ฮือฮา! นักศึกษาเวียดนามปลดล็อคไอโฟน 4 ได้สำเร็จ

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก apple.com

          เมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เวียดนามเน็ตของเวียดนามรายงานว่า วงการไอทีเวียดนามและบรรดาสาวกไอโฟนต่างฮือฮา หลังจากนักศึกษาเวียดนามรายหนึ่งสามารถปลดล็อคโทรศัพท์ไอโฟน 4 ได้สำเร็จ โดยไม่ต้องใช้ซอฟต์แวร์ใด ๆ ช่วย แม้แอปเปิ้ลจะเพิ่มความแน่นหนาในการปกป้องโค้ดลับของเครื่องก็ตาม

          โดยนักศึกษาผู้สร้างความฮือฮารายนี้ คือ นายเลมิงต่วน นักศึกษาเวียดนามที่กำลังศึกษาด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์ในรัสเซีย ได้เปิดเผยวิธีการปลดล็อค iPhone 4s ว่า การปลดล็อคโทรศัพท์ไอโฟนนั้น จะต้องมีซิมการ์ดรีดเดอร์แบบยูเอสบี เมจิคซิม(6 in 1) ซิมการ์ดเครือข่าย และซิมการ์ดของผู้ให้บริการที่ถูกล็อคติดกับตัวเครื่อง (เช่น AT&T, T-Mobile, Telus, Bell หรือ SFR) จากนั้นทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

          1. เสียบซิม AT&T เข้าไปในซิมการ์ดรีดเดอร์ แล้วใช้เมจิกซิม v255 เพื่อแบ็กอัพ ICCID, IMSI, และ SMSC ของซิม AT&T

          2. เสียบซิมเครือข่ายเข้าไปในซิมการ์ดรีดเดอร์ และใช้ เมจิกซิม v255 เพื่อแบ็กอัพ ICCID, IMSI, SMSC และ KI ของซิมเครือข่าย
        
          3. เสียบเมจิคซิม (6 in1) เข้าไปในซิมการ์รีดเดอร์ และบันทึกค่าต่าง ๆ ของซิม AT&T ลงในโลเคชั่นที่ 1 จากนั้นบันทึกค่าต่าง ๆ ของซิมเครือข่ายลงในโลเคชั่นที่ 2

          4. เสียบเมจิคซิม (6 in1) เข้าไปในไอโฟน และทำตามขั้นตอนดังนี้ settings -> phone -> sim Applications -> Switch Number -> main screen จากนั้นโทรศัพท์จะเริ่มค้นหาเครือข่ายให้บริการ และพบเครือข่ายนั้นในที่สุด

          หลังจากนายต่วนได้เผยแพร่วิธีการปลดล็อคซิมด้วยวิธีข้างต้นแล้ว ก็มีผู้ใช้ไอโฟนหลายคนลองทำตามดู แต่ปรากฎว่า วิธีนี้ก็มีข้อแม้อยู่ นั่นคือ จะใช้ได้กับซิมรุ่นเก่าเท่านั้น และผู้ใช้ไอโฟนส่วนใหญ่ก็ไม่อาจทำได้สำเร็จ ซึ่งในประเด็นนี้ เจ้าหน้าที่เทคนิคเครือข่ายโทรศัพท์ในเวียดนามออกมาตอบโต้ว่า วิธีการปลดล็อคของนายต่วนนั้นถูกต้อง แต่ติดที่รหัส KI ของเครือข่ายเป็นรหัสที่ไม่อนุญาตให้เปิดเผยให้ผู้ใดทราบ ค้นหาได้ยากมาก หากพยายามค้นหา KI อาจทำให้ซิมเสียหาย ใช้การไม่ได้อีกต่อไป แต่ถ้าหากสามารถทำได้จริง ๆ ยังไงก็ต้องเจอกับอุปสรรคอีกอย่างหนึ่งอยู่ดี นั่นคือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ที่ปัจจุบันมีการใช้ระบบรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ดังนั้น วิธีการดังกล่าวดูจะเป็นวิธีการที่ได้ไม่คุ้มเสีย และยากเย็นเกินกว่าจะทำได้จริง ๆ

Credit: http://www.kapook.com/
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...