เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา สำนักข่าวเอพี รายงานว่า นายแอนเดอร์ส เบห์ริง เบรวิก ฆาตกรหัวรุนแรงขวาจัด ที่ฆาตกรรมหมู่กว่า 77 คน ซึ่งถือเป็นการฆาตกรรมหมู่ที่เลวร้ายที่สุดในนอร์เวย์ ได้กล่าวกับศาลเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า เขาสมควรได้รับเหรียญเชิดชูเกียรติ สำหรับการฆาตกรรมโหดในครั้งนี้ และขอร้องให้ศาลปล่อยตัวเขาให้เป็นอิสระ
ทั้งนี้ นายเบรวิก ยิ้มอย่างมีเลศนัยเมื่อตอนที่เขาเดินเข้าไปในศาลกรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ ในสภาพที่ใส่กุญแจมือและสวมชุดสูททีเข้ม ซึ่งการเดินทางไปศาลครั้งนี้ เป็นการไต่สวนนัดสุดท้ายก่อนที่การพิจารณาคดีจะเริ่มขึ้นในเดือนเมษายน เขา ได้ยื่นเเขนของเขาออกไปเมื่อเข้าไปที่ศาล ซึ่งทนายของเขา นายเกียร์ ลิปเปสทาด (Geir Lippestad said) กล่าวว่า เป็นการทักทายของพวกฝ่ายขวาจัด
นายเบรวิก ได้กล่าวกับศาลว่า การ ฆาตกรรมหมู่เมื่อวันที่ 22 กรกฏาคม 2011 ด้วยอาวุธทั้งระเบิด ปืนไรเฟิล และปืนสั้น นั้น เป็นการประท้วงกลุ่มคนที่ทรยศซึ่งต้อนรับผู้อพยพของกลุ่มชนอิสลาม ที่เข้ามาครอบครองนอร์เวย์ และ เหมือนกับการไต่สวนทุก ๆ ครั้งที่ผ่านมา นายเบรวิก ยอมรับว่าเขาเป็นคนวางระเบิดนอกอาคารรัฐสภาในกรุงออสโล และไล่ยิงผู้คนในค่ายเยาวชนของพรรคแรงงานที่เกาะอูโทย่า (Utoya island) ซึ่งตั้งอยู่นอกเมืองหลวง แต่เขาได้ปฏิเสธความรับผิดชอบในการสังหารหมู่และปฏิเสธอำนาจของศาล
ส่วนผู้รอดชีวิตและญาติของผู้เสียชีวิตกว่า 100 คน ต่างเฝ้าดูการไต่สวนด้วยความตกตะลึง เมื่อนายเบรวิก ขอร้องให้ศาลปล่อยตัวเขาไป และเขาก็บอกกับผู้พิพากษาว่า เขาสมควรได้รับเหรียญเชิดชูเกียรติ สำหรับการฆาตกรรมหมู่อันแสนโหดร้ายที่สุดในนอร์เวย์ครั้งนี้
ด้านผู้พิพากษา เวนช์ เกลนสเทน (Wenche Gjelsten) ได้สั่งให้เขาอยู่ในการควบคุมของรัฐจนกว่าจะมีการพิจารณาคดีในวันที่ 16 เมษายนนี้ ซึ่งนายเบรวิก อาจต้องคดีการก่อการร้าย มีโทษจำคุก 21 ปี อย่างไรก็ตาม หากมีการตรวจสอบว่าเขามีอาการป่วยทางจิต เขาจะถูกส่งไปตัวไปบำบัดทางจิตแทน
ขณะที่ เด็กชายเอเมล บาลติก วัย 16 ปี ซึ่งเป็นผู้รอดชีวิตจากการสังหารโหดที่เกาะอูโทย่า กล่าวว่า มัน ไม่ดีเลยที่ปล่อยให้ฆาตกรได้พูดในสิ่งที่เขาต้องการที่จะพูด มันทำให้ตนรู้สึกโมโหและทนไม่ได้ นอกจากนี้ ผู้รอดชีวิตหลายคนเกรงว่า นายเบรวิก จะใช้การไต่สวนของศาลเพื่อดึงดูดความสนใจของกลุ่มคนหัวรุนแรงทั้งหลาย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการประเมินผลทางจิตของนายเบรวิก ในครั้งแรกนั้น จะระบุว่า เขามีอาการป่วยทางจิต แต่จากการประเมินในครั้งที่ 2 นั้น ได้สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่ออาการป่วยของเขา ซึ่งเขาปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือกับนักจิตวิทยาในการตรวจครั้งที่ 2