น้ำผักผลไม้กับการรักษาโรค

 



         นอกจากการใช้น้ำดื่มเป็นเครื่องดื่มเพื่อบำรุงสุขภาพนักธรรมชาติบำบัดบางท่านยังเลือกใช้น้ำผักผลไม้ซึ่งอาจผสมสมุนไพรหรือสารอาหารบางชนิดลงในสูตรตำรับโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อบำรุงความแข็งแรงของกระดูกและกล้ามเนื้อ  ความแข็งแกร่งของร่างกาย  กระตุ้นจิตใจ  หรือทำจิตใจให้สงบชะลอความชราบรรเทาโรคในช่องอก  ทางเดินหายใจ  รักษาโรคหลายชนิด ฯลฯ เพื่อคุณจะได้ทดลองเตรียมเครื่องดื่มบรรเทาโรค  เสริมการรักษาได้ด้วยตนเอง ดังนี้ค่ะ

สิวและโรคผิวหนังบางชนิด  อาจเกิดจากสาเหตุภายนอกเช่นแบคทีเรีย เชื้อรา  และสาเหตุภายใน เช่นความเครียด และฮอร์โมนในร่างกายเสียสมดุล  สิวอาจเกิดจากการที่ต่อมไขมันใต้ผิวหนังทำงานมากเกินไป สารพิษหรือสารเคมีจากเครื่องสำอางก็สามารถกระตุ้นให้สิวเห่อได้  บางคนใช้เครื่องสำอางยี่ห้อนี้ได้  ยี่ห้อโน้นไม่ได้  สิวกำเริบทันที  ต้องหมั่นสังเกตค้นหาสาเหตุด้วยตนเอง อย่ารอให้แพทย์ดูแลแทนคุณ เพราะคุณมีเวลาดูแลร่างกายวันละ 24 ชั่วโมง หมออาจมีเวลาให้คุณแค่ 10 นาที  ระวังอย่าให้ขาดน้ำ  ดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำผักผลไม้ให้มากไว้ ระวังอย่าให้ท้องผูก ระวังของหวาน อาหารที่ปรุงด้วยแป้งสาลี ( อาหารสำเร็จรูปจำพวกขนมขบเคี้ยวเกือบทุกชนิด เค้ก  ขนมปัง ) ช็อกโกแลตและความเครียดกระตุ้นสิวได้  นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ  น้ำผักและผลไม้ต่อไปนี้ช่วยคุณได้ สาหร่ายสไปรูลีน่าและสาหร่ายน้ำจืดอื่นๆ กระเทียม  หอม  น้ำผักผลไม้ที่สีเหลืองส้ม  เขียวเข้ม  มันฝรั่ง  วีทกราส  ยีสต์

สูตรแนะนำ
1.   น้ำแครอท   180   มิลลิกรัม
2.   น้ำผักคะน้า   90   มิลลิกรัม
3.   น้ำวีทกราส   30   มิลลิกรัม
4.   หอมแดงหรือกระเทียม   1-2   กลีบ

ผสมส่วนประกอบทั้งหมดรวมกัน  ปั่นหรือสกัด กรองเอาแต่น้ำทำเป็นเครื่องดื่ม ไม่ต้องใส่น้ำตาล หรือใส่น้อยๆอาจบีบมะนาวให้ออกเปรี้ยวเพื่อให้ดื่มง่าย  วีทกราสบางคนอาจคิดว่าเป็นใบและต้นเขียวๆของข้าวสาลี  อันที่จริงวีทกราสเป็นหญ้าไม้เลื้อยชนิดหนึ่ง  ใส่ในตำราเพื่อเพิ่มฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ  หรือจะเติมชาเขียวลงไปสักหนึ่งถ้วยตวงก็ได้อีกเหมือนกัน หรือมีโอกาสไปเมืองนอกซื้อวีทราสชนิดผงมาใช้แทน ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะก็เพียงพอ


