ราชสีห์กับหนู
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีราชสีห์ตัวหนึ่งอาศัยอยู่ในป่าใหญ่ ราชสีห์รู้สึกง่วงมากจึงล้มตัวลงนอนพักผ่อนใต้ ต้นไม้ ในขณะที่มันกำลังเคลิ้มหลับอยู่นั้น ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นเพราะมีเจ้าหนูตัวหนึ่งปีนขึ้นไปเล่นบนหลังของราชสีห์ ด้วยความไม่รู้ว่าเป็นร่างของเจ้าป่า
ราชสีห์ร้องคำรามด้วยความโกรธ และกล่าวว่า “เจ้าหนู...เจ้าบังอาจมาก ตัวเล็กนิดเดียวกล้าขึ้นมา เล่นบนหลังข้า” แล้วราชสีห์ก็ยกอุ้งเท้าขึ้นตะปบเจ้าหนูไว้ หวังจะฆ่าเจ้าหนูตัวนั้นให้ตาย
แต่เจ้าหนูได้ร้องขอชีวิตและพูดว่า “ท่านเจ้าป่า...โปรดอย่าฆ่าข้าเลย...ข้าน้อยผิดไปแล้วโปรด ไว้ชีวิตข้าด้วยเถิด... ข้าน้อยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ต่อไปจะไม่ทำอีก”
ราชสีห์ได้ฟังเจ้าหนูอ้อนวอนดังนั้น จึงสงสารเลยให้อภัยและปล่อยตัวเจ้าหนูไป เพราะเป็นถึงเจ้าแห่งสัตว์ป่า ไม่อยากรังแกผู้ที่อ่อนแอกว่า
เจ้าหนูจึงกล่าวว่า “บุญคุณที่ท่านไว้ชีวิตข้าครั้งนี้ข้าจะไม่มีวันลืมเลย หากมีโอกาสข้า จะต้องช่วยเหลือท่านเป็นการตอบแทน”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ราชสีห์หัวเราะเสียงดัง “ตัวกระเปี๊ยกอย่างเจ้าจะช่วยอะไรข้าได้ ไปให้พ้นข้าจะนอน” เจ้าหนู จึงเดินจากไป
หลังจากนั้นไม่นานในเย็นวันหนี่ง ราชสีห์กำลังออกล่าเหยื่อกลับพลาดไปติดกับดักของนายพราน แต่ไม่สามารถดิ้นให้หลุดได้จึงส่งเสียงคำรามลั่นป่า เมื่อเจ้าหนูได้ยินก็จำได้ว่าเป็นของราชสีห์ จึงรีบมาดู
เจ้าหนูกระซิบกับราชสีห์ว่า “อย่ากลัวไปเลยท่าน ข้ามาช่วยแล้ว”
จากนั้นเจ้าหนูก็ใช้ฟันอันแหลมคมกัดเชือกจนขาด และราชสีห์ก็หลุดจากกับดักที่นายพรานทำไว้เป็นอิสระ ราชสีห์กับหนูจึงตกลงจะช่วยเหลือซึ่งกันและกันและเป็นเพื่อนรักกันตลอดไป
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : การให้อภัยผู้อื่นเป็นผลดีแก่ตัวเอง อย่าดูถูกคนที่ด้อยกว่าเพราะทุกคนต้องช่วยเหลือ ซึ่งกันและกัน และพึ่งพาอาศัยกัน
อยากให้นักการเมืองได้อ่านนิทานเรื่องนี้การล้างแค้นกันไปมันไม่ทำให้อะไรดีขึ้นเลยคนที่เจ็บก็คือพี่น้องร่วชาติเรานี้เอง