ภายหลังจากที่ มีรายงานข่าวเมื่อวันที่ 11 มกราคม ว่า กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน และบริษัท ทอพ-คลาส คอนซัลแทนท์ จำกัด ได้กำหนดดำเนินโครงการเจาะหลุมปิโตรเลี่ยม แปลงสำรวจบนบก หมายเลข L 31/50 ซึ่งมีบริษัท ซ่านซี เหยียนฉาง ปิโตรเลี่ยม (กรุ๊ป) จำกัด เป็นผู้รับสัมปทานและมีแผนดำเนินการเจาะสำรวจปิโตรเลี่ยม โดยได้มอบหมายให้บริษัท ทอพ - คลาส คอนซัลแทนท์ จำกัด เป็นผู้ศึกษาและจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม บริเวณพื้นที่บ้านโคกกลาง หมู่ที่ 15 ต.ชุมพลบุรี อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ในแปลงสำรวจขุดเจาะน้ำมัน ซึ่งเป็นที่แปลงนา กินพื้นที่กว่า 10 ไร่ ตั้งแต่เขตเทศบาลชุมพลบุรี เทศบาลทุ่งศรีชุมพล และตำบลศรีณรงค์ มีหลักธงสีขาว โดยรวมไปถึงทุ่งกุลาร้องไห้ แหล่งปลูกข้าวหอมมะลิสำคัญของไทยและของโลก ที่มีชื่อเสียง สร้างรายได้ให้ประชาชนผู้ปลูกข้าวหอมมะลิ ในแต่ละปีเป็นอย่างมาก โดยคาดว่าพื้นที่ ดังกล่าวจะมีน้ำมัน อย่างแน่นอน
พร้อมกันนี้ ประชาชนในพื้นที่ได้มีการเตรียมทำประชาพิจารณ์ รับฟังความเห็นของประชาชนทุกฝ่ายเกี่ยวกับการตั้งแท่นขุดเจาะน้ำมัน เพราะมีบางฝ่ายที่สนับสนุน เนื่องจากจะทำให้ที่ดินมีราคาสูงขึ้น แต่อีกกลุ่มก็คัดค้านเพราะเป็นห่วงผลกระทบ ที่จะเกิดขึ้นตามมาหากมีการตั้งแท่นขุดเจาะน้ำมันดังกล่าว โดยกลุ่มที่คัดค้านกังวลเรื่องมลภาวะสิ่งแวดล้อมที่จะตามมา และผลกระทบโดยเฉพาะพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ พื้นที่ปลูกข้าวหอมมะลิที่มีชื่อเสียงของโลก หากมีการขุดเจาะน้ำมัน หวั่นว่า นาข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ชุมพลบุรี จะหายไปนั้น
พลันให้ผู้สื่อข่าวมติชนออนไลน์ สะดุดนึกไปถึงคำทำนายในหนังสือศาสตร์แห่งโหร 2555 ซึ่งฟองสนาน จามรจันทร์ นักจัดรายการวิทยุ นักเขียน นักข่าวและโหรชื่อดัง ที่เขียนคำทำนายไว้ใน เรื่องดวงเมืองถึงคราวเปลี่ยนแปลงแห่งยุคสมัย หัวข้อถึงคราวเปลี่ยนแปลงใหญ่ของประเทศไทยและโลก ที่เป็นการพูดถึงอิทธิพลการเปลี่ยนแปลงของวงโคจรของดวงดาวตามโหราศาตร์ภายใต้ดาวบาปเคราะห์แห่งอิทธิพล ของราหู ในรอบปี 2555 จะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นต่างๆ ที่ค่อนข้างไปในทางไม่ดีค่อนข้างมาก ซึ่งมีอยู่ท่อนหนึ่งของคำทำนาย ฟองสนาน ระบุไว้ว่า
" ระหว่างนี้ ถึง 21 เมษายน 2555 ซึ่งเป็นวันวางเสาหลักเมือง พระราหูเป็นศรีจรตามระบบทักษา ถ้าเป็นดวงชะตาคนมักจะได้มรดกสิ่งที่เสียหายหรือตายแล้ว จะได้กลับคืนมา เมื่อเป็นดวงเมืองคาดว่าจะพบทรัพยากรประเภทน้ำมันมากมายในทะเล หรือมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับภาษี แต่ต้องระวังการทุจริตรั่วไหล รวมทั้งการสูญเสียที่เป็นทุกข์ของเมืองแล้วได้ลาภ"
สอดคล้องไปกับ คำทำนายของ พัฒนา พัฒนศิริ อีกหนึ่งนักโหราศาสตร์ นักพยากรณ์ชื่อดัง ผู้เป็นอาจารย์ของ หมอลักษณ์ เรขานิเทศน์ ในศาสตร์แห่งโหร 2555 ที่เขียนทำนายไว้ในเรื่อง เศรษฐกิจ สังคม การเมืองไทย ในปี 2555 โดยพูดถึงเรื่อง อิทธิพลทางโหราศาสตร์ ของ "ดาวราหู" ที่แม้จะมีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้นมากมายโดยเฉพาะการทำนายว่า ปลายปีจะเกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่อีก และโลกอาจจะพัง แต่ในเรื่องของเศรษฐกิจ ค่อนข้างที่จะมีทิศทางดีขึ้น ด้วยเพราะ ดาวพฤหัสบดี หมายเลข 5 ที่เป็นศุภเคราะห์ คือเป็นดวงดาวที่จะสามารถเกื้อหนุนจุนเจือความอยู่ดีมีกินของประชากรชาติ เป็นดาวโชคใหญ่ของมวลมนุษย์ และเป็นดาวที่ให้ผลโดยตรงกับเรื่องของค่าจ้าง ค่าเช่า ดอกเบี้ยเงินปันผล ซึ่งมีวิถีโคจรอยู่ที่ ราศีเมษและราศีพฤษภ ตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม ปี 2554 ถึงวันที่ 14 พฤษภาคม 2555 โดยเฉพาะเรื่องของอหังสาริมทรัพย์ พวกการซื้อขายที่ดิน ที่ โหรพัฒนา" ระบุว่า
"อหังสาริมทรัพย์ "ยังไปโลด กิจการด้านอหังสาริมทรัพย์ที่อยู่ในระดับ คึกคักในปีที่ผ่านมา ปีนี้ยังคงคึกคักต่อไปอีก ด้วยเพราะดาวพฤหัสบดีมีอิทธิพลเป็นอย่างยิ่งต่อที่ดินมีราคา หรือที่ดินซึ่งมีสิ่งปลูกสร้างเมื่อโคจรเข้าทับลัคนาดวงเมืองและเมื่อโยกย้ายเข้าราศีพฤษภอันเป็นเรือนกดุมภะของดวงเมือง"
สิ่งที่มติชนออนไลน์นำเสนอนั้น เป็นเพียงแค่การตั้งข้อสังเกตเหตุการณ์ความเป็นไปที่เกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนมกราคม 2555 เท่านั้น ส่วนคำทำนาย ที่หยิบยกมาเชื่อมโยงก็เป็นเพียงการชี้ให้เห็นถึงความสอดคล้องความน่าจะเป็น ของอิทธิพลแห่งดวงดาวตามหลักโหราศาสตร์ ที่ทั้ง "ฟองสนาน" และ "พัฒนา พัฒนศิริ" ทำนายไว้ในหนังสือ"ศาสตร์แห่งโหร 2555
ก็คงขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคนแล้วล่ะว่า จะเลือกเชื่อ อย่างมีเหตุมีผล หรือไม่...?