หลวงตาพิลึก ขับรถธุดงค์

พระเมืองสองแควมาแปลก ซิ่งกระบะเก่าๆ บรรทุกข้าวของเต็มคัน มีทั้งตู้เย็น-กรงหมา แถมเลี้ยงไก่ 9 ตัว หมา 5 ตัว นกอีก 30 ที่ชาวบ้านนำมาปล่อยไว้หลังรถ ขับธุดงค์แบบค่ำไหนนอนนั่น ตร.พระมาตรวจสอบพบเป็นพระจริง เจ้าตัวอ้างไม่อยากอยู่วัด เพราะเบื่อการเอารัดเอาเปรียบจะขอธุดงค์ไปเรื่อยๆ วอนหาคนใจบุญบริจาคเงินสร้างวัดให้อยู่

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 24 ม.ค. นายปรเมศ มุสิกรักษ์ เจ้าหน้าที่สำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดพิษณุโลก ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี พบพระภิกษุสงฆ์ขับรถยนต์กระบะบรรทุกสิ่งของมาเต็มคัน โดยมีกรงสัตว์เลี้ยงนานาชนิดจำนวนหลายกรง มาจอดพักที่บริเวณริมแม่น้ำน่านหลังวัดท่ามะปราง หลับนอนมาตั้งแต่กลางคืนที่ผ่านมา ทั้งข้าวของวางเต็มพื้นที่ไปหมด ตลอดทั้งตากผ้าเหลืองเอาไว้ โดยไม่สนใจสายตาของผู้คนที่ผ่านไปมา เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นแหล่งชุมชน และตลาดไนท์บาร์ซ่า ผู้คนจำนวนมากผ่านไปมามองดูด้วยความสงสัยว่าเป็นพระจริงหรือไม่ ให้ช่วยตรวจสอบ

หลังได้รับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบ ตอนแรกไม่พบพระรูปดังกล่าวมีเพียงรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ สีเขียว ทะเบียน น-8162 พิษณุโลก จอดอยู่ ภายในรถได้บรรทุกข้าวของเต็มไปหมด มีสัตว์เลี้ยงหลายชนิดอยู่ในกรง ทั้ง ลิง นก ไก่ หมา เต่า ปลา ปู โดยปล่อยให้หมาและไก่เตี้ยเดินอยู่ใกล้กับรถยนต์

นอกจากนั้นยังมีกระถางไม้ดอกไม้ประดับ ข้าวของเครื่องใช้ รวมทั้งตู้เย็นตั้ง อยู่บนกระบะรถยนต์ แล้วยังตากจีวรเอาไว้ กระทั่งเวลาผ่านไปพระรูปดังกล่าวได้เดินทางกลับมาที่รถยนต์ ทางเจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบใบสุทธิ ทราบชื่อพระละม่อม ฐิตปุญโย อายุ 69 ปี เดิมชื่อนายละม่อม เชยเดช อยู่บ้านเลขที่ 130 ม.11 ต.วังน้ำคู้ อ.เมือง จ.พิษณุโลก โดยบอกว่าได้ไปหาซื้ออาหารสัตว์และตาข่ายเหล็กมาทำกรงขังสัตว์

พระละม่อม กล่าวว่า ภูมิลำเนาอาตมาเกิดที่บ้านปากพิงตะวันตก เป็นผู้นำชุมชนมา 17 ปี โดยบวชครั้งแรกเมื่ออายุ 20 ปี บวชอยู่ได้พรรษาเดียวก็สึกออกไป หลังจากมีครอบครัวมีลูก 3 คนตอนนี้ทุกคนจบปริญญามีงานทำกันหมดแล้ว จึงได้กลับไปบวชอีกครั้งเมื่อปี 2542 จนถึงปัจจุบัน ที่ผ่านมาอาตมาอยู่ตามวัดต่างๆ มาแล้วกว่า 30 วัด แต่ว่าอยู่ไม่ได้เพราะคนเราเห็นแก่ตัวกันมากเอารัดเอาเปรียบ แม้แต่ครอบครัวของอาตมายังไม่ยอมให้เข้าบ้าน หาว่าบ้า จึงได้เร่ร่อนไปตามสถานที่ต่างๆ

