ไม่ใช่แค่เสือโคร่ง-ช้าง มือชำแหละให้การซัด "อ๊อดบางกรวย"บงการ ออกหมาย-บุกค้นบ้าน แฉแก๊งใหญ่ในเอเชีย
ปทส.รับช่วงต่อ ขยาย ผลล่าแก๊งค้าเสือโคร่ง หลังนครบาลบุกทลาย โรงชำแหละซากได้กลางกรุง พร้อมซากสัตว์ป่าอื่นๆ อีกเพียบ ตะลึงมีซากหนังช้างแช่ฟอร์มาลิน รวมอยู่ด้วย สอบ 7 ผู้ต้องหาซัดทอดคนจ้างวานอยู่บางกรวย นนทบุรี ตร.รู้ตัวแล้ว อยู่ระหว่างขอศาลออกหมายจับ และค้นบ้านพัก ขณะที่ผลตรวจสอบซากเสือ เบื้องต้นพบรอยเท้าด้าน ไม่นิ่มเหมือนเสือเลี้ยงในกรง คาดเป็นเสือตามป่าธรรมชาติ
จากกรณีตำรวจบุกทลายแก๊งชำแหละซากสัตว์ป่า ภายในทาวน์เฮาส์ ซอยพระยา สุเรนทร์ 12 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. ที่ดัดแปลงเป็นโรงงานขนาดย่อม โดยจับกุมได้ขณะชำแหละซากเสือโคร่งขนาดใหญ่ ได้ผู้ต้องหาทั้งหมด 7 คน นอกจากนี้ ยังพบซากสัตว์ป่าอีกหลายชนิด รวมทั้งซากช้างจำนวนหนึ่งแช่น้ำยาฟอร์มาลินอยู่ในถังน้ำแข็งด้วย สอบสวนสารภาพว่ารับซากเสือมาจากนายอ๊อด ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง พักอยู่ย่านบางกรวย จ.นนทบุรี ทางเจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นแก๊งค้าสัตว์ป่าจาก อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งต่อไปยังประเทศจีน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 5 ก.พ. พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ รองผบช.น. กล่าวว่า ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.ศราวุธ จิตต์ระเบียบ ผกก.สน.บางชัน ว่าเมื่อคืนวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ตำรวจสายตรวจออกตรวจพื้นที่พบเจอบุคคลมือเปื้อนเลือด จึงขอตรวจค้นและตามไปตรวจค้นที่บ้าน พบซากสัตว์จำนวนมาก ประกอบด้วยเสือโคร่งตัวที่ถูกชำแหละ เสือขาวสตัฟฟ์แล้ว 1 ตัว ซากช้างแช่น้ำแข็ง กวาง และม้าลาย
รองผบช.น. กล่าวว่า จากนั้นจึงรายงานผู้บังคับบัญชาระดับสูง ก่อนที่ พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร. และ พล.ต.ท. เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ผู้ช่วยผบ.ตร. ร่วมไปตรวจสอบที่เกิดเหตุและของกลาง เห็นว่าเป็นคดีสำคัญที่มีผู้กระทำผิดในลักษณะเป็นกระบวนการ เห็นควรโอนคดีให้กองบังคับ การปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) รับไปสืบสวนสอบสวนขยายผลต่อไป พร้อมทั้งส่งซากสัตว์ให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รับไปเก็บรักษาดูแล
ด้าน ร.ต.อ.ธวัชชัย มานันตพงศ์ พงส. (สบ1) สน.บางชัน เจ้าของคดี กล่าวว่า ดำเนินคดีผู้ต้องหาทั้ง 7 คน ในข้อหามีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งเนื้อสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต อีกทั้ง น.ส.ณัฐสุดาพรรณ เรืองศรี เจ้าของบ้าน ถูกแจ้งข้อหาความผิดตามพ.ร.บ. ศุลกากร กรณีนำเข้าซากสัตว์โดยไม่เสียภาษี เพิ่มด้วย เนื่องจากภายในบ้านมีพบซากม้าลาย และซากสัตว์หลายชนิด ที่ไม่มีถิ่นอาศัยอยู่ในประเทศไทย
