ไขปริศนาอภิมหาข่าวลือ สิ้นปี "55โลกแตก(อีกแล้ว!?)

ขึ้นปีใหม่ทีไร ไม่ว่ามนุษย์ในพื้นที่ทวีปใดของโลกเชื่อว่าล้วนแล้วแต่หนีไม่พ้น ′ข่าวลือ′ สารพัดเรื่องเกี่ยวกับวันโลกแตก วันโลกาวินาศ วันสิ้นโลก วันมหาวินาศ อภิมหาเหตุร้าย-ภัยธรรมชาตินอกเหนือความคาดหมาย ฯลฯ ทั้งเรื่องที่พอมีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์รองรับ หรือบางทีก็มั่วนิ่ม แต่งนิยายขึ้นมาดื้อๆ

วันนี้ ′ข่าวสดหลาก&หลาย′ รวบรวมข้อมูลจากผู้รู้ ได้แก่ ′วิมุติ วสะหลาย′ แห่งสมาคมดาราศาสตร์ไทยมาไขปริศนาความหวาดหวั่นวันโลกแตก ค.ศ.2012 (พ.ศ.2555) รวมหาคำตอบถึงประเด็น ′คำทำนายเด็กชายปลาบู่ กรณีเขื่อนภูมิพลแตก′ ซึ่งร้อนแรงเละเทะดีเหลือเกินในโลกไซเบอร์ จนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยต้องเสียเวลาอธิบายขนานใหญ่!



1.ปฏิทินมายาทำนายว่า ปีค.ศ.2012 เป็นวาระสุดท้ายของโลก?

ปฏิทินมายามีหลายแบบ แบบหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับปีค.ศ.2012 คือแบบที่เรียกกันว่า ปฏิทินรอบยาว (long count) ระบุวันด้วยชุดของตัวเลข ตัวเลขชุดนี้แทนวันที่ได้ยาวนาน 5,126 ปี เทียบกับวันที่ตามระบบปฏิทินสากลตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 3114 ปีก่อนคริสตกาลไปจนสุดจำนวนเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ.2012

การสิ้นสุดของตัวเลขปฏิทินมายา หรือการครบจำนวนสูงสุดที่กำหนดไว้ในระบบนับวันระบบใดระบบหนึ่ง จะแสดงถึงการสิ้นสุดของโลกเชียวหรือ

คอมพิวเตอร์สมัยก่อนก็มีระบบปฏิทินในตัวเครื่องที่แสดงวันเดือนปีได้จนถึงสิ้น ค.ศ. 1999 อันเป็นที่รู้จักกันในนามของปัญหา Y2K แต่เมื่อสิ้นสุด ค.ศ.1999 โลกก็ไม่ได้แตกระบบนับวันของคอมพิว เตอร์

ระบบบอกพิกัดจีพีเอสก็มีระบบนับสัปดาห์เป็นของตัวเอง ซึ่งตัวเลขจะสุดจำนวนที่วันที่ 21 สิงหาคม 2542 ทำนองเดียวกับ Y2K ของคอมพิวเตอร์ แต่เมื่อสิ้นวันที่ 21 สิงหาคม 2542 โลกก็ไม่ได้แตกตามระบบจีพีเอส

ทำนองเดียวกัน โลกก็จะไม่แตกสลายเพราะว่าสุดตัวเลขปฏิทินมายาหลังวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ.2012 ปฏิทินมายาก็จะเริ่มนับรอบใหม่



2.ดาวนิบิรุ กับ Planet X เป็นดวงเดียวกันหรือไม่?

