมูลที่น่าสนใจคือจำนวนผู้ป่วยหนองในมีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยเมื่อปี 2543 มีอัตราผู้ป่วยโรคนี้จาก 22.3 รายต่อแสนประชากร แต่เมื่อปี 2553 พบว่ามีอัตราผู้ป่วยหนองในเพิ่มเป็น 42.2 รายต่อแสนประชากร ซึ่งเป็นข้อบ่งถึงการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย
ด้านนพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เนื่องในวันวาเลนไทน์ปีนี้จะมีการจัดงานรณรงค์พร้อมกันทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิด “รักปลอดภัย ถุงยางอนามัย...เอาอยู่” สำหรับกรุงเทพฯ จัดงานรณรงค์ในวันที่ 14 ก.พ. เวลา 11.00-18.00 น. ที่ลานกิจกรรม เอ็มบีเค อเวนิวชั้น 1 ศูนย์การค้าเอ็มบีเค เซ็นเตอร์ เพื่อสร้างกระแสให้สังคมตื่น การสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกต่อการซื้อ การพก และการใช้ถุงยางอนามัย