เมื่อไปถึงพบน้องธันวา เด็กชายหน้าตาน่ารักสดใสนั่งเล่นอยู่กลับนายวิทยาและนางบัวลอย วรตุ่นแก้ว บิดาและมารดา เมื่อเห็นผู้สื่อข่าวเดินเข้าไปหา น้องธันวาก็อ่านข้อความที่เห็นติดอยู่ บนเสื้อได้ในทันทีแต่การออกเสียงยังไม่ค่อยชัดเจน แต่สามารถจับใจความได้ เนื่องจากน้องธันวายังเด็กมาก และเพื่อความแน่ใจทางผู้ปกครอง และเพื่อนบ้านได้พาไปพิสูจน์ว่าอ่านได้จริงโดยเดินทางไปที่โรงเรียนบ้านแม่จางและเข้าไปยังห้องสมุด เพื่อให้น้องธันวาได้อ่าน ทั้งป้ายข้อความหนังสือที่วางอยู่ภายในชั้นต่างๆ แม้กระทั่งชาร์ทที่ใช้สอนเด็กประถมฯ ก็สามารถอ่านได้หมด ซึ่งพัฒนาการเรื่องการอ่านของน้องธันวาถือว่าเร็วกว่าเด็กปกติทั่วไป แต่จะติดเรื่องการออกเสียงที่ยังไม่ชัดเจนเท่านั้น

 

ด้านนางประนอม ไชชนะ ครูชำนาญการประจำโรงเรียนแม่จาง เปิดเผยว่า เมื่อครั้งที่น้องธันวาเดินทางมากับป้าและตนเองถือชาร์ทที่ใช้สอนเด็กประถมเดินผ่าน และพบว่าน้องธันว อ่านออกเสียงได้ทั้งหมด จนถึงกับตกใจขนลุกคิดไม่ถึงว่าเด็กขนาดนี้จะอ่านออกเสียงได้ถึงกับบอกให้นักเรียนภายในโรงเรียนมาดูและให้ตั้งใจเรียนมากยิ่งขึ้นซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกมาก

 

นางบัวลอย แม่น้องธันวา เปิดเผยว่า มีลูกสองคน คนแรกเป็นผู้หญิงอายุ 18ปี และน้องธันวา อายุ 3 ปี 2 เดือน โดยขณะที่ตั้งท้องตนเองชอบดูแต่หนังเกาหลี จนกระทั่งคลอดน้องธันวาออกมาตั้งแต่เล็กน้องธันวาไม่เคยพูดและส่งเสียงเลย ตนคิดว่าน่าจะเกิดปัญหาเรื่องสุขภาพกับลูก กระทั่งอายุได้ประมาณ 2 ขวบ น้องธันวาพยายามพูดแต่ไม่สามารถจับใจความได้ แต่ช่วงนั้นน้องธันวาชอบเอาหนังสือมานั่งเปิดดูและเปิดเพลงคาราโอเกะไปด้วย และเพื่อนบ้านหรือญาติต่างล้อเรียนว่า น้องธันวาพูดได้แต่ภาษาเกาหลี คือส่งเสียงออกมาแต่ไม่รู้เรื่อง

 

นางบัวลอย กล่าวว่า ล่าสุดเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา นายรัตน์ ผู้ใหญ่บ้าน พาน้องธันวาไปทำธุระที่ว่าการอำเภอแม่เมาะและขณะเดินเข้าอำเภอ น้องธันวาสามารถอ่านหนังสือและเปล่งออกเสียงได้ชัดเจนมากขึ้น ทำให้ผู้มาติดต่อราชการถึงกับอึ้งที่เด็กชายตัวเล็กสามารถอ่านป้ายชื่อต่างๆ ภายในอำเภอได้หมด จึงกลับมาที่บ้านหลังจากนั้นน้องธันวาก็จะชอบอ่านแต่หนังสือโดยจะไม่ให้ใครเข้ามายุ่งเกี่ยว ขณะที่ผู้ช่วยสัสดีเห็นความอัจฉริยะของน้องธันวา จึงแนะนำผู้สื่อข่าวเข้ามาพิสูจน์ความจริง

