เปิดโปงทัวร์ซาฟารีมนุษย์ในอินเดีย
เมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมลของอังกฤษ เปิดโปงเรื่องราวสุดอนาถใจของชนเผ่าจาราวาในหมู่เกาะอันดามันของอินเดีย ที่ถูกมนุษย์ยุคใหม่ปฏิบัติกับพวกเขาเหมือนกับเป็นสิ่งมีชีวิตสุดแปลกน่าชม ด้วยการบุกรุกเข้าไปยังเขตที่อยู่อาศัย แล้วให้อาหารและสั่งให้ทำตามคำสั่ง ราวกับพื้นที่อยู่อาศัยของพวกเขาเป็นซาฟารีมนุษย์
โดยผู้ที่นำเรื่องราวนี้มาเปิดโปง คือ นายเกอเธ่น แชมเบอร์เลน ช่างภาพชาวอังกฤษที่ได้เข้าไปเก็บภาพและเรื่องราวในป่าที่อยู่อาศัยของชนเผ่าดึกดำบรรพ์ "จาราวา" บนเกาะอันดามันของอินเดีย ซึ่งพื้นที่แถบนี้เดิมทีถูกจัดเป็นพื้นที่ต้องห้ามที่เรียกว่า "เขตสงวนของชนเผ่าจาราวา" แต่กระนั้นกลับมีการอนุญาตให้เข้าชมได้ภายใต้กฎข้อปฎิบัติอย่างเคร่งครัด และมีการเปิดขายตั๋วเข้าชมกันอย่างลับ ๆ ขณะที่ตำรวจเองก็ปิดหูปิดตาและรับเงินค่าปิดปากเกี่ยวกับการล่วงล้ำและทำผิดกฎมาโดยตลอด จนทำให้พื้นที่ดังกล่าวกลายเป็นซาฟารีมนุษย์ที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมแห่กันไปชมวิถีชีวิตแบบมนุษย์ยุคหิน พร้อมกับสั่งให้ชนเผ่าจาราวาร้องรำทำเพลงตามคำสั่งเพื่อแลกกับอาหารที่นำไปให้ ราวกับพวกเขาเป็นสัตว์แสนรู้ที่นักท่องเที่ยวต้องการทำอะไรต่อมิอะไรให้ดูเพื่อเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก
นายแชมเบอร์เลน ได้เล่าว่า ธุรกิจท่องเที่ยวผิดกฎหมายนี้เป็นที่รู้กันในหมู่ชาวอังกฤษอย่างลับ ๆ และไกด์ที่อยู่ในพื้นที่ก็มักจะเสนอทัวร์ซาฟารีมนุษย์ให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือน พร้อมการันตีว่าเป็นทัวร์ที่น่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งหากนักท่องเที่ยวคนใดสนใจ ก็เพียงแค่จ่ายเงินราว ๆ 17,000 บาท ให้กับไกด์ที่จะนำไปแบ่งจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจราว 10,000 บาท แลกกับการเพิกเฉย ไม่ดำเนินคดีกับการรุกล้ำและฝ่าฝืนกฎ จากนั้นนักท่องเที่ยวก็จะได้ไปเที่ยวชมซาฟารีแห่งนี้สมใจ
โดยตลอดทริปการเที่ยวชมนี้ ก็จะมีป้ายข้อควรปฎิบัติติดไว้ตลอดทาง ไม่ว่าจะเป็น ห้ามให้อาหารชาวจาราวา, ห้ามให้ชาวจาราวาขึ้นรถ, ห้ามหยิบยื่นสิ่งของใด ๆ แก่ชาวจาราวา, ห้ามจอดรถตลอดการเดินทางเที่ยวชมชาวจาราวา เป็นต้น แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ก็ไม่ได้ทำให้นักท่องเที่ยวปฏิบัติตามนัก เมื่อผู้นำทางเองก็ยังแอบให้สิทธิพิเศษกับนักท่องเที่ยวด้วยการยอมให้นำอาหารเข้าไป และหยุดรถดูชาวจาราวาที่ยืนอยู่สองข้างทาง และภาพที่เห็นได้เป็นปกติที่นี่ คือภาพของนักท่องเที่ยวที่โยนกล้วยและขนมให้กับพวกเขาบ้าง สั่งให้พวกเขาเต้นระบำเพื่อแลกกับอาหารบ้าง ส่วนทางด้านชาวจาราวาเองก็ยอมทำ เพราะเรียนรู้ว่านักท่องเที่ยวที่เข้ามาดูเหล่านี้มีอาหารให้กับพวกเขา และนอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่พวกเขาไว้ใจก็ยังสอนพวกเขาให้รู้จักการขอเงินจากนักท่องเที่ยวอีกด้วย โดยเจ้าหน้าที่ก็จะมาเก็บเงินที่พวกเขาขอนั้นไปภายหลัง แล้วให้ของเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นการตอบแทนพวกเขา นับเป็นวงจรอุบาทว์ที่แสดงถึงความเห็นแก่ได้และไร้มนุษยธรรมของมนุษย์อย่างชัดเจน
อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการเปิดโปงทัวร์ซาฟารีมนุษย์แห่งนี้ แต่หลายปีก่อนหน้านี้ก็ได้มีการเผยแพร่และเรียกร้องให้ทางการอินเดียให้ความสำคัญและจริงจังกับการคุ้มครองชาวจาราวามากกว่านี้ ในฐานะที่เป็นชนเผ่าดึกดำบรรพ์ที่เหลือน้อยและกำลังจะสูญพันธุ์ ไม่ว่าจะด้วยการช่วยเหลือชาวจาราวา และกันพื้นที่รัศมี 5 ตารางกิโลเมตรไว้ให้พวกเขาได้ใช้ชีวิตตามธรรมชาติ แต่กระนั้น ก็ยังคงมีการรุกล้ำและขายแพ็กเกจทัวร์ซาฟารีมนุษย์นี้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติเช่นเดิม ขณะที่ทางการที่ดูแลเขตสงวนแห่งนี้ก็ได้ออกมาชี้แจงแค่เพียงว่า "ทัวร์แบบนี้ไม่ให้เกียรติชาวจาราวาเลย ซึ่งทางเราได้บอกกับผู้นำทัวร์ไปหลายครั้งแล้วว่าอย่าหยุดรถเพื่อให้อาหาร หรือแตะต้องชาวจาราวา แต่ก็ต้องเข้าใจว่าเราไม่สามารถควบคุมนักท่องเที่ยวและรถทุกคันได้ตลอดเวลา"
เช่นนั้นแล้ว ภาพของซาฟารีมนุษย์แห่งนี้ ก็ยังคงปรากฎให้เห็นกันต่อไป..