เมืองผู้ดีฮิตเลี้ยง“หมาน่าเกลียด”

“เคนเนิล คลับ”หรือคลับบ้านสุนัข สำรวจจำนวนประชากรสุนัขที่ชาวอังกฤษเลี้ยงในรอบทศวรรษ และพบว่าชาวเมืองผู้ดีมีแนวโน้มเลี้ยงสุนัขที่มีรูปลักษณ์แปลกๆ มากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันสุนัขพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมาตลอดกลับมีจำนวนประชากรตกฮวบฮาบ

พันธุ์ที่มาแรงคือ “เม็กซิกันแฮร์เลส”และ“ไชนีส เครสเตด เเฮร์เลส” สุนัขขนบางจนถึงไร้ขน “เซิร์นโค เดล เอทน่า” และ“ฟาร์โรฮาวด์” ที่มีหูใหญ่ตั้งเหมือนปีกค้างคาว และสุนัขหน้าย่น “ด็อจ เดอ บอร์โดซ์” ซึ่งสองนักบอลอังกฤษชื่อดัง แฟรงก์ แลมพาร์ดและเวยน์ รูนีย์ต่างมีไว้ในครอบครอง โดย 5 พันธุ์นี้มีจำนวนประชากรถึง 3,452 ตัวในปี 2010 ขณะที่ในปี 2001 มีจำนวนแค่ 990 ตัวเท่านั้น

ส่วนพันธุ์ยอดฮิตต่างๆ อย่าง “ยอร์คเชียร์เทอร์เรีย” มีจำนวนประชากรลดน้อยลงถึง 32 เปอร์เซ็นต์จนเหลือ 3,441 ตัว “เวสต์ไฮท์แลนด์ไวท์เทอร์เรีย”ก็ลดลงถึง 51 เปอร์เซ็นต์ จนเหลือ 5,361 ตัว ขณะที่พันธุ์“เยอรมันแชพเพิร์ด”หรืออัลเซเชียน ลดลง 27 เปอร์เซ็นต์ จนเหลือ 10,364 ตัว แม้แต่พันธุ์ยอดฮิตอย่าง“โกลเด้นรีทรีฟเวอร์” ก็ลดลง 20 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 7,911 ตัว

โดยผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าเทรนด์เลือกสุนัขแปลกๆ หรือน่าเกลียดเป็นไปตามความต้องการของเจ้าของที่กำลังมองหาสุนัขพันธุ์แปลกๆ ไม่เหมือนใคร หรือเพราะความจำเป็นบางอย่าง เช่น สุนัขพันธุ์เม็กซิกัน แฮร์เลสและไชนีส เครสเตด เเฮร์เลสซึ่งเป็นสุนัขขนน้อย ทำให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้หรือหอบหืดสามารถเลี้ยงได้ แถมยังไม่มีเห็บหมัดและไร้ปัญหาขนร่วงในบ้าน

ตามประวัติสุนัขพันธุ์เม็กซิกัน แฮร์เลสหรือที่รู้จักกันในนาม“โชว์โลอิทควีนทลี”มีถิ่นกำเนิดทางตอนกลางและตอนใต้ของทวีปอเมริกาตั้งแต่ประมาณ 3,500 ปีที่แล้ว โดยชนเผ่าทอลเทคและชนเผ่าแอซเทคเป็นผู้เลี้ยงไว้ เนื่องจากเชื่อว่าสุนัขพันธุ์นี้มีพลังในการเยียวยารักษา พวกเขาเลี้ยงเม็กซิกัน แฮร์เลสเป็นเพื่อนและยังกินสุนัขพันธุ์นี้อีกด้วย!

