เมื่อไทยกำลังจะมี รถไฟความเร็วสูง กรุงเทพ เชียงใหม่ เกิดแน่ไม่เกิน 2558
Mthainews: มีความชัดเจน ในโครงการรถไฟความเร็วสูง ในครม.รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดินหน้าสานต่อ พร้อมเร่งรัดก่อสร้างรถไฟ ความเร็วสูง โดยเฉพาะอภิมหาเมกะโปรเจ็คต์ การคมนาคมสายเหนือ ที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เสนอให้รัฐบาลเร่งพิจารณาในการพัฒนาระบบการขนส่งเป็นระบบเศรษฐกิจ โดยทุ่มงบประมาณ 230,000 ล้านบาท ในระยะทาง 754 กิโลเมตร มีผู้ลงทุนจากรัฐบาลจีนและรัฐบาลไทยที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในพ.ศ.2558
เพื่อ เป็นทางเลือกให้กับผู้โดยสารที่ราคาเหมาะสมประมาณ 1200บาท ถูกกว่าการเดินทางด้วยสายการบิน และแทนที่รถโดยสารประจำทางที่ใช้ระยะเวลายาวนาน เพียง 3 ชั่วโมงครึ่ง อีกทั้งการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว โอกาสในการเกิดอุบัติเหตุมีสูงกว่าทางรถไฟที่มีระบบความปลอดภัยที่มีสถิติ การเกิดอุบัติเหตุน้อยมาก
พลตำรวจโทชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า โครงการดังกล่าวมีความคืบหน้าไปมาก มีหลายประเทศเช่น จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส ตุรกี ได้มาเจรจาขอร่วมทุน ในลักษณะ PPP (Public Private Partnership) หรือ การร่วมมือร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชน โดยรถไฟความเร็วสูงนี้มีความเร็ว 210-220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ซึ่ง ความร่วมมือจากนานาประเทศนั้น ประเทศจีนตกลงแน่นอนที่จะร่วมมือ โดยทางรองประธานาธิบดีประเทศจีน ซึ่งมาเยือนประเทศไทยได้ลงนามเอ็มโอยู ทั้งนี้จีนยินดีสนับสนุนอย่างเต็มที่ และเรื่องนี้จะเป็นเรื่องผูกพันระหว่างไทยกับจีนไปแล้ว ส่วนนานาชาติ ชาติอื่น ต้องเปิดให้ทั่วโลกเข้ามา เอ็มโอยูกับเราด้วย
การ พัฒนารถไฟความเร็วสูง จะเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวม และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ที่ตอบสนองความต้องการในการเดินทางในอนาคต และเอื้อประโยชน์ต่อการลงทุนต่างๆ มากยิ่งขึ้น ในตลอดเส้นทางที่ผ่านทั้ง 11 จังหวัดในภาคเหนือ
และที่สำคัญจะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับประเทศอื่นๆในระยะยาว เพราะว่าจังหวัดเชียงใหม่มีความพร้อมอย่างเต็มที่ในภาคการท่องเที่ยว เป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุน การศึกษา แต่ยังขาดสิ่งสำคัญคือความสะดวกในระบบขนส่งและการเดินทางที่สะดวกรวดเร็ว
นับ ว่ายังไม่สาย สำหรับประเทศไทย หากมีการเดินหน้า แต่ปัญหาหลักคือ การเจรจาระหว่างผู้ร่วมลงทุนทั้งจาก จีน ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น ที่ต้องมีการหาข้อตกลงที่ชัดเจน เรื่องระบบความปลอดภัย การดูแลรักษา และความเหมาะสม โดยหวังว่าอีกไม่นาน คนไทยจะได้นั่งรถไฟความเร็วสูง ตามโปรเจคล่าท้าฝันจะสำเร็จลุล่วง เป็นมิติใหม่แห่งการคมนาคมในประเทศไทยทีเดียว