บทความ หรือทฤษฎีที่เกี่ยวกับโลกแตกปี 2012 มักกล่าวว่า ′นิบิรุ′ และ ดาวเคราะห์เอ็กซ์ (Planet X) เป็นวัตถุดวงเดียวกัน แต่ความจริงต่างกันโดยสิ้นเชิง

ดาวเคราะห์เอ็กซ์เป็นดาวเคราะห์ที่ยังหาไม่พบ แต่เชื่อว่ามีจริงและมีการค้นหาอยู่



ส่วนดาวนิบิรุ เป็นดาวในตำนานที่ยังขาดหลักฐานที่ดีพอที่จะบอกได้ว่ามีอยู่จริง ว่ากันว่าเป็นดาวตามทฤษฎีของ ′เซชาเรีย ซิตชิน′ ซึ่งอ้างว่าถอดความมาจากจารึกของชาวสุเมเรียน ทฤษฎีนี้กล่าวว่าดาวนิบิรุเป็นดาวที่มีสิ่งมีชีวิตที่มีอารย ธรรมอาศัยอยู่และเคยมาเยือนโลกเมื่อนานมาแล้ว

แม้เรื่องดาวนิบิรุจะได้รับความนิยมในหมู่ผู้ชื่นชอบเรื่องลึกลับ เรื่องจานบิน เรื่องมนุษย์ต่างดาว แต่เนื่องจากทฤษฎีนี้มีหลักฐานอ่อนมาก และตั้งอยู่บนจินตนาการมากกว่าเหตุผล เรื่องนี้จึงไม่ได้รับการยอมรับในวงกว้างในวงการวิทยาศาสตร์รวมถึงนักวิชาการด้านสุเมเรียนด้วย



3.Planet X (ดาวเคราะห์เอ็กซ์) เป็นดาวเคราะห์ล้างโลกจริงหรือ?

ดาวเคราะห์แต่ละดวงมีวงโคจรของตัวเอง มีรัศมีวงโคจรต่างกัน

วงโคจรมีเสถียรภาพดี ไม่ใช่สิ่งที่จะมาชนกันได้ง่ายๆ

ตามความรู้และข้อมูลที่นักวิทยาศาสตร์มีอยู่ เชื่อว่าหากมีการค้นพบดาวเคราะห์ดวงใหม่ในระบบสุริยะจริง (ซึ่งจะได้ชื่อว่าเป็นดาวเคราะห์เอ็กซ์) ดาวเคราะห์ดวงนี้ก็น่าจะอยู่พ้นวงโคจรของดาวเนปจูนออกไปอีก

แล้วดาวเคราะห์ที่มีวงโคจรใหญ่โตอยู่ไกลปืนเที่ยงขนาดนั้นจะมาชนโลกได้อย่างไร

ดาวเคราะห์เอ็กซ์คือสิ่งที่นักดารา ศาสตร์ถวิลหา

และการค้นพบจะเป็นข่าวน่ายินดี

หากวันหนึ่งคุณเห็นข่าวพาดหัวว่าค้นพบดาวเคราะห์เอ็กซ์แล้ว ก็อย่าไปแตกตื่นให้อายใครเขา



4.ปี 2012 ดวงอาทิตย์จะเกิดซูเปอร์แฟลร์ ส่งผลถึงขั้นทำอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตบนโลก?

ไม่จริง, ซูเปอร์แฟลร์เป็นปรากฏการณ์คล้ายกับแฟลร์ (การลุกจ้า) บนดวงอาทิตย์ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดพายุสุริยะ แต่ซูเปอร์แฟลร์รุนแรงมากกว่าแฟลร์ปกติหลายเท่า นักดาราศาสตร์พบการเกิด ซูเปอร์แฟลร์มาแล้วในดาวฤกษ์ดวงอื่น ความรุนแรงของซูเปอร์แฟลร์ที่พบนั้น หากเกิดขึ้นบนดวงอาทิตย์จะรุนแรงถึงขั้นทำลายบรรยากาศของโลก ทำลายระบบนิเวศบนโลกจนถึงขั้นเกิดการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ไม่มีหลักฐานว่าเคยเกิดซูเปอร์แฟลร์ขึ้นบนดวงอาทิตย์ หรือในระบบสุริยะของเรามาก่อน และนักดาราศาสตร์ไม่เชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ นี้เพราะ ซูเปอร์แฟลร์จะเกิดในระบบที่มีวัตถุสนามแม่เหล็กเข้มข้นอยู่ใกล้กัน เช่น มีดาวเคราะห์ยักษ์แบบดาวพฤหัสบดี หรือใหญ่กว่าโคจรอยู่ใกล้ดาวฤกษ์



