มนุษย์ต่างดาวพันธุ์เกรย์กำลังอุ้มเอลเลนในสภาพหมดสติ
"นับเป็นภาพแรกของโลกที่เป็นภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดขณะมนุษย์ต่างดาวกำลังลักพาตัวผู้หญิงไปจากห้องนอน (น่าเสียดายที่ว่า ผมไม่สามารถ หาคลิปดังกล่าว มาให้ชมกันได้ )
จนถึงทุกวันนี้ไม่มีใครรู้ผู้หญิงโชคร้ายคนนี้เป็นตายร้ายดีออย่างไร แฮรี่ เอ็บสัน ผู้จัดการฝ่ายขายบริษัทค้าวัสดุก่อสร้างแห่งหนึ่งที่เมืองลอสอลามอส รัฐนิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา
คือสามีของเอลเลน เอ็บสัน อายุ 28 ปี ผู้ถูกมนุษย์ต่างดาวอุ้มตัวไปจากเตียงนอนในสภาพสลบหมดสติ แฮรี่ นักธุรกิจวัย 39 ปี ซึ่งแต่ละสัปดาห์มีโอกาสอยู่บ้านน้อยมาก เพราะธุรกิจ รัดตัวต้องออกไปพบลูกค้าต่างเมืองอยู่เสมอ ทิ้งให้เอลเลนผู้เป็นเมียอยู่บ้านตามลำพังเสมอ เมื่อเร็ว ๆ นี้ เขากลับมาบ้านไม่มีวี่แววเมียรักอยู่ในบ้าน คิดว่าออกไปซื้อของตามห้างสรรพสินค้า นั่งรออยู่ 2 ชั่วโมง จึงโทรศัพท์ไปตามตัว ปรากฏว่าโทรศัพท์มือถือของเอนเลนยังคงอยู่ในห้องนอนนั่นเอง แฮรี่รักเอลเลนมาก เขาเพิ่งแต่งงานได้ปีเศษ เมื่อตนเองไม่ค่อยอยู่บ้าน จึงเป็นห่วงความปลอดภัย จึงว่าจ้างให้ช่างมาติดตั้งสัญญาณกันขโมยรอบบ้าน และติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดไว้ 3 แห่งได้แก่ ประตู หน้าบ้าน ห้องรับแขก และในห้องนอน เมื่อเอเลนหายไปอย่างผิดปกติเขาจึงรีเพลย์เทปบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดมาดูถึงกับตะลึง เมื่อพบเหตุการณ์มนุษย์ต่างดาวพันธุ์เกรย์ หัวโต ตาโต แขนขาเรียวยาวกำลังอุ้มเอลเลนในสภาพหมดสติไปจากเตียงนอนในห้องนอนใหญ่ กล้องบันทึกเวลาเอาไว้ เวลา 22.59 หรือ เกือบ 5 ทุ่ม วันที่ 7 สิงหาคม ค.ศ.2007 ซึ่งช่วงเวลานั้น แฮรี่ยังอยู่กับลูกค้าต่างเมือง
“ผมไม่อยากยกโทษให้กับตัวเองได้เลย ผมไม่อาจปกป้องเอลเลนจากการลักพาตัวของไอ้วายร้าย อี.ที.ได้” แฮรี่กล่าวอย่างไม่หายโศกเศร้าเสียใจ
“หลังจากติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันขโมยแล้ว ผมคิดว่าเอลเลนอยู่บ้านก็จะปลอดภัยทุกอย่าง แต่ที่ไหนได้เรามาเผชิญหน้ากับมนุษย์ต่างดาวซึ่งมีเทคโนโลยีเหนือกว่าเครื่องกันขโมยกลายเป็นเรื่องขี้ผงสำหรับพวกเขาไป ผมดูจากภาพเอลเลนสลบแน่นนิ่งอยู่ในอ้อมแขนไอ้อี.ที. ใบหน้ามันกรุ้มกริ่มอย่างไรไม่รู้ ผมไม่ไว้วางใจพวกมันเลย”
ภาพนี้ถูกนำไปให้ผู้เชี่ยวชาญการวางยาสลบตรวจสอบพิสูจนได้ว่าไม่ใช่การวางยา แต่เป็นอาการของผู้หมดสติไปจากการถูกสะกดจิต ตำรวจเมืองลอส อลามอสมาตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ในห้องนอน ทุกอย่างเรียบร้อย มีร่องรอยแค่รอยบุ๋มบนที่นอนเท่านั้น แสดงว่ามนุษย์ต่างดาวมาอุ้มตัวเอลเลนไปขณะเธอหมดสติไปแล้ว
ตรงนี้เองที่จิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสะกดจิต ก็ยังสงสัยมนุษย์ต่างดาวว่ามีเทคโนโลยีสูงถึงระดับสะกดจิตคนขณะหลับได้อย่างไร?
