เด็กหนุ่มมะกันแชร์นาทีเฉียดตาย ก่อนเสียชีวิต 1 สัปดาห์

 

 

 

 

 

เด็กหนุ่มมะกันแชร์นาทีเฉียดตาย ก่อนเสียชีวิต 1 สัปดาห์

 

 

ก่อนอื่นต้องขอไว้อาลัยให้กับการจากไปของ "เบน บรีดเลิฟ" หนุ่มอเมริกัน วัย 18 ปี เจ้าของเรื่องราวนี้ ที่เพิ่งจากไปด้วยอาการหัวใจล้มเหลว เมื่อคืนวันคริสต์มาสที่ผ่านมา และนี่คือเรื่องราวที่เขาทิ้งเอาไว้ เป็นคลิปวิดีโอที่ถ่ายทอดประสบการณ์เฉียดตายของเขาถึงสามครั้ง ก่อนที่ครั้งล่าสุดจะพาเขาไปสู่ดินแดนแห่งความสงบแล้วอย่างแท้จริง

เบน ได้อัพโหลดคลิปวิดีโอนี้ลงในแชนแนลของตัวเองบนเว็บไซต์ยูทูบ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา หลังจากเพิ่งผ่านประสบการณ์เฉียดตายครั้งล่าสุดมาเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม และอีกเพียง 1 สัปดาห์ หลังจากการโพสต์คลิปวิดีโอดังกล่าว เขาก็ได้ลาจากโรคร้ายที่ตามรังควานเขาเรื่อยมาไปตลอดกาล

ทั้งนี้ เด็กหนุ่มได้เล่าเรื่องราวของตัวเองผ่านการ์ดนับสิบ ๆ ใบ ที่เขียนถึงเรื่องราวและความรู้สึกของเขาต่อโรคที่เขาเป็น และต่อความตายที่มาเยือนเขาได้ทุกเมื่อ เบนมีอาการของภาวะกล้ามเนื้อหัวใจหนาผิดปกติ หรือ HCM (Hypertrophic Cardiomyopathy) ซึ่งนับเป็นภาวะที่รุนแรงและอันตรายต่อชีวิตมาก เขารู้สึกกลัว แต่เขาก็เกลียดความรู้สึกนั้นของตัวเองด้วยเช่นกัน เขาไม่ได้รับอนุญาตให้ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาหนัก ๆ อย่างที่เด็กคนอื่น ๆ ทำ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เบนบอกว่า ยังรู้สึกเสียใจที่พลาดเรื่องราวในช่วงเวลาเช่นนั้นไป เขาได้แต่หวังว่าสักวันเขาจะได้เป็นปกติอย่างคนอื่น ๆ ทั่วไป

แต่แล้วประสบการณ์เฉียดตายครั้งแรกก็มาเยือน เมื่อเขาอายุเพียง 4 ขวบเท่านั้น ซึ่งเขาก็จำอะไรเกี่ยวกับมันไม่ได้มากนัก นอกจากแสงไฟสีขาวสว่างจ้าที่เขาเห็นบนเพดาน ตอนที่เขากำลังนอนอยู่บนเตียงที่ถูกเข็นไปไปตามทางเดินในโรงพยาบาลเพื่อไปยังห้องฉุกเฉิน "ผมละสายตาไปจากมันไม่ได้จริง ๆ และผมก็ทำอะไรไปไม่ได้เลย นอกจากยิ้มอย่างเดียวเท่านั้น"

หลังจากนั้นอาการของเบนก็ทรง ๆ เรื่อยมา จนเริ่มหนักขึ้นอีกในฤดูร้อนปี 2007 และต่อมาในปี 2009 แพทย์จึงได้ตัดสินใจผ่าตัดฝังเครื่องกระตุ้นการเต้นของหัวใจให้กับเขา แต่แล้วในปีฤดูร้อนของปีนี้ (2011) ความตายก็มาเยือนเขาอีกครั้ง เบนถูกนำตัวเข้าห้องผ่าตัด และหัวใจหยุดเต้นไป แต่โชคดีที่แพทย์ทำการช็อตด้วยกระแสไฟฟ้ากระตุ้นให้หัวใจเขากลับมาทำงานได้อีกครั้ง

"ผมกลัวที่จะต้องตาย และผมก็ดีใจที่ผมยังไม่ได้ตายไปจริง ๆ" นี่ความรู้สึกที่เบนมีต่อประสบการณ์เฉียดตายครั้งที่สองของเขา และหลังจากนั้นเขาก็ใช้ความพยายามอย่างมากที่จะลืมเรื่องที่ผ่านมา และไม่กังวลกับมันมากเกินไป