ร้อยเวร สน.บางชัน กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนกลุ่มผู้ต้องหาให้การรับสารภาพเป็นเสียงเดียวกันว่า ซากเสือโคร่งเป็นของนายอ๊อด ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า นายอ๊อดมีบ้านพักอยู่ใน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ดังนั้น จะขออำนาจศาลจังหวัดมีนบุรี ออกหมายจับใน 2 ข้อหาเดียวกับผู้ต้องหาชุดแรก และในวันที่ 6 ก.พ. จะคุมตัวผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลจังหวัดมีนบุรี ฝากขัง และคัดค้านการประกันตัว ส่วนการขยายผลจับกุมผู้อยู่เบื้องหลังนั้น เป็นหน้าที่ บก.ปทส. รับช่วงไปดำเนินการต่อแล้ว
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลว่า นายอ๊อดที่ถูกซัดทอดเป็นแก๊งค้าซากสัตว์รายใหญ่ใน เอเชีย มีหน้าที่รับซื้อ จัดหา และกระจายสัตว์ยังลูกค้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับซากสัตว์ทั้งหมดที่สน.บางชัน ตรวจยึดได้ ประกอบด้วย ซากเสือโคร่ง น้ำหนักประมาณ 100 ก.ก. และเนื้อเสือโคร่ง แยกใส่เป็นถุงอยู่ในตู้เย็น น้ำหนักรวมกว่า 100 ก.ก. ส่วนซากสัตว์ที่ถูกสตัฟฟ์มีซากม้าลาย 1 ซาก ซากเสือโคร่งสีขาว 1 ซาก และซากกวาง 1 ซาก นอกจากนี้ ยังมีซากสัตว์แช่ฟอร์มาลินในถังพลาสติกทรงกระบอก ประกอบด้วย ซากวีเดอร์บีสต์ หรือวัวป่า 1 ซาก, หนังเสือโคร่ง 2 ชิ้น และซากหนังช้าง 1 ตัว และจากการตรวจสอบซากม้าลาย ซากวีเดอร์บีสต์ และซากสิงโต พบว่าเป็นสัตว์ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปแอฟริกา
ด้าน พ.ต.อ.นรศักดิ์ เหมนิธิ รรท.ผบก. ปทส. รับโอนคดีมาสืบสวนสอบสวนขยายผลแล้ว โดยเฉพาะที่มาของเสือโคร่ง และพวกนี้ทำกันเป็นขบวนการ ล่าสุด พ.ต.ท. อรรถพล สุดสาย สว.กก.2 ปทส. ไปดูซากเสือ และรายงานว่าจากการสังเกตฝ่าเท้าเสือโคร่ง พบว่าลักษณะเท้าด้าน ไม่นิ่มเหมือนเสือเลี้ยงในกรง น่าเชื่อว่าเป็นเสือที่หากินอยู่ตามธรรมชาติ มากกว่าเสือเลี้ยง และในวันที่ 6 ก.พ.นี้ จะขอหมายเข้าค้นบ้านพักของผู้จ้างวานใน อ.บางกรวย ตามที่ผู้ต้องหาให้การซัดทอด และจากรายงานไม่ระบุว่ามีเนื้อช้างแต่อย่างใด
รรท.ผบก.ปทส. กล่าวว่า นอกจากนี้ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล และบก.ปทส. เป็นเจ้าภาพจัดประชุมตำรวจสากลในวันที่ 13-17 ก.พ. จะมีตำรวจจาก 84 ประเทศ จำนวน 300 คน มาร่วมประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร การทำงานป้องกันและปราบปรามการค้าสัตว์ป่า โดยมีข้อมูลว่าการค้าเนื้อสัตว์ป่า และอวัยวะชิ้นส่วนของสัตว์ป่าต้องห้าม เช่น เสือ ช้าง และแรด ทำกันเป็นขบวนการข้ามชาติ ลักลอบนำเข้ามาจากประเทศแถบแอฟริกา และมาชำแหละกันในประเทศไทย
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า จากการตรวจสอบล่าสุดของเจ้าหน้าที่พบเบาะแสว่า เสือโคร่งตัวที่ถูกชำแหละ อาจเกี่ยวข้องกับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งใน จ.สุพรรณบุรี ด้วย หากทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้แน่ชัดเมื่อไหร่ ก็อาจขออำนาจศาลออกหมายเข้าตรวจค้นสถานที่ดังกล่าวต่อไป
