เปิดใจหนุ่ม สุรินทร์ ผู้จุดกระแสฮือฮาในโลกไซเบอร์ หลังจากเผยแพร่ภาพทำพิธีวิวาห์กับ 'ศพ' ของแฟนสาวที่เพิ่งเสียชีวิตเมื่อช่วงปีใหม่ เผยคบหากันมานาน 10 ปี ฝ่ายหญิงถามเสมอว่าจะแต่งกันเมื่อไหร่แต่ตัวเองกลับบอกให้รออีก 7 ปี กระทั่งสุดท้ายต้องมาสูญเสียหญิงสาวคนรักจากไปไม่มีวันกลับ จึงตัดสินใจจัดงานแต่งงานกลางงานศพเพราะเป็นสิ่งสุดท้ายที่สามารถทำให้คนรักได้ ยืนยันไม่เคยคิดอยากดัง แต่อยากสื่อให้รู้ว่าชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก ขอให้ทำในสิ่งที่ปรารถนาและดูแลคนที่เรารักไม่ว่าจะเป็นแฟนหรือพ่อแม่พี่น้องให้ดีที่สุดตอนยังมีลมหายใจอยู่
เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" ราย งานว่า ขณะนี้ในสังคมออนไลน์กำลังให้ความสนใจและพูดคุยกันมากกรณีหนุ่มที่ใช้ชื่อ Chadil Deffy หรือ "เดฟ" จาก จ.สุรินทร์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กเชิญชวนคนมาร่วมงานแต่งงานของตัวเขากับแฟนสาว ที่เพิ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา โดยเขียนข้อความว่า "ขอเชิญร่วมงานมงคลสมรสของผมและแอน พร้อมกับรดน้ำแอนในวันที่ 4 ม.ค.55 ที่วัดหลวงปู่สาม จ.สุรินทร์ มากันเยอะๆ นะครับ"
นอกจากนั้น ชายหนุ่มยังโพสต์รูปขณะสวมแหวนให้แฟนสาวที่นอนนิ่งไร้วิญญาณ พร้อมรูปก้มจูบหน้าผากเจ้าสาว และเขียนข้อความในเฟซบุ๊กว่า "การกระทำของเราในสายตาพวกคุณมันคือรักที่ยิ่งใหญ่ แต่สำหรับเราแล้วมันคือความผิดพลาดที่เราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้ ขอบคุณทุกคนมากๆ ทั้งที่เราไม่เคยรู้จัก กันมาก่อน จำไว้ว่าชีวิตมันสั้น จงทำในสิ่งที่ปรารถนาและดูแลคนที่คุณรัก ทั้งพ่อแม่พี่น้องก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้ทำตอนลมหายใจยังมี ขอบคุณอีกครั้งนะครับ เราผ่านจุดนั้นได้และเพราะกำลังใจจากทุกคน ขอบคุณ", "ชีวิตเรามันสั้น เกินที่จะเป็นคนอื่น" และ "บางคนอาจมองเราบ้า บางคนอาจมองเราเสียสติ บางคนมองว่าเราทำผิดทำนองคลองธรรม แต่ถ้ามองมันให้ดีจะรู้ว่ามันผ่านกระบวนการคิดหลายขั้นมาก และอีกอย่างการทำในสิ่งที่เราอยากทำและเพื่อคนที่รักโดยไม่เดือดร้อนใคร เราคิดว่าไม่ผิด และขนบหรือประเพณีถูกสร้างขึ้น เพราะคนเราไม่กล้ายอมรับความจริงต่างหาก"
ทั้งนี้ ผลจากการโพสต์ข้อความและรูปภาพวิวาห์กับศพคนรักดังกล่าว ส่งผลให้มีประชาชนเข้าไปยังเฟซบุ๊กของ Chadil Deffy เพื่อเขียนข้อความให้กำลังใจและยกย่องในรักแท้ของเจ้าบ่าว ขณะที่เว็บไซต์ชื่อดัง เช่น กระปุก สนุก และพันทิป ดอต คอม ต่างเผยแพร่เรื่องราวดังกล่าวเช่นกัน