หวัดและภูมิแพ้  ผื่นคันจากการแพ้  น้ำมูกไหล  หายใจขัด  หอบหืด  คุดจมูก  หวัด  อาการเหล่านี้เกิดได้เพราะการทำงานของภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ  อาจสูงหรือต่ำเกินไป  ทางแก้คือต้องปรับภูมิคุ้มกันให้สู่สมดุลและต้องหาสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ วึ่งอาจมีมากมาย เช่น ควัน ฝุ่น ผง เบียร์  ไวน์  อาหาร  นม ฯลฯ
น้ำผักผลไม้ที่แนะนำ  ใช้ผลไม้ต่อไปนี้ทำเครื่องดื่ม หอม แอปเปิ้ล  ฝรั่ง  ผักใบเขียว  ถั่วเมล็ด  สตรอเบอรี่  ส้มมะนาว  แคนทาลูป  ผลไม้รสเปรี้ยว  มะละกอ

สูตรแนะนำ
1.   เครื่องดื่มฟลาโวนอยดส์สำหรับเด็ก
2.   แอปเปิ้ล   1   ผล
3.   สตรอเบอรี่   8   ผล
4.   เนื้อฝรั่ง   1   ผล
5.   บีพอลเลน  แกะเนื้อใน   1   แคปซูล
6.   น้ำเปล่า    1    ถ้วยหรือมากกว่านั้น
7.   น้ำผึ้ง   1   ช้อนชา

สกัดน้ำฝรั่งและแอปเปิ้ลเติมน้ำให้เหลว  ใส่ในเครื่องปั่นเติมสตรอเบอรี่และส่วนผสมที่เหลือ  เสิร์ฟเย็น  บีพอลเลนช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ถ้าหาไม่ได้ก็ตัดทิ้งยังคงความขลังไว้ได้เหมือนเดิม

โลหิตจาง  หมายถึง   การที่ร่างกายมีเม็ดโลหิตแดงในเลือดน้อยกว่าปกติหรือมีมากแต่เม็ดโลหิตพิกลพิการทำงานไม่เต็มร้อย หน้าที่ของเม็ดโลหิตคือการนำส่งออกซิเจนไปตามกระแสเลือด  ขาดเม็ดโลหิตก็เท่ากับขาดอากาศหายใจ  ร่างกายอ่อนเพลียอ่อนแอ  หากมารดามีอาการโลหิตจาง  จะส่งผลให้ทารกในครรภ์เจริญเติบโตช้าหรือขาดพัฒนาการเพราะขาดออกซิเจน  โลหิตจางเกิดได้จากหลายสาเหตุแต่สาเหตุหลักๆที่ได้พบมากคือ ขาดธาตุเหล็ก  ขาดวิตามินบี 12 เสียเลือดกะทันหันทีละมากๆ และเม็ดเลือดแดงถูกทำลายเร็วกว่าอัตราที่ร่างกายสร้างได้  หากเป็นกรณีที่เกิดจากการขาดธาตุเหล็ก  ขาดวิตามินบี 12  หรือขาดกรดโฟลิกพบว่าอาหารครบหมู่ช่วยคุณได้  อย่างไรก็ตามแม้กินอาหารครบหมู่ ธาตุเหล็กอาจดูดซึมได้ไม่ดี  น้ำผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงที่มใความสามารถน่าอัศจรรย์อีกประการคือ มันช่วยให้ธาตุเหล็กถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น  อาหารต่อไปนี้เหมาะกับผู้ที่ป่วยเป็นโรคโลหิตจาง  อาหารจำพวกเนื้อสัตว์  ข้าวซ้อมมือ  ตับเลือดสัตว์  ส่าเหล้า หรือยีสต์ สาหร่ายสไปรูลิน่า จมูกข้าว  ผลไม้แห้ง  ตับสัตว์  รำข้าว  ถั่วเมล็ด สาหร่ายทะเล  ถั่วงอก  ผักใบเขียว

สูตรแนะนำ
น้ำมะลกอ  น้ำฝรั่ง  น้ำสตรอเบรี่  น้ำส้ม  น้ำผักใบเขียว  สลับสับเปลี่ยน  หลังอาหารมื้อละ 1 แก้ว เพื่อช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้มากขึ้น  น้ำผักใบเขียวให้กรดโฟลิก