แต่ระบบสุริยะของเราไม่มีลักษณะเช่นนั้น แม้ดาวพฤหัสบดีจะมีสนามแม่เหล็กเข้มข้น แต่ก็อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์มาก ส่วนดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ก็มีสนามแม่เหล็กอ่อนเกินกว่าจะทำให้เกิดซูเปอร์แฟลร์ได้



5. วันที่ 21 ธ.ค. 2012 ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะจะเรียงเป็นแนวเดียวกัน?

ไม่จริง, วันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ.2012 ดาวเคราะห์แต่ละดวงอยู่กันคนละทิศคนละทาง ไม่ได้เรียงกันเป็นเส้นตรง และไม่ได้ใกล้เคียงด้วย

เรื่องที่ควรทราบอย่างหนึ่งคือ ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะไม่มีวันเรียงเป็นแนวเดียวกัน ความเป็นไปได้อย่างมากก็แค่ใกล้เคียงเท่านั้น แต่แม้จะสมมติว่ามีวันที่ดาวเคราะห์ทั้งหมดมาเรียงเป็นแนวเดียวกันจริงก็ไม่ต้องห่วงว่า ′แรงดึงดูด′ ของดาวเคราะห์แต่ละดวงจะส่งผลร้ายแรงใดๆ ต่อโลก



6.ปี 2012 จะเกิดปรากฏการณ์ pole shift จริงหรือ?

Pole shift (โพลชิฟต์) คือการเลื่อนขั้วแกนหมุนของโลก ทำให้ขั้วเหนือและใต้ของโลกเปลี่ยนตำแหน่งไป เกิดขึ้นจากการที่สัณฐานของโลกไม่กลมสมบูรณ์

ปรากฏการณ์นี้เชื่อว่าเคยเกิดขึ้นจริงกับโลก รวมถึงดาวเคราะห์และดวงจันทร์ของดาวเคราะห์ดวงอื่นด้วย

ไม่มีหลักฐานใดที่บ่งชี้ว่าจะเกิดปรากฏการณ์นี้ในปี 2012 และแม้จะเกิดก็จะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตเนื่องจากการเลื่อนนี้เกิดขึ้นในอัตราที่เชื่องช้ามาก

ความไม่แน่นอนของขั้วโลกยังมีอีกหลายแบบ เช่น ขั้วแม่เหล็กโลกเลื่อนตำแหน่ง การเปลี่ยนตำแหน่งของขั้วอันเกิดจากการเลื่อนของแผ่นทวีป การเปลี่ยนตำแหน่งของดาวเหนืออันเกิดจากการส่ายของขั้วโลก แต่การเปลี่ยนแปลงจากสาเหตุเหล่านี้มีชื่อเรียกอย่างอื่น ไม่ได้เรียกว่า pole shift



7. ปี 2012 สนามแม่เหล็กโลกจะเปลี่ยนตำแหน่งจริงหรือ?

จริง แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ และไม่ใช่กำลังจะเกิดในค.ศ.2012 หากแต่เกิดขึ้นตลอดเวลา แม้แต่ตอนนี้ก็เกิด

นักวิทยาศาสตร์ทราบว่าขั้วแม่เหล็กโลก ′เคลื่อนที่′ ตั้งแต่ที่ค้นพบขั้วเหนือแม่เหล็กโลกเมื่อกว่าศตวรรษก่อนแล้ว การเคลื่อนที่นี้เกิดขึ้นอย่างช้าๆ ด้วยอัตราเฉลี่ยประมาณ 1 องศาต่อ 1 ล้านปี หรืออาจเร็วกว่านั้น

