ยังจำกันได้ไหมกับการประชุมครม.สัญจรเมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมาในจังหวัดเชียงใหม่กับวาระการประชุมที่มีข้อเสนอสร้างอุโมงค์ลัดตัดภูเขาเชื่อมระหว่างเชียงใหม่ ไปยังแม่ฮ่องสอนเพื่อช่วยให้การสัญจรระหว่างสองจังหวัด
เป็นไปได้สะดวกขึ้น และช่วยให้การขนส่งสินค้าไปยังแม่ฮ่องสอน หรือส่งไปยังเมืองเนปิดอว์เมืองหลวงใหม่ของประเทศพม่าสะดวกสบายง่ายขึ้น
และว่ากันว่าหากอุโมงค์นี้ทำได้สำเร็จก็จะย่นระยะเวลาในการสัญจรไปมาระหว่างจังหวัดเชียงใหม่กับแม่ฮ่องสอนให้เหลือเพียงแค่ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น (และไม่ต้องนั่งรถผ่านโค้งทั้ง 1,864 โค้งให้เวียนหัวกันอีกต่อไปด้วย)
เมื่อข้อเสนอที่จะสร้างอุโมงค์นี้ออกมา แน่นอนว่าเสียงวิจารณ์ในเรื่องนี้ทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับโครงการก็ย่อมตามมาไม่ขาดสาย
เสียงที่เห็นด้วยก็สนับสนุนว่า เมื่อมีอุโมงค์จะได้ส่งของไปค้าขายยังพม่าได้ง่ายขึ้น, ไปแม่ฮ่องสอนได้ง่ายขึ้นไม่ต้องกลัวจะอาเจียนอีกต่อไป, อุบัติเหตุจะลดลงเพราะไม่ต้องขับขึ้นลงเขา ฯลฯ
ส่วนเสียงที่ไม่เห็นด้วยก็มีทั้ง การสร้างอุโมงค์จะไปทำลายระบบนิเวศ, อุโมงค์นี้อาจจะมีอันตรายเพราะภูเขาแถบนี้เป็นดินอ่อนอาจจะพังทลายลงมาได้ ฯลฯ
เรื่องที่ว่าการสร้างอุโมงค์นั้นจะดีหรือไม่ดีก็คงต้องรอดูกันต่อไป
แต่สำหรับเรื่องการขุดเจาะภูเขาสร้างอุโมงค์นั้น คุณผู้อ่านอาจจะยังจินตนาการไม่ออกว่า อุโมงค์ที่จะขุดเจาะผ่านภูเขานั้นทำกันอย่างไร ?
วันนี้ "มติชนออนไลน์" จะพาไปพบกับ อุโมงค์กอตทาร์ดเบส อุโมงค์รถไฟที่ตัดลัดทะลุเทือกเขาแอลป์สายยาวที่สุดในโลก ที่ในตอนนี้กำลังก่อสร้างในประเทศสวิตเซอร์แลนด์กัน
สาเหตุที่สวิตเซอร์แลนด์ยอมทุ่มงบประมาณกว่า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำการขุดเจาะเทือกเขาเพื่อสร้างอุโมงค์กอตทาร์ดเบสขึ้นมานั้นเพราะแถบเทือกเขาแอลป์ครอบคลุมภูมิภาคที่เศรษฐกิจกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งเขตเยอรมนีตอนใต้และเขตอุตสาหกรรมในอิตาลีตอนเหนือ
ทำให้ในปัจจุบันสวิตเซอร์แลนด์ที่เคยเป็นประเทศเงียบสงบได้กลายมาเป็นชุมทางหลักของบรรดาคาราวานรถบรรทุกที่ในปีๆ หนึ่งจะมีรถบรรทุกนับล้านคันที่ต้องวิ่งผ่านช่องเขาในสวิตเซอร์แลนด์ โดยลัดเลาะไปตามถนนบนภูเขาอันคดเคี้ยว
สวิตเซอร์แลนด์จึงคิดแก้ปัญหาโดยการเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งทางรถไฟขึ้น โดยการขุดเจาะอุโมงค์เพิ่มให้เป็นทางตรงทะลุใต้เทือกเขาไป