เหตุการณ์เริ่มกลับเป็นปกติขึ้นเรื่อย ๆ แต่แล้วเหตุการณ์เฉียดตายครั้งที่สามก็มาเยือน เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ที่ผ่านมา เบนจำได้เพียงว่า เขาอยู่ที่โรงเรียนแล้วรู้สึกเหมือนจะเป็นลม จึงนั่งพักที่เก้าอี้จากนั้นสติเขาก็ดับวูบไป เมื่อตื่นมาอีกครั้งเขาจำได้ว่ามีหน่วยแพทย์ฉุกเฉินอยู่รายรอบตัวเขาไปหมด เขาไม่สามารถพูดหรือขยับตัวได้ ทำได้เพียงมองความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นรอบตัวเท่านั้น แพทย์ติดสื่อนำไฟฟ้าลงบนอกของเขา และทำการช็อตด้วยไฟฟ้า แต่ทว่าไม่สามารถกระตุ้นหัวใจที่เต้นอ่อนให้กลับมาทำงานได้ หัวใจเบนหยุดทำงานไปถึง 3 นาที ซึ่งเบนได้บรรยายช่วงเวลานั้นไว้ว่า...

"เมื่อคนเราตาย สมองจะยังคงทำงานต่อไปได้อีกสักพักหนึ่ง" เขาเล่าต่อไปว่า ได้ยินเสียงคนพูดว่า 'เขาไม่หายใจแล้ว หัวใจเขาหยุดเต้น ชีพจรก็หยุดเต้น' และในขณะนั้นเขาก็คิดกับตัวเองว่า นี่เขากำลังจะตายจริง ๆ แล้วใช่ไหม ..สิ่งต่อมาที่เขาจำได้คือ ตัวเองอยู่ในห้องสีขาวที่เวิ้งว้างกับ "คิด คูดิ" แร็ปเปอร์ขวัญใจของเขา ซึ่งเบนเองก็บอกว่าเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมแร็ปเปอร์หนุ่มถึงไปอยู่ตรงนั้นได้ ขณะเดียวกันเขารู้สึกสงบอย่างน่าประหลาด และมองภาพสะท้อนตัวเองในกระจกตรงหน้า เขารู้สึกภูมิใจในตัวเอง พอใจในช่วงชีวิตที่ผันผ่าน และสิ่งต่าง ๆ ทั้งหมดที่เคยทำมา

"มันเป็นความรู้สึกที่สุดยอดที่สุดเลย" เบนบอกความรู้สึกของตัวเองต่อช่วงเวลานั้น แล้วจู่ ๆ เพลงของ คิด คูดิ ก็ดังขึ้น จนถึงท่อนที่ร้องว่า "when will the fantasy end ? when will the heaven begin ?" (เมื่อไหร่กันที่ความเพ้อฝันจะสิ้นสุด เมื่อไหร่กันที่สวรรค์จะเริ่มต้น) คูดิ ก็พูดกับเขาว่า "ไปเถอะ" ..จากนั้นเขาก็ตื่นขึ้น และพบว่าแพทย์กำลังปั๊มหัวใจของเขาอยู่

หลังจากผ่านประสบการณ์เฉียดตายครั้งล่าสุด ก็ทำให้ เบน มีความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงไป เขาไม่หวาดหวั่น และไม่มีความกังวลต่อสิ่งใด ๆ เหมือนแต่ก่อน เขาบอกผ่านคลิปวิดีโอว่า "ผมไม่อยากออกจากสถานที่นั้นมาเลย" และ "ผมหวังว่าผมจะไม่ได้ตื่นขึ้นมาอีก" ก่อนที่เบนจะปิดท้ายด้วยการถามว่า "พวกคุณเชื่อเรื่องนางฟ้า หรือว่าพระเจ้าไหม" และตอบกลับต่อคำถามของตัวเองว่า "ผมเชื่อนะ"

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ เบน ไม่สามารถจะกลับมารับฟังคำตอบที่เขาถามไปได้อีกแล้ว เพราะเขาได้เสียชีวิตด้วยอาการหัวใจล้มเหลวเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ที่ผ่านมา แต่เรื่องราวของเขาจะเป็นที่ประทับใจแก่คนอื่น ๆ ต่อไปอย่างแน่นอน กับเด็กหนุ่มวัย 18 ที่เผชิญหน้ากับความตายได้อย่างสงบและกล้าหาญ ...ไม่ว่าอย่างไรก็ขอให้ เบน ได้อยู่ในดินแดนอีกฟากฝั่งอย่างสุขสงบตลอดกาล...

 

Credit: http://www.toptenthailand.com/news_detail.php?id=10591
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...