การสำรวจในช่วงไม่กี่ปีมาพบว่า ขั้วเหนือแม่เหล็กโลกเคลื่อนที่เร็วขึ้น แต่ความเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าโลกใกล้จะสลับขั้วหรือกำลังวิปริต เพราะอัตราการเคลื่อนที่มีขึ้นมีลงอยู่เสมอ



8.′ด.ช.ปลาบู่′ทำนายเขื่อนภูมิพลพัง

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ยืนยันว่าเขื่อนภูมิพลมีความมั่นคงแข็งแรง และปลอดภัย เนื่องจากเขื่อนภูมิพลถูกออกแบบให้ทนต่อการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวได้ถึง 7.5 ริกเตอร์ โดยที่เขื่อนไม่ได้ตั้งอยู่ในแนวรอยเลื่อนหลักที่จะเกิดแผ่นดินไหว และปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนลดลงอย่างต่อเนื่อง

เหตุผลหลักที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง-ปลอดภัยของตัวเขื่อนมี 3 ประการ ได้แก่

1. เรื่องแผ่นดินไหว

2. เรื่องปริมาณน้ำมากหรือน้ำหลาก

3. การก่อวินาศกรรม

เหตุผลประการแรก เรื่องแผ่นดินไหว เขื่อนภูมิพลเป็นเขื่อนคอนกรีตโค้งขนาดใหญ่ที่ออกแบบ และก่อสร้างให้มีความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล โดยบริษัทผู้ออกแบบและก่อสร้างเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญสูง เป็นบริษัทเดียวกันกับที่สร้าง ′เขื่อนฮูเวอร์′ ของสหรัฐ ฉะนั้น จึงมีความมั่นใจได้ในเรื่องเทคโนโลยีการก่อสร้างที่แข็งแรง ส่วนทำเลที่ใช้วางตัวเขื่อนก็เหมาะสมกับสภาพทางธรณีฐานรากและแรงกระทำจากแผ่นดินไหว

ประการที่ 2 เรื่องปริมาณน้ำมากหรือน้ำหลาก เขื่อนภูมิพลออกแบบให้สามารถรับน้ำได้เต็มพิกัดที่ 100 เปอร์เซ็นต์

ที่ผ่านมาเขื่อนภูมิพลผ่านการเก็บกักน้ำที่ระดับสูงสุดและน้ำหลากถึง 4 ครั้ง ในปี 2518, 2545, 2549 รวมทั้งในปี 2554 นี้ เก็บกักอยู่ที่ระดับ 99-100 เปอร์เซ็นต์ เป็นเวลายาวนานติดต่อกันมากกว่า 2 เดือน และจากการคำนวณคาดการณ์วันที่ 31 ธ.ค. 2554 ระดับน้ำจะลดลงอยู่ประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์ของระดับกักเก็บสูงสุด ดังนั้น แรงกดดันของน้ำที่กระทำต่อตัวเขื่อนก็จะลดลง

ประการที่ 3 การก่อวินาศกรรม เขื่อนภูมิพลปฏิบัติตาม พ.ร.บ.รักษาความปลอดภัยแห่งชาติปี 2552 โดยมีแผนรองรับตามระดับความรุนแรงของเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น หากพิจารณาด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ จึงมีโอกาสน้อยมากที่เขื่อนจะพัง ขอวิงวอนให้พี่น้องประชาชนมั่นใจในความแข็งแรงของเขื่อนภูมิพล อย่าได้วิตกกังวลตามกระแสข่าวลือ ซึ่งข่าวลือประเภทนี้เคยมีมาแล้วหลายครั้ง แต่เขื่อนก็ยังทำหน้าที่ของเขื่อนได้ดีเช่นเดิม
 

Credit: ข่าวสดรายวัน
3 ม.ค. 55 เวลา 18:23 10,176 13 150
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...