ซึ่งเมื่ออุโมงค์แห่งนี้เปิดให้ใช้งานได้ในปี ค.ศ.2017 จะทำให้รถไฟความเร็วสูงความเร็วกว่า 250 กม./ชม. ที่มาจากเมืองซูริกประเทศสวิตเซอร์แลนด์ไปถึงเมืองมิลานประเทศอิตาลี จะสามารถวิ่งทะลุผ่านเทือกเขาไปได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที และย่นระยะเวลาการเดินทางที่เคยใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมงให้เหลือเพียง 2 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น
สำหรับอุโมงค์กอตทาร์ดเบสนี้เป็นอุโมงค์ที่เจาะลึกเข้าไปในแกนหินแกรนิตของเทือกเขากอตทาร์ดมาซีฟ บริเวณเทือกเขาแอลป์ เป็นอุโมงค์ที่มีความยาวถึง 57 กิโลเมตร ซึ่งความยาวขนาดนี้สามารถชนะอุโมงค์แชนเนลที่เชื่อม
อังกฤษและฝรั่งเศสที่มีความยาว 50 กิโลเมตร ไปได้อย่างสบายๆ
อุโมงค์นี้ประกอบไปด้วยอุโมงค์หลัก 2 อุโมงค์ความยาว 57 กม., ปล่องทางเข้า, ทางออกฉุกเฉิน, ช่องระบายอากาศ และชุมทางให้รถไฟเปลี่ยนช่องทางเดินรถ
ในการก่อสร้างอุโมงค์นี้ใช้ระยะเวลา 5 ปีกับงบประมาณอีกกว่า 125 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการสำรวจพื้นที่ที่จะทำการขุดเจาะ โดยหลีกเลี่ยงยอดเขาที่สูงที่สุด เลี่ยงบริเวณที่อาจมีปัญหากับน้ำใต้ดินและทำการสำรวจข้อมูลระยะไกลเพื่อทำแผนที่ช่องโพรงและรอยแยกของเทือกเขาเพื่อให้ได้ข้อมูลแม่นยำในระยะ10 เมตร
คนงานต้องขุดหินจำนวน 25 ล้านตันออกมาจากใต้ภูเขา หินจำนวนหนึ่งนำไปถมทะเลสาบลูเซิร์น ส่วนหินคุณภาพดีกว่านำมาบดอัดทำเป็นคอนกรีตสำหรับทำเป็นโครงสร้างตลอดแนวอุโมงค์
สำหรับเครื่องจักรที่ใช้ในการทำงานนี้มีเครื่องจักรที่เรียกว่า ตัวหนอน ความยาวกว่า 600 เมตรที่จะเคลื่อนตัวไปตามอุโมงค์พร้อมกับฉาบผนังคอนกรีตและวางท่อระบายน้ำ
เครื่องจักรอีกเครื่องหนึ่งมีความยาว 400 เมตรนั้นคือเครื่องขุดเจาะอุโมงค์ TBM (Tunnel Boring Machine) มีทั้งสิ้น 4 ตัว ในแต่ละวันนั้นเครื่องจักรเหล่านี้จะเจาะชั้นหินแข็งระยะทางวันละ 20-25 เมตร พร้อมยึดผนังอุโมงค์ที่ขุดเสร็จใหม่ ด้วยสลักเกลียว คอนกรีตพ่นและตาข่ายเหล็ก
ซึ่งเครื่องจักรเหล่านี้มีความแม่นยำในการขุดเจาะสูงมาก โดยตลอดระยะเวลาในการขุดอุโมงค์นี้เป็นเวลาหลายปี เครื่องจักรนี้ได้ขุดเจาะออกไปนอกเส้นทางเพียง 5 มิลลิเมตรเท่านั้น น่าทึ่งไหมล่ะ?
เห็นสวิตเซอร์แลนด์เขาสร้างอุโมงค์สำหรับรถไฟความเร็วสูงกันแล้ว คนไทยเองก็อยากได้บ้างเหมือนกันทั้งอุโมงค์ลัดภูเขาและรถไฟความเร็วสูง ... แต่เมื่อไหร่กันหนอที่คนไทยจะได้เห็น ?
เรื่อง : ทิพาภรณ์ สุคติพันธ์
ข้อมูลประกอบ : นิตยสาร National Geographic ฉบับ เดือน พ.ย. 2554