เมื่อคริสโตเฟอร์ โคลัมบัสนักเดินเรือชาวอิตาเลียนออกเดินทางในทะเลแคริบเบียนเมื่อปี 1492 บันทึกการเดินทางของเขาก็กล่าวถึงสุนัขพันธุ์เม็กซิกัน แฮร์เลส โดยบอกว่าเป็นสัตว์ประหลาด และโคลัมบัสยังนำสุนัขพันธุ์นี้กลับสู่ยุโรปด้วย

เนื่องจากไม่มีขน สุนัขพันธุ์เม็กซิกัน แฮร์เลสจึงต้องทาครีมกันแดดเมื่ออยู่กลางแจ้งเพื่อป้องกันผิวไหม้ ส่วนในช่วงหน้าหนาวก็ต้องสวมเสื้อเพื่อความอบอุ่น แต่เห็นหน้าตาประหลาดๆ แบบนี้ ราคาของลูกสุนัขพันธุ์เม็กซิกัน แฮร์เลสกลับไม่ถูกเลย โดยขายในอังกฤษตัวละมากกว่า1,000 ปอนด์ หรือราว 50,000 บาท

รูปลักษณ์ของเม็กซิกันแฮร์เลสทำให้คนเกิดปฏิกิริยาไปต่างๆ เมื่อพบเห็น ทั้งรักและชัง เพราะมองได้ทั้งน่าเกลียดและน่าสงสาร โดยกลุ่มคนรักสุนัขพันธุ์นี้บอกว่าความงามที่แท้จริงของเจ้าเม็กซิกันแฮร์เลสอยู่ภายใน เนื่องจากมีอุปนิสัยร่าเริง รักเด็ก แถมยังขี้อ้อน

สำหรับในอังกฤษนำเข้าเม็กซิกัน แฮร์เลสมาตั้งแต่ปี 1980 แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมนัก เพิ่งมาบูมเมื่อไม่กีปีมานี้หลังจากก่อตั้งสมาคมเม็กซิกัน แฮร์เลสขึ้นในปี 2004 โดยสมาคมทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์และปกป้องสุนัขพันธุ์เม็กซิกันแฮร์เลส ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนเพิ่มขึ้นเกือบ 70 เปอร์เซ็นต์ จนมีเกือบ 4,000 ตัวทั่วโลก

ส่วนสุนัขที่มีรูปลักษณ์คล้ายกันแต่ได้รับความนิยมมากว่าในอังกฤษคือไชนีส เครสเตด เเฮร์เลส ที่เมื่อปีก่อนเพิ่งได้รับรางวัลสุนัขน่าเกลียดที่สุดในโลกที่จัดประกวดทุกปีในแคลิฟอร์เนีย

แม้สุนัขที่กำลังได้รับความนิยมจะมีหลากหลายสายพันธุ์ แต่มีลักษณะที่เด่นๆ อยู่ไม่กี่อย่าง เช่นสุนัขหน้าแบน อย่างพันธุ์ “กริฟฟอนบรัสเซล” และ“เจแปนนีส ชิน” รวมถึงพันธุ์“ชาเป่ย”

สุนัขอีกสองพันธุ์ที่มีลักษณะเป็นเอกลักษณ์และได้รับความนิยมคือ“ปั๊ก” ที่ในสิบปีนี้เพิ่มจำนวนประชากรถึง 557 เปอร์เซ็นต์ สู่ 5,726 ตัว และ“ชิวาวา”เพิ่ม 322 เปอร์เซ็นต์ เป็น 5,397 ตัว โดยสองพันธุ์นี้ได้รับความนิยมเนื่องจากเจ้าของเป็นคนมีชื่อเสียง อย่างปารีส ฮิลตัน ที่มักจะเห็นภาพอุ้มชิวาวาชื่อทิงเกอร์เบลของเธอออกสื่ออยู่บ่อยๆ

ผู้เชี่ยวชาญด้านสุนัขในอังกฤษ กล่าวถึงกรณีนี้ว่า คำกล่าวที่ว่าสุนัขมักจะมีลักษณะเหมือนเจ้าของอาจใช้ไม่ได้อีกต่อไป เพราะปัจจุบันคนเลี้ยงสุนัขเพื่อบอกความเป็นตัวตน แสดงถึงไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างและยังเป็นแฟชั่น ส่วนเหตุผลลึกๆ คงเป็นเพราะรู้สึกว่าสุนัขที่มีรูปลักษณ์น่าเกลียดจะทำให้เจ้าของดูดีขึ้น

Credit: ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
9 ม.ค. 55 เวลา 11:56 9,823 9 160
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...