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามผู้ปกครองทราบว่า น้องธันวาชอบรับประทานปลาเป็นอาหารมากที่สุด ส่วนเนื้อสัตว์จะไม่ค่อยกินเพราะบอกว่าติดซอกฟัน ส่วนความสามารถนั้นยังไม่ได้ส่งน้องธันวาไปตรวจสอบหรือวัดค่าไอคิวหรืออีคิว เนื่องจากว่าทางบ้านครอบครัวค่อนข้างยากจน

ล่าสุด วันที่ 8 ก.พ. นายนรินทร์ วรรณมหินทร์ นายอำเภอแม่เมาะ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสมาคมพัฒนาแม่เมาะ(กฟผ.แม่เมาะ) ได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 40 หมู่ 1 บ้านแม่จาง ต.นาสัก อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ซึ่งเป็นบ้านพักอาศัยของ ด.ช.ธันวา วรตุ่นแก้ว อายุ 3 ปี 2 เดือน เด็กชายอัจฉริยะที่สามารถอ่านหนังสือได้อย่างคล่องแคล่วทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ พักอาศัยอยู่กับนายวิทยาและนางบัวลอย บิดาและมารดา โดยบรรยากาศทั่วไปคึกคัก เนื่องจากหลังมีการนำเสนอข่าว ก็มีเพื่อนบ้านและประชาชนที่ทราบข่าวต่างพากันมาเยี่ยมเยือนดูความสามารถของน้องธันวาอย่างคึกคัก โดยแต่ละคนต่างก็มาทดสอบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ และทุกคนก็ต้องตะลึงถึงความสามารถในการอ่านหนังสือได้หมดถึงแม้จะยังไม่ค่อยชัดเจนมากนัก แต่ก็ถือว่าอ่านหนังสือได้เร็วกว่าเด็กทั่วไปมาก

จากนั้นนายอำเภอแม่เมาะ พาน้องธันวานั่งรถเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ เพื่อทดสอบความสามารถโดยการให้อ่านป้ายข้อความที่ติดอยู่ตามเส้นทาง ซึ่งจะสังเกตได้ว่าน้องธันวามีความจำดีมาก เพียงแค่เห็นป้ายข้อความต่างๆผ่านตาก็จะจดจำและอ่านได้ทั้งหมด โดยที่ไม่ต้องหยุดรถแต่อย่างใด ก่อนจะพาน้องธันวาเข้าพบกับนายบุญเชิด คิดเห็น ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เพื่อให้ชมความสามารถในการอ่านหนังสือของน้องธันวา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้มอบกระเช้าของขวัญและผ้าห่มให้แก่น้องธันวาด้วย

นอกจากนั้น นายอำเภอแม่เมาะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้การช่วยเหลือครอบครัวของน้องธันวาในเบื้องต้นไปก่อน เนื่องจากว่าสภาพครอบครัวยากจน ส่วนทางด้านนางพินิดา ทักษิณาพิมุข นายกสมาคมพัฒนาแม่เมาะ(กฟผ.แม่เมาะ) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลเกี่ยวกับการศึกษาขั้นพื้นฐานในพื้นที่ได้เปิดเผยว่า ทางสมาคมจะได้นำเรื่องเข้าที่ประชุมเพื่อที่จะช่วยเหลือครอบครัวด้านทุนการศึกษาของน้องธันวา เพื่อที่จะได้เข้าเรียนหนังสือ เพื่อพัฒนาการด้านอื่นๆต่อไป

สำหรับการทดสอบไอคิวของน้องธันวานั้น ทางเจ้าหน้าที่จิตวิทยาและแพทย์ที่เกี่ยวข้องจากโรงพยาบาลแม่เมาะ และสำนักงานสาธารณสุข จ.ลำปาง ได้เข้าทดสอบความสามารถของเด็กแล้ว คาดว่าประมาณ 1 สัปดาห์ถึงจะทราบผล