เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมามีข่าวที่ช็อกสาวจริง สาวเทียมทั่วโลก เมื่อรัฐบาลฝรั่งเศสได้ออกมาประกาศให้สาวที่ใช้เต้านมซิลิโคนของบริษัทโพลี อิมแพลนท์ โปรธีส (Poly Implant Prosthesisหรือ PIP)กว่า 400,000 รายทั่วโลก ไปพบแพทย์เพื่อเอาเต้าซิลิโคนออก หลังจากตรวจพบว่า บริษัทดังกล่าว ใส่เจลที่ต่ำกว่ามาตรฐานในการผลิตซิลิโคนเสริมเต้านม หลังการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งของผู้หญิงคนหนึ่งที่เสริมซิลิโคนของ PIP
นายแพทย์ศรัทธา ศิริตันติกร หนึ่งในศัลยแพทย์ตกแต่ง ศูนย์ศัลยกรรมความงาม โรงพยาบาลปิยะเวท พระราม 9 เปิดเผยว่า “มติชนออนไลน์”ว่า จริง ๆ เต้าซิลิโคนยี่ห้อนี้ใช้กันมากในประเทศไทย และทั่วโลก เพราะเป็นยี่ห้อดี แบรนด์ดัง เป็นแบรนด์เบอร์ 3 ในระดับโลก ปัญหาเกิดจากผู้ผลิตไปใช้ เจลที่ส่งตรวจ สเป็คกับเจลที่ใช้ในการผลิตจริงคนละชนิดกัน เราเป็นผู้บริโภคไม่มีทางเลือก จนกว่าจะไปตรวจพบ และสั่งห้ามใช้ไปนานแล้ว โดยประเด็นที่หลายคนกังวลว่า ถุงซิลิโคนยี่ห้อนี้แตกง่าย แต่มีผู้เชี่ยวชาญจากออสเตรเลียบอกว่า ไม่ได้แตกง่ายกว่ายี่ห้ออื่น ในอังกฤษ และออสเตรเลียไม่ได้คิดว่า ผู้ที่ผ่าตัดใส่เต้าซิลิโคนยี่ห้อนี้แล้ว ต้องเอาออกทั้งหมด
สำหรับแนวทางที่โรงพยาบาลดำเนินการขณะนี้ คือ ต้องตรวจติดตามคนไข้ที่ใช้ไป ประเทศไทยผมก็บอกคนไข้ตามตรง ถามว่าทางโรงพยาบาลมีการนำมาใช้หรือไม่ เราก็ใช้ แต่ทุกวันนี้ไม่ได้ใช้แล้ว หากถามว่า ทำไมถึงใช้เป็นถุงซิลิโคนที่ผ่านการตรวจสอบจากทางการอย่างถูกต้อง เราชอบทรงของยี่ห้อนี้ ที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์ยี่ห้อนี้เป็น แบรนด์ระดับ 3 ของโลก เป็นผลิตภัณฑ์ที่ดี ไม่ใช่แบรนด์กระจอก
โดยสิ่งที่กังวลกัน 2 เรื่องหลัก คือ มะเร็ง กับแตก แต่ปกติผู้ที่เสริมหน้าอกจะต้องมีการนัดตรวจมะเร็งเต้านม ทุกปีอยู่แล้ว ด้วยเครื่องแมมโมแกรม (Mammogram)ปีละครั้ง ก็รายงานได้ครบถ้วนว่า คนไข้เป็นมะเร็ง หรือพบการแตกหรือไม่ ทั้งนี้ ปัจจุบันคนที่เสริมหน้าอกในสังคมทุกวันนี้น่าจะครึ่ง ๆ ได้ เวลาไปตรวจเอ็กซเรย์จะมีท่าตรวจเฉพาะ เพื่อไม่ให้ถุงกับนมซ้อนกันใน
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า มีคนไข้บางคนเมื่อทราบข่าวมาขอเปลี่ยน เพราะไม่สามารถทนกับข่าวที่ออกมาได้ พวกวิตกก็ให้เอาออก ถ้าเครียดมากกังวลมาก แต่เราไม่ได้ เปลี่ยนให้ฟรี เพราะมีค่าผ่าตัด
ถ้าคนที่ไม่ตื่นข่าว ก็อาจดีเลย์ออกไป ถุงซิลิโคนยี่ห้อนี่ไม่ได้ตกมาตรฐาน แบบสุดขั้ว ไม่ใช่เราเผลอนำสารพิษใส่เข้าไปในร่างกาย ไม่อย่างนั้นคนที่ใส่เข้าไปแล้วจะอยู่มาได้อย่างไร 3-5 ปี แต่พอฟังข่าวแล้วเริ่มรู้สึกไม่ดีแนวทางที่ให้คำแนะนำคนไข้ไป ถ้าคนไข้คิดว่า อยากเปลี่ยนขนาดเล็กไป หรือใหญ่ไป หรือใส่แล้วตรึงไปอย่างใดอย่างหนึ่ง และใช้ยี่ห้อนี้อยู่ก็ถือโอกาสเปลี่ยนเลย ก็เปลี่ยน ที่ผ่านมามีข่าวลือออกไปถึงขั้นว่า บอกถุงซิลิโคนยี่ห้อนี้ติดไฟได้ ระเบิดได้ สังคมออนไลน์ไปถึงขนาดนั้นได้
