จับตา 1-3 วันหลัง " พายุสุริยะ " จะเกิด " ภัยพิบัติ " อะไร ที่ใหน ในโลกใบนี้ ??

 

 

 

จับตา 1-3 วันหลัง " พายุสุริยะ "

จะเกิด " ภัยพิบัติ " อะไร ที่ใหน ในโลกใบนี้ ?

 

จากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติเมื่อวานนี้ เกิดปรากฏการณ์ พายุสุริยะที่รุนแรง ที่สุดในรอบ 10 ปี จนทำให้เกิดออโรร่า หรือเรียกว่าปรากฏการณ์แสงเหนือ

   วันก่อนได้อ่านบทความในมติชน บทสัมภาษณ์ของ ดร.ก้องภพ อยู่เย็น  วิศวกรด้านเทคโนโลยีตรวจจับคลื่นพลังงานจากนอกโลกขององค์การนาซา ได้พูดเอาใว้อย่างน่าสนใจว่า

ปรากฏการณ์ "พายุสุริยะ" ทำให้ดวงอาทิตย์ส่งพลังงานประจุไฟฟ้าออกมายังโลกและดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ ซึ่งประจุไฟฟ้าที่ ส่งออกมาคือสิ่งที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงของ "ภูมิอากาศ" และ "ระบบธรณีวิทยา" บนโลก    พร้อมชี้ว่า   พายุสุริยะหรือการระเบิดของดวงอาทิตย์   เป็นสัญญาณบอกเหตุก่อนเกิดภัยพิบัติธรรมชาติ  1-3 วัน 

รวมถึงยกตัวอย่าง วิกฤตอุทกภัยในภาคกลางของประเทศไทยเมื่อปลายปี 2554   ที่ผ่านมา ปรากฏว่าเมื่อ วันที่ 22 กันยายน 2554(2011)  ได้เกิดพายุสุริยะขึ้น เป็นช่วงที่ดวงอาทิตย์มีการระเบิดอย่างรุนแรง โดยหน่วยงาน spaceweather.com ของสหรัฐทำนายว่า ในวันที่ 26 กันยายน จะเกิดประจุไฟฟ้ามาตกกระทบที่ขอบโลก ด้านนอก และตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน ปริมาณน้ำก็เพิ่มขึ้นมากและเกิดน้ำท่วมต่อมา และในวันเดียวกัน ที่ประเทศสเปนยังมีภูเขาไฟระเบิดอีกด้วย   เช่นเดียวกับ  "น้ำท่วมภาคใต้" ที่ตรวจพบพายุสุริยะเมื่อ 26 ธันวาคม 2554  ต่อมา  28 ธันวาคม เกิดฝนตกหนัก และวันที่ 30-31 ธันวาคม กับเหตุการณ์น้ำก็ท่วม


    ย้อนไปก่อนหน้านี้  ถึงเกิดคลื่นสึนามิที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ปี2011 ก็ตรวจพบดวงอาทิตย์มีการระเบิดอย่างรุนแรง ทำให้ "จุดดับ" บนดวงอาทิตย์เกิดการหดหรือขยายตัว จึงมีการตั้งข้อสังเกต หากจุดดับบนดวงอาทิตย์หดหรือขยายตัว จะสัมพันธ์กับการเกิด แผ่นดินไหวบนโลก

     เพราะฉนั้นหากว่าทฤษฏีนี้เป็นจริงภายใน 1-3 วันนี้ ต้องมีภัยพิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้นภายในโลกใบนี้ ที่ใหนที่ใดหนึ่งอย่างแน่นอน

    และปรากฏการณ์ พายุสุริยะ เมื่อวานรุนแรงในรอบ 10 ปี หากเกิดภัยพิบัติจริง มันก็น่าที่จะรุนแรงกว่าในรอบ 10 ปีเหมือนกัน ถึงแม้เป็นแค่สมติฐานหรือว่าทฤษฏี โอกาสที่จะเกิดขึ้นมามีหรือไม่มีเราไม่สามารถที่จะหยั่งรู้ได้ แต่เราก็สามารถที่จะเตรียมพร้อมใว้ได้ ไม่ตื่นตระหนก แต่ก็ไม่ประมาทครับ

 

 ขอบคุณข้อมูลและภาพจากhttp://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1327398029&grpid=01&catid=no&subcatid=0000 

Credit: http://www.oknation.net/blog/slaonark/2012/01/25/entry-1
25 ม.ค. 55 เวลา 17:12 8,427 8 90
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...