รายงานข่าวล่าสุด อ้างอิงจากเอกสารของไมโครซอฟท์ (Microsoft) ได้มีการระบุถึงความต้องการฮาร์ดแวร์ขั้นต่ำสำหรับ"แท็บเล็ต" (tablet) ที่ใช้รัน Windows 8 ว่า มันควรจะมีปุ่มควบคุมอะไรบ้าง ตลอดจนขีดความสามารถของระบบควรเป็นอย่างไร พร้อมทั้งช่วงราคาที่จะอยู่ระหว่าง 599 - 899 เหรียญฯ (ประมาณ 24,000 - 27,000 บาท) อุ๊ปส์!!!

ในขณะที่ผู้นำตลาด"แท็บเล็ต"ปัจจุบันก็คือ iPad 2 ราคาจะอยู่ที่ 499 - 829 เหรียญฯ (ประมาณ 15,000 - 25,000 บาท) การที่ช่วงราคา"แท็บเล็ต" Windows 8 ค่อนข้างสูงขนาดนี้ ทำให้ตำแหน่งของผลิตภัณฑ์ของแท็บเล็ต Windows 8 ไม่ใช่แท็บเล็ตทางเลือกราคาถูกสำหรับผู้บริโภค ในส่วนของรายละเอียดเกียวกับคุณสมบัติขั้นต่ำฮาร์ดแวร์แท็บเล็ต Windows 8 ได้โพสต์ไว้บนเว็บไซต์ของไมโครซอฟท์ แบ่งเป็นความต้องการฮาร์ดแวร์ของไคลเอ็นต์ และเซิร์ฟเวอร์ Windows 8 จำนวน 293 หน้า และอุปกรณ์ 943 หน้า 

ตัวอย่างบางส่วนของคุณสมบัติ"แท็บเล็ต" Windows 8 ก็เช่น จะต้องมีปุ่มควบคุมการใช้งานอย่างน้อย 5 ปุ่ม ได้แก่ ปุ่มเปิด/ปิด ปุ่มล็อคหน้าจอไม่ให้หมุน Windows Key และปุ่มปรับระดับเสียงขึ้น และลง นอกจากนี้ การกดปุ่ม Windows Key กับ Power จะหมายถึงคีย์ลัดในการรีบู๊ต"แท็บเล็ต" Windows 8 แทนการใช้ Ctrl+Alt+Delete ที่คุ้นเคยบน Windows PC อีกด้วย นอกจากนี้ แท็บเล็ต Windows 8 จะต้องมาพร้อมกับกล้องหลังที่สามารถบันทึกวิดีโอที่ 720p เซ็นเซอร์ตรวจจับความเร่ง (accelerometer) เซ็นเซอร์ตรวจจับระดับความเข้มสนามแม่เหล็ก (magnetometer) ไจโรสโคป (Gyroscope) และลำโพง คุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip ที่สนใจแท็บเล็ต Windows 8 จะมีโอกาสได้ใช้งานพอร์ต USB 2.0 อย่างน้อย 1 พอร์ต รวมถึงการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 4.0 และ WLAN

แท็บเล็ต Windows 8 จะมาพร้อมกับจอสัมผัสที่มีความละเอียดอย่างน้อย 1366 x 768 พิกเซลที่จำนวนสีทีใช้ในการแสดงผล 32 บิต และจะต้องมีสตอเรจสำหรับเก็บข้อมูลอย่างน้อย 10GB ในส่วนของโพรเซสเซอร์ที่รองรับการทำงานร่วมกันได้ก็จะมี x86 ของ Intel  (Atom) และ ARM ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะมาจากผู้ผลิตอย่าง Texas Instruments, Nvidia และQualcomm สำหรับช่วงราคาที่ค่อนข้างสูงนี้ แม้ Intel และ Microsoft อยากจะทำราคาของฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ให้ถูกลง แต่ก็อาจส่งผลให้กำไรขั้นต้นของตลาดพีซีโดยรวมลดลงไปอีก อย่างไรก็ตาม จากสเป็กเบื้องต้นที่มีการประเมินราคาฮาร์ดแวร์ไว้ค่อนข้่างสูงขนาดนี้ เมื่อถึงเวลาผลิตจริง ต้นทุนอาจจะดีขึ้นก็ได้ เพราะด้วยราคาระดับนี้ คงยากที่จะต่อกรกับ iPad และแท็บเล็ต Android ได้ ซึ่งก็คงต้องติดตามกันต่อไปครับ