ขณะที่ นายอดิศร นุชดำรงค์ ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ กล่าวถึงกรณีจับกุมแก๊งชำแหละเสือโคร่งว่า เมื่อตำรวจสืบสวนสอบสวนเรียบร้อย ก็จะประ สานขอข้อมูลทั้งหมดนำมาตรวจสอบว่า เสือถูกลักลอบมาจากที่ไหน ปัจจุบันเสือเป็นที่ต้องการของตลาดค้าสัตว์ป่ามาก จึงมีผู้ลักลอบฆ่าเสือมาโดยตลอด เราต้องสอบให้ชัดว่า ตัวการสั่งล่าเป็นใคร เพราะหากจับเพียงพวกลักลอบก็ได้แค่ปลายทาง การบริโภคเสือเป็นค่านิยมที่ผิดๆ คิดว่าชิ้นส่วนของเสือจะช่วย ชูกำลัง และมีไม่กี่ประเทศที่ต้องการ
ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กล่าวว่า เสือโคร่งในประเทศไทยเป็นสัตว์ป่าสงวน พบมากที่สุดในผืนป่าตะวันตก ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ป่าห้วยขาแข้ง ป่าแม่วงก์ ครอบ คลุมพื้นที่ จ.อุทัยธานี จ.กาญจนบุรี จ.นคร สวรรค์ และ จ.ตาก ปัจจุบันเสือมีน้อยมาก สำรวจพบเพียง 200-250 ตัวเท่านั้น จัดอยู่ในสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ ต้องช่วยกันอนุรักษ์ เพราะเป็นห่วงโซ่อาหารที่สำคัญ
ผู้สื่อข่าวถามว่าตำรวจสงสัยว่าน่าจะเป็นแก๊งค้าสัตว์ป่าจาก อ.แม่สอด ส่งซากเสือไปประเทศจีน นายอดิศร กล่าวว่า น่าจะเป็นไปได้ เพราะที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่จับกุมแก๊งล่าสัตว์ได้บริเวณพื้นที่รอยต่อ อ.อุ้มผาง และ อ.แม่สอด แต่พบเพียงภาพถ่ายสัตว์ที่ถูกล่า มีเสือรวมอยู่ด้วย
"ต้องนำชิ้นเนื้อเสือที่จับได้มาตรวจสอบว่าเป็นเสือประเภทใด เพราะตอนนี้มีทั้งเสือเลี้ยงในกรง และเสือตามธรรมชาติ ต้องนำมาพิสูจน์ดีเอ็นเอให้ชัดเจน กระบวนการตรวจสอบต้องใช้เวลาถึง 1 เดือน ถึงจะทราบว่าเป็นเสือประเภทใด ต้องเข้าใจว่า ขณะนี้มีการออกใบอนุญาตถูกต้องในการเพาะเลี้ยงเสือ มีทั้งเสือกรง เสือสวนสัตว์ ธุรกิจสวนสัตว์ และเสือธรรมชาติ หากจะตรวจสอบคงลำบาก เพราะยังไม่มีกฎหมายการควบคุมที่ชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องการเก็บข้อมูลดีเอ็นเอข้อมูลทางพันธุกรรมของเสือ รูปถ่าย เมื่อพบซากเสือ จะได้นำหลักฐานที่เก็บข้อมูลไว้มาตรวจสอบว่าเสือมาจากที่ใด" นายอดิศร กล่าว
วันเดียวกัน เวลา 05.00 น. นายกมล อุ่นใจ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าเข้าตรวจค้นปิดล้อมพื้นที่ป่าแพรกตะคร้อ ต.บึงนคร อ.หัวหิน ภายหลังพบร่องรอยแก๊งล่าสัตว์ป่า พบรถกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน บพ 7067 สุราษฎร์ธานี วิ่งออกมาจากหุบเขา จึงให้สัญญาณขอตรวจค้น ก่อนที่คนในรถกระโดดวิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่ตามจับกุมตัวได้ 3 คน ทราบชื่อนายอนันต์ เนตรทิพย์ อยู่บ้านเลขที่ 195 หมู่ 12 ต.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี นายสะหัส จันทร์อุปสงค์ อายุ 35 ปี และนายป๊อก จันทร์อุปสงค์ ทั้งคู่เป็นพี่น้องกันอยู่บ้าน แพรกตะคร้อ ต.บึงนคร พร้อมอาวุธปืนลูกซอง 5 นัด ลูกซองเดี่ยว สปอตไลต์ ไฟฉาย 3 กระบอก ซากอีเห็น 3 ตัว และกระจง 3 ตัว จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบ สวน สภ.หนองพลับ อ.หัวหิน