เคิร์ท เรย์มอนด์ ผู้เชี่ยวชาญด้าน ยูเอฟโอ. ได้รับการติดต่อจากตำรวจเจ้าหน้าที่มาร่วมตรวจสอบหาคำอธิบาย เคิร์ท เป็นนักวิทยาศาสตร์ฟิสิกส์ทำงานในโครงการ “แบล็คบุ้ค” ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐอีกด้วย
“ผมพยายามคิดว่าภาพถ่าย จากกล้องวงจรปิดเป็นการแหกตาสร้างภาพขึ้นมาแต่ดูยังไงๆ มันก็เป็นของจริงทั้งสิ้น ผมกล่อมคุณแฮรี่หลายครั้ง บอกเขาว่าความจริงเป็นอย่างไรบอกมาอย่างนั้น อย่าทำให้ผมต้องเสียเวลา เขาก็ยังยืนยันเป็นเรื่องจริงร้อยเปอร์เซ็นต์ และผมเองยอมรับว่านี่คือภาพแรกที่ผมได้พบเห็นอย่างจะ ๆ ว่ามนุษย์ต่างดาวกำลังลักพาตัวผู้หญิงชาวโลกไป”
“เราพยายามสันนิษฐานว่าผู้ลักพาตัวเอลเลนไปก็เพื่อตรวจสอบระบบสรีระร่างกายเท่านั้น พอเสร็จงานก็ส่งเธอกลับอย่างปลอดภัย” ขณะที่แฮรี่ผู้เป็นสามีกล่าวอย่างเหลืออดว่า “สิ่งที่ผมกลัวคือ พวกนั้นอาจใช้ร่างของเอลเลนเพื่อโคลนนิ่งตัวอ่อน โดยฝังอยู่ในท้องของเธอแล้วส่งตัวเธอกลับมาแล้วเธอจะมีสภาพเป็นแม่ของตัวประหลาดไป”
“ผมศึกษาเรื่องมนุษย์ต่างดาวมาหลายกรณีแล้วเป็นพันๆ เหตุการณ์ก็ไม่เคยเห็นอะไรที่มันโจ่งแจ้งเช่นนี้มาก่อนเลย” นักยูเอฟโอ.เคิร์ทกล่าว อย่างไรก็ตามเคิร์ทกล่าวว่า “หลังจากผมนำภาพไปให้ผู้เชี่ยวชาญด้านกล้องโทรทัศน์วงจรปิดตรวจสอบหลายคน พบว่ามีข้อพิสูจน์บางอย่างเช่น ตามหลักแรงโน้มถ่วงของโลกมนุษย์ต่างดาวตัวเล็กแต่ขณะอุ้ม เอลเลน ซึ่งสูง 5 ฟุต 8 นิ้วหนัก 130 ปอนด์ ดูท่าว่าไม่หนักแรงอะไรเลย อาจเป็นไปได้ว่ามนุษย์ต่างดาว ตน นี้แข็งแรงกว่าคนเราถึง 2 เท่า จึงทำแบบนี้ได้” ขณะเขียนข่าวนี้ เอลเลนหายไป 25 วันแล้ว
"ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นผมหวังว่าพวกนั้นส่งตัวเอลเลนกลับบ้านอย่างไม่มีส่วนใดบุบสลาย” แฮรี่กล่าวอย่างเป็นทุกข์ในที่สุด"
ที่มา: http://allmysteryworld.blogspot.com