ปวดข้อ  ปวดหลัง  ปวดกระดูก  เป็นอาการรวมๆ ที่มีสาเหตุมาจากโรคมากมายหลายชนิด  ทำให้เคลื่อนไหวลำบากนั่งเฉยๆยังปวด ตึง ส่วนใหญ่การปวดข้อหรือกระดูกมักจะเป็นตรงรอยต่อระหว่างกระดูกโดยเฉพาะแขน ขา เข่า นิ้ว โดยปกติรอยต่อเหล่านี้จะมีถุงน้ำคล้ายหมอน  ทำหน้าที่รองกระดูกไม่ให้เสียดถูกัน  ในหมอนบรรจุน้ำข้นเหลวอยู่ทำให้เกิดการหล่อลื่นเหมือนหยอดน้ำมันเครื่อง  การขาดน้ำหล่อลื่น  กระดูกงอผิดส่วน  การมีผลึกคมตกผลึกอยู่ระหว่างรอยต่อกระดูก  การสึกกร่อนของผิวกระดูก  ล้วนส่งผลให้เกิดข้ออักเสบ  ผู้ป่วยโรคนี้ควรกินอาหารแบบมังสวิรัติเป็นดีที่สุด เน้นอาหารที่ทำจากแป้งไม่ขัดขาว  ข้าวควรเป็นข้าวซ้อมมือ ลดน้ำตาล  ขนมหวาน  กินผักและผลไม้ให้มาก  กินเนื้อสัตว์เพียงนิดหน่อย  จะช่วยให้อาการดีขึ้นมาก  ข้ออักเสบบางครั้ง เกิดจากการแพ้อาหาร หรือสารเคมีเจือปนในอาหารจึงไม่ควรกินอาหารสำเร็จรูป  ขนมขบเคี้ยวที่ผลิตจากโรงงาน  ส่วนไขมันควรลดให้มากที่สุด  คือ กินเท่าที่จำเป็นในการปรุงอาหาร  งดเนื้อสัตว์ใหญ่ เพราะมักจะมีมันแทรกปนในเนื้อเช่นเดียวกัน คุณควรลดน้ำหนักตัวลงให้อยู่ในมาตรฐาน  การแพทย์ทางเลือกเชื่อว่า การเสื่อมสลายของกระดูกและข้อจะลดลงได้ด้วยอาหารที่มีทองแดงจะช่วยให้เนื้อเยื่อเกี่ยวพันแข็งแรงขึ้น  พืชตระกูลถั่วทั้งหลาย เห็ด และเมล็ดพืชเปลือกแข็ง  จำพวกลูกก่อ  ลูกนัท  ถั่วพีแคน  พิทาสซิโอ  ล้วนเป็นแหล่งที่ดีของธาตุทองแดง  จึงเชื่อว่าจะช่วยลดอาการอักเสบของข้อและเนื้อเยื่อรอบๆ  ไขมันโอเมก้า - 3  ซึ่งพบในอาหารทะเลก็ช่วยบรรเทาการอักเสบได้เช่นกัน  กินปลาทะเลลึก  ปลาซาร์ดีนกระป๋อง หรือจะซื้อน้ำมันปลามาปรุงอาหารแทนน้ำมันพืชเป็นครั้งคราว   2-3   ครั้งต่ออาทิตย์กำลังดี

สูตรแนะนำ    เพื่อชะล้างทำความสะอาดข้อ
1.   นำขึ้นฉ่ายฝรั่ง   180   มิลลิลิตร
2.   น้ำวีทราส   30   มิลลิลิตร
3.   น้ำปวยเล้ง   30   มิลลิลิตร
4.   น้ำกะหล่ำปลี   30   มิลลิลิตร
5.   น้ำคะน้า   30   มิลลิลิตร
6.   สาหร่ายสไปรูลิน่าผง   1   ช้อนชา