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวตรวจสอบข้อมูลพบว่า เจ้าของเฟซบุ๊ก Chadil Deffy มีชื่อจริงว่า นายชฎิล ยืนยิ่ง หรือ "เดฟ" อยู่บ้านเลขที่ 2-4 ซ.ปอยตังกอ ถ.หลักเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ อายุ 28 ปี ประกอบอาชีพรับจ้างอิสระ จึงโทรศัพท์ไปสอบถามเรื่องราวความรักสุดลึกซึ้งและการจัดงานแต่งงานกับศพเจ้าสาว โดยนายชฎิลเปิดเผยว่า เป็นเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว จริง ภาพที่โพสต์ไว้เป็นภาพระหว่างตนกับน.ส.ศรินญลักษณ์ คำ สุข อายุ 29 ปี แฟนสาวที่รักกันมานาน 10 ปี
นายชฎิลกล่าวต่อว่า ก่อนเสียชีวิตน.ส. ศรินญลักษณ์เฝ้าถามอยู่เสมอๆ ว่า เมื่อไหร่จะแต่งงานกัน ตนตอบกลับไปว่าขอเวลาอีก 7 ปี หรือรอให้อายุ 35 ปีก่อนถึงจะแต่งงานด้วย เเต่เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2554 แฟนนั่งซ้อนจักรยาน ยนต์รับจ้างและเกิดอุบัติเหตุชนกับรถยนต์ ทำให้ต้องเข้ารักษาตัวที่ห้องไอซียูโรงพยาบาลนพรัตนราชธานีด้วยอาการเลือดคั่งในสมอง ก่อนที่สมองของแฟนสาวจะหยุดทำงานในวันที่ 21 ธ.ค. ที่ผ่านมา กระทั่งวันที่ 3 ม.ค. 2555 แฟนสาวเสียชีวิตอย่างสงบที่โรงพยาบาลสุรินทร์ ซึ่งในวันที่น.ส.ศรินญลักษณ์จากไป ตนกำลังเดินซื้อชุดเจ้าสาวอยู่ และเเม่ของน.ส.ศรินญลักษณ์โทรศัพท์มาเเจ้งว่าแฟนเสียชีวิตเเล้ว
นายชฎิลเปิดเผยต่อไปว่า การที่นำรูปมาโพสต์ในเฟซบุ๊กไม่ได้อยากดัง หรือมีชื่อเสียง และไม่สนว่าวัฒนธรรมอันดีงามของสังคมจะเป็นอย่างไร เเละไม่ต้องการให้ใครมาเข้าใจในสิ่งที่ทำลงไป โดยหลังจากทำเรื่องนี้ตนถูกแม่ต่อว่าว่าการกระทำดังกล่าวผิดประเพณี แต่ตนไม่สนใจเเละอยากตั้งคำถามกลับไปว่า ประเพณีมีไว้เพื่ออะไร ประเพณีเป็นสิ่งที่คนสร้างขึ้น เพื่อหนีจากโลกตัวเองและโลกความจริง ฉะนั้นเเล้วเราควรต้องต่อสู้และอยู่กับโลกของความจริง
นายชฎิลระบุว่า สิ่งที่ทำไปเป็นความต้อง การของผู้ชายคนหนึ่งที่อยากทำให้กับผู้หญิงที่รัก ตอนนี้ยังนึกโกรธตัวเองเพราะตอนที่แฟนมีชีวิตอยู่ไม่ได้แสดงความรักและความโรแมนติกให้กับคนรักมากพอ และไม่เคยคิดว่ารัก น.ส. ศรินญลักษณ์มากขนาดนี้ จนเมื่อจากไปแล้วจึงทำให้รู้ว่ารักมากขนาดไหน และเสียใจขนาดไหน
"อยากให้การแสดงออกครั้งนี้เป็นตัวแทนของความผิดพลาดที่ไม่สามารถกลับไปแก้ไขสิ่งที่สูญเสียไปแล้วได้ ไม่อยากให้ใครมาเรียก ผมว่าเป็นตัวแทนของความรักอย่างที่ใครๆ พยายามเรียกอยู่ตอนนี้ เพราะสิ่งที่อยากสื่อออกไปคือให้เป็นบทเรียนของความผิดพลาดที่ทำให้คนที่เรารักไม่ได้ในขณะที่เขายังมีลมหายใจ การแสดงความรักนั้นทำได้เมื่อตอนที่เขายังมีชีวิต และไม่จำเป็นต้องแสดงความรู้สึกเช่นนี้กับคนที่เรารักในฐานะแฟน แต่อยากให้ทุกคนแสดงมันออกไปกับทุกคนที่เรารักทั้ง พ่อ แม่ พี่น้องของเรา" นายชฎิลกล่าว
นายชฎิลให้สัมภาษณ์ด้วยว่า ความรู้สึกขณะนี้ค่อนข้างว่างเปล่า ไม่รู้จะทำอะไรต่อไปและไม่มีความรู้สึกใดๆ เกิดขึ้นเลย เเต่ถ้าถามว่าเสียใจไหมย่อมต้องมีบ้าง แต่คิดว่าสิ่งที่ทำลง ไปนั้นทำดีที่สุดเเล้วที่สามารถทำสิ่งที่ผู้ตายปรารถนา จากนี้ถึงชีวิตจะเป็นอย่างไร สุดท้ายเเล้วต้องเดินหน้าต่อไป