"สำหรับรถยนต์ที่ซื้อไว้หลายสิบปีราคา 160,000 บาท ตอนนี้เก่ามาก ขับถอยหลังไม่ได้เพราะเกียร์พังเดินหน้าได้อย่างเดียวจึงเป็นทรัพย์สินชิ้นเดียวที่มีอยู่ เมื่อไม่มีวัดอยู่ได้เก็บข้าวของส่วนตัวทุกอย่างใส่รถยนต์ขับตระเวนไปตามจังหวัดต่างๆ ค่ำที่ไหนนอนที่นั่น โดยวัดสุดท้ายได้จำพรรษาอยู่คือวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ก่อนจะอยู่ที่วัดนั้นไม่ได้จึงขับรถยนต์ตระเวนไปเรื่อยๆ" พระธุดงค์ กล่าว

พระละม่อม กล่าวต่อว่า สำหรับสัตว์เลี้ยงมีญาติโยมนำมาถวาย จึงต้องเลี้ยงเอาไว้อย่างลิงตั้งชื่อลำยอง โยมจากชัยนาทนำมาถวาย นอกจากนั้นยังมีญาติโยมจากที่อื่นให้สัตว์มาเลี้ยงอีก ได้แก่ ไก่เตี้ย ไก่บ้านรวม 9 ตัว หมา 5 ตัว นก 30 ตัว และยังมีเต่า ปลา ปู อีกจำนวนหนึ่ง จะใส่กรงพาไปตลอดเวลา เพราะเลี้ยงสัตว์ดีกว่าเลี้ยงคน อาตมาอยู่แบบนี้สบายใจไม่ได้ทำผิดอะไรและไม่มีของผิดกฎหมาย อยากจะมีที่ดินอยู่เฉพาะเพื่อสร้างวัดทำสิ่งที่ต้องการ ทุกวันนี้มีแต่คนมามุงดู ไม่เห็นมีใครมาช่วย แถมตำรวจกลับมาไล่อีก

ต่อมาพระครูสังฆรักษ์ศักดิ์นรินทร์ ผู้ช่วยเลขารองเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก พร้อมเจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลนครพิษณุโลก ได้เดินทางมาตรวจสอบ โดยขอดูใบสุทธิ และสอบ ถามถึงวัดต้นสังกัด และที่มาที่ไปในการตระเวนออกพักแรมตามที่ต่างๆ หลังจากตรวจสอบใบสุทธิแล้วพบว่าเป็นของจริง ผู้ช่วยเลขาฯรองเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลกได้พยายามบอกให้พระละม่อมหาวัดสังกัดอยู่ การตระเวนไปอย่างนี้เป็นภิกษุสงฆ์ทำไม่ได้ ยิ่งพระขับรถเอง แถมยังขนสัตว์อยู่ในสภาพกรงขังไปด้วยยิ่งดูไม่เหมาะสมกับความเป็นพระ จึงอยากจะให้หาวัดอยู่เป็นหลักแหล่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังพูดคุยเจรจากันอยู่นานพระละม่อมก็ไม่ขอยอมไปอยู่วัด โดยบอกว่าจะไม่อยู่บริเวณนี้จากนั้นได้เก็บสิ่งของและอุปกรณ์เลี้ยงสัตว์ขึ้นรถขับออกไปจากบริเวณดังกล่าว พร้อมกับบอกว่าหากมีใครจะถวายที่ดินสร้างเป็นวัดยินดีที่จะไปอยู่ ตอนนี้ยังไม่มีที่อยู่ก็จะเดินทางขับรถไปเรื่อยๆ ใครที่ต้องการจะมอบที่ดินติดต่อที่หมายเลข 08-2880-7425
 

25 ม.ค. 55 เวลา 13:04 9,009 8 100
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...