สูตรนี้เป็นน้ำผักที่ให้คลอโรฟิลล์สูง  เชื่อว่าจะช่วยชะล้างกรดยูริค ที่ตกผลึกตามข้อต่อจึงป้องกันการกำเริบของโรคเกาต์ได้  ขึ้นฉ่ายฝรั่งหาซื้อได้ตามร้านค้าโครงการหลวง หรือตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆไม่มีจริงๆลองใช้ของไทย แต่กลิ่นจะแรงกว่า

มะเร็ง    การพูดถึงมะเร็งเป็นเรื่องใหญ่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ไม่มีสารอาหารใดๆศักดิ์สิทธิ์พอที่จะรักษาโรคมะเร็งได้โดยตรง  แต่มีหลักฐานน่าสนใจว่าอาหารจำพวกผักผลไม้สามารถเสริมการรักษาหรือป้องกันมะเร็งได้ดีไม่น้อย  โดยไฟเบอร์จากผักผลไม้ช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่  ผักผลไม้ที่มีแคโรทีนอยดส์สีเหลืองส้มช่วยป้องกันมะเร็งปอด  เช่นนี้เป็นต้น  การแพทย์ทางเลือกเชื่อว่า มะเร็งไม่ใช่โรคที่เกิดจากสาเหตุเดียว  แต่เกิดจากสาเหตุร่วมหลายประการมาประชุมพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมาย  มะเร็งเกิดได้กับหลายอวัยวะมีชื่อเรียกแตกต่างกันแต่มีคุณสมบัติร่วมกันบางประการคือ มีเซลล์ธรรมดาตัวหนึ่งในร่างกายเกิดแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว  ยั้งไม่อยู่ร่างกายกำจัดไม่ทัน ป้องกันไม่ได้  มันเพิ่มทวีจนกลายเป็นก้อนมหึมา  ขัดขวางการทำงานของอวัยวะนั้นๆ  ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้กินผักผลไม้อย่างน้อยวันละ  5 หน่วยบริโภคหรือประมาณ   3-5   ถ้วยตวง ทั้งสด  สุก  ต้มยำทำแกง  และทำเป็นเครื่องดื่ม  ยิ่งถ้ากินได้เหมือนนักมังสวิรัติ  บวกนมสดพร่อมมันเนย  ไข่  หรืออาหารทะเล  ปลาทะเลสักเล็กน้อยจะดีเลิศ การสึกษาชิ้นหนึ่งพบว่าหญิงที่กินอาหารมังสวิรัติจะเป็นมะเร็งเต้านมน้อยกว่าคนที่กินตามปกติถึงร้อยละ 45 ผักผลไม้ที่ควรจัดให้มีสำรับคือคะน้า  บรอคโคลี  กะหล่ำปลี  ผักกาดทุกชนิด  กะหล่ำดอก  ปวยเล้ง  ถั่วเหลือง  เต้าหู้  นมถั่วเหลือง  พืชตระกูลถั่ว  สาหร่าย  องุ่นแดง  สตรอเบอรี่  แอปเปิ้ล  ส้มมะนาว  ผักใบเขียวเข้ม  กระเทียม ชาเขียว

สูตรแนะนำ
ถ้าจะให้ง่าย ดื่มชาเขียว  น้ำผักใบเขียว  น้ำแอปเปิ้ล  สตรอเบอรี่  น้ำฝรั่ง เป็นประจำ  หรือทดลองสูตรนี้บ้างก็ได้
1.   นำขึ้นฉ่ายฝรั่ง   150   มิลลิลิตร
2.   น้ำกะหล่ำปลีหรือคะน้า   60   มิลลิลิตร
3.   น้ำปวยเล้ง   60   มิลลิลิตร
4.   สาหร่ายชนิดผง   1   ช้อนชา
5.   บีบมะนาวเล็กน้อย

สูตรง่ายๆ  แค่นี้ เขาว่าป้องกัน เสริมการรักษามะเร็งได้ดีทีเดียว  อย่างน้อยสุขภาพโดยรวมก็ดีขึ้น  ไม่เสียหลาย...

Credit: นิตยสารพลอยแกมเพชร กรกฎาคม 2547
24 ม.ค. 55 เวลา 22:31 1,530 2 40
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...