ความคืบหน้า ภายหลังเจ้าหน้าที่ปิดคดีคนร้ายลักพาตัวนายปิยพันธ์ ฐิติอักษรศิลปะ อายุ19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่1 คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แล้วเรียกค่าไถ่ ก่อนที่จะจับใส่กุญแจมือถ่วงน้ำ จนเสียชีวิต

ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ม.ค. พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี ผบก.น.4 พ.ต.อ.สาโรช ซุ่นทรัพย์ รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.กัญชล อินทราราม ผกก.สน.อุดมสุข นำตัวนายอภิรพัฒน์ สุขะ อารมณ์ หรือหวี นายภานุพงศ์ ศิริพันธุ์พานิช หรือโบ๊ต และนายปภาวิน หมายประทุม หรือต้า นายณัฐพล อินทร์เงิน หรือเตย ผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุไปทำแผนทั้งหมด 5 จุด ประกอบด้วย จุดแรกที่ลานจอดรถชั้น 4 อิมพีเรียลลาดพร้าว เป็นจุดที่นายหวีและนายโบ๊ตได้นำผู้ตายขึ้นรถยนต์แล้วขับพาไปยังซอยนวมินทร์112 ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปทำแผนยังจุดที่2 คือภายในซอยนวมินทร์111 แยก4-12 ซึ่งเป็นจุดที่นายหวีและนายโบ๊ตนัดเจอกันกับนายต้าและนายเตย หลังจากที่นำตัวผู้ตายมาจากลานจอดรถ จุดดังกล่าวผู้ต้องหาทั้งหมดได้ลงมือทำร้ายผู้ตายและจับเอาถุงพลาสติกคลุมหัวและเปลี่ยนขึ้นรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน รุ่นซันนี่ ก่อนจะพาขับตระเวนเพื่อไปกดเงินตามจุดต่างๆ หลังจากที่ได้เอาโทรศัพท์ของผู้ตายโทรไปบอกแม่ของผู้ตายแล้ว ระหว่างนั้น นายต้าและนายเตยได้ขอตัวกลับบ้านไปก่อนแล้ว โดยนายหวีได้ไปรอตรงจุดนัดพบที่คลองปักหลัก2 มีนายโบ๊ตขับรถไปกับผู้ตายเพียงลำพัง2คน

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายโบ๊ตไปทำแผนตรงจุดที่3 ภายในซอยรามคำแหง 24/3 ซึ่งเป็นคนรับหน้าที่พาผู้ตายไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็มเพื่อตรวจสอบว่าได้มีการโอนเงินเข้าบัญชีตามที่เรียกไปหรือไม่ แต่ปรากฏว่าไม่มี นายโบ๊ตจึงโทรศัพท์ไปหาแม่ของผู้ตายอีกครั้งแล้วก็พาผู้ตายไปกดเงินยังจุดอื่นอีก ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้พาผู้ต้องหาไปทำแผนยังจุดที่ 4 ที่ซอยรามคำแหง 112 หมู่บ้านสัมมากร ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาได้นำเทปสีดำไปติดหน้ากล้องวงจรปิดแล้วกดตรวจสอบเงินในบัญชีอีกครั้งแต่ก็ยังไม่พบว่ามีการโอนเข้ามีเงินในบัญชีเพียงประมาณ 300 บาทเท่านั้น

ต่อมาเป็นการทำแผนจุดสุดท้ายที่คลองปักหลัก 2 ถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก แขวงและเขตประเวศน์ ซึ่งเป็นจุดนายโบ๊ตนำผู้ตายไปเจอกับนายหวี แล้วช่วยกันจับถ่วงน้ำหลังไม่พบว่าไม่มีเงิน 2 ล้านบาท โอนเข้าบัญชีตามที่ได้เรียกร้องไป โดยผู้ต้องหาได้จำลองเหตุการณ์โดยนายหวีและนายโบ๊ตได้ช่วยกันจับผู้ต้องหาเหวี่ยงลงคลองเนื่องจากผู้ตายมีรูปร่างใหญ่และต้องจับถ่วงด้วยกระสอบทราย 3 กระสอบ โดยเป็นการจับโยนลงจากสะพานข้ามคลองดังกล่าว

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาในการทำแผนนานกว่า 3ช.ม. ท่ามกลางเสียงสาปแช่งของประชาชน ญาติ และเพื่อนๆของผู้ตายที่มารอดูการทำแผนตรงคลองปักหลัก2 ท่ามกลางการดูแลความสงบของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างตึงเครียด อย่างไรก็ตามระหว่างการทำแผน ผู้ต้องหาทั้งหมดยังคงอยู่ในอาการเงียบไม่ยอมพูดจา.