คนไข้พูดกับผมคำหนึ่งเป็นเหยื่อบริสุทธิ์ หมอก็เหมือนกัน แต่เราก็ต้องพยายามช่วยเหลือ แต่ถามว่า บริษัทรับผิดชอบหรือไม่ ก็ไม่ โรงพยาบาลจะรับผิดชอบก็ไม่ได้ การผ่าตัดทุกอย่างมีค่าใช้จ่าย ถ้าให้รัฐบาล โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)เป็นคนจ่ายก็คงจะมีเรื่องรายละเอียดอีกมากมายตามมา
ถ้าทางหมอทราบแต่แรกว่ามีปัญหาเราก็ไม่ใช้ แต่เรื่องดังกล่าวเพิ่งมีการตรวจพบ และไม่มีใครฟันธงว่า มันร้ายแรงถึงขั้นที่คนใช้ถุงซิลิโคนยี่ห้อนี้ต้องเรียกว่า "รื้อทิ้งหมด" เท่าที่ทราบข่าวมา แม้แต่ฝรั่งเศสเองก็ให้เอาออก เฉพาะคนที่ใช้ถุงซิลิโคนล็อตสุดท้ายที่บริษัทนี้ผลิต เมื่อ 16-20 สัปดาห์ที่ผ่านมา
เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) แนะนำให้หยุดใช้ ให้เฝ้าระวัง ประเด็นที่คุยกันมี 2 เรื่อง 1.มะเร็ง ในคนไข้ 30,000-40,000 คนทั่วโลก ทีใช้อยู่ มีเพียง 7-8 คนที่เป็นมะเร็ง ถ้าเทียบไปแล้วก็พิสูจน์ไม่ได้ว่า เป็นมะเร็งจากการใส่ถุงซิลิโคนยี่ห้อนี้ หรือเกิดจากสาเหตุอื่นที่ทำให้บุคคลนั้นเป็นมะเร็ง
"โดยทั่วไปคนไข้ที่มาทำหน้าอก ผมเป็นคนเน้นการคุยก่อนการผ่าตัดมาก ๆ เราพูดทุกครั้งว่า การเสริมนมไม่ได้ทำให้โอกาสการในการเป็นมะเร็งเพิ่มขึ้น หรือน้อยลง คือ ไม่ใช่ใส่ถุงซิลิโคนแล้วจะเป็นมะเร็ง หรือใส่ถุงซิลิโคนแล้วจะไม่เป็น คือ มันไม่มีคำตอบเนื่องจากถุงซิลิโคนที่ใส่ เราไปใส่คนละทีกัน ไปซ้อนกัน นมอยู่ส่วนนม ถุงซิลิโคนอยู่ส่วนของถุงซิลิโคน คนที่มีนมก็ยังมีโอกาสเป็นเนื้องอก"
ในสมัยโบราณคนที่ฉีดซิลิโคนเหลวเข้าไปโดยตรง อาจจะเป็นไปได้ เพราะ จะทำให้การตรวจพบทำได้ช้าลง เนื่องจากไปปะปน มะเร็งเต้านมทุกวันนี้ส่วนใหญ่รักษาหาย ที่แข่งขันคือ ใครจะพบเร็ว โอกาสหายสูง เสียหายน้อย ในพวกที่ฉีดซิลิโคนเหลว การตรวจเจอยาก เพราะถูกปนอยู่ในเนื้อนม
เวลาใส่ถุงซิลิโคนเข้าไปร่างกายเราสร้างพังผืดล้อมรอบถุง กรณีการแตกน่าจะใส่ไปแล้วมากกว่า 5-8 ปีแทบทั้งนั้น ถ้าแตกก็กองอยู่ตรงนั้นไม่ไหนไม่ได้ เพราะพังผืดขยายตัวล้อมไว้หมดแล้ว หมอเผ่าตัดเอาออก ถ้ารู้ว่าแตกต้องเอาออกไม่ให้ทิ้งไว้
ทุกวันนี้การขายซิลิโคนของยี่ห้ออื่น มีการบอกรับประกัน "เปลี่ยนถุงให้ใหม่ด้วย" ถ้าถุงมีปัญหา แต่การเปลี่ยนถุงซิลิโคน ไม่ใช่เรื่องการนำเสริมหน้าอก เพราะการทำนมมีการผ่าตัด ถุงแค่เพียงเสี้ยวเดียวของการทำ สมมุติผ่าตัดใส่เข้าไปแล้ว พบมีปัญหา เอาออกมาเปลี่ยนถุงให้ฟรี แล้วใครเป็นคนออกค่าผ่าตัด