รักหวานสองฝั่งโลก ราชพิธีสมรสแห่งปี 54

ราชพิธีหวานชื่นปรากฏพร้อมกันในปี 2554 ทั้งฝั่งโลกตะวันตกและตะวันออก

เมื่อเจ้าชายวิลเลียม รัชทายาทลำดับที่ 2 แห่งราชวงศ์วินด์เซอร์ เสกสมรสกับเคต มิดเดิลตัน พระสหายที่ผันมาเป็นคนรัก

ทำให้คำว่า Royal Wedding ขึ้นแท่นอันดับ 1 คำค้นหาในกูเกิ้ลของอังกฤษประจำปี 2554

ส่วนองค์จิกมี กษัตริย์หนุ่มแห่งภูฏาน อภิเษกสมรสกับเจตซุน เพมา หญิงในรักแรกพบของพระองค์ ด้วยถ้อยคำรักโรแมนติก "จะมีราชินีเพียงหนึ่งเดียว"

ทำให้ตำนานรักโลกบุรพาทิศหวานไม่แพ้กัน

สิ่งที่เหมือนกันของเจ้าสาวทั้งสองก็คือต่างเป็นสามัญชนที่ก้าวสู่ "เจ้าหญิง" ดุจเทพนิยาย "ซินเดอเรลล่า"

ทั้งยังเป็นซินเดอเรลล่ายุคใหม่ ซึ่งจะเป็นที่จับตาของโลกจากนี้ไป

วิล & เคต

มหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูว์ ในแคว้นสกอตแลนด์ ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังเท่ากับออกซ์ ฟอร์ด หรือเคมบริดจ์ สถาบันการศึกษาชั้นนำของโลกในอังกฤษ

แต่เจ้าชายวิลเลียม ทรงเลือกสถาบันแห่งนี้ศึกษาต่อในวิชาประวัติศาสตร์ศิลปะ

และที่นี่เจ้าชายหนุ่มทรงพบรักกับหญิงสาวที่กลายมาเป็นคู่ชีวิตในตอนนี้

เคต มิดเดิลตัน ผู้มีนามสกุลซึ่งบังเอิญตอกย้ำเป็นนัยๆ ว่า ′ชนชั้นกลาง′ เป็นลูกสาวคนโตของสาม พี่น้องในครอบครัว

พ่อเคยเป็นกัปตันสายการบินในช่วงที่แม่เป็นแอร์โฮส เตส ต่อมาทั้งสองทำธุรกิจสินค้างานปาร์ตี้จากเมืองชนบทในเขตบาร์กเชียร์ ทางตอนใต้ของอังกฤษ

แม้จะมีฐานะร่ำรวยเข้าขั้นเศรษฐี เคตไม่มีเชื้อสายสืบทอดจากตระกูลสูงศักดิ์

แต่ด้วยความประพฤติที่เรียบร้อย สง่างาม ไม่เคยมีข่าวเสียๆ หายๆ ให้ขายหน้า ราชวงศ์วินด์เซอร์ค่อยๆ เปิดรับ ′สาวผู้กุมหัวใจวิลเลียม′ ในที่สุด



เจ้าชายวิลเลียมทรงสวมแหวนหมั้นไพลินล้อมเพชรน้ำงาม ของเจ้าหญิงไดอาน่า พระมารดา เป็นการตีตราจองเคตเมื่อปีก่อน

กระทั่งมาถึงวันที่ราชรถลิมูซีนสีขาวครีม ได้ฤกษ์เทียบท่าหน้าวิหารเวสต์มินสเตอร์ เมื่อ 29 เม.ย.2554

ผู้คนทั่วโลกจดจ้องต่อการปรากฏตัวของ ′ซินเดอเรลล่า 2011′ แบบนาทีต่อนาที

เมื่อรองเท้าส้นสูงสีขาวก้าวลงจากรถ เผยให้เห็นชุดราตรีผ้าซาตินสีงาช้างประดับลูกไม้ ซึ่งกลายเป็นปรากฏการณ์ "ก๊อบปี้" ลอกเลียนแบบไปทั่วโลก

ขณะที่ ′พิปปา′ฟิลิปปา มิดเดิลตัน น้องสาวคนสวยของเคต เจ้าของฉายา ′เฮอร์ รอยัล ฮอตเนส′ กลายเป็นขวัญใจสื่อมวลชนอังกฤษนับตั้งแต่วันนั้น ถึงขั้นมีกระแสจับคู่กับ ′เจ้าชายแฮร์รี่′ ขวัญใจสาวๆ ทั่วโลก

ไฮไลต์แห่งวันวิวาห์ที่ช่างภาพรัวชัตเตอร์ไม่ยั้ง เป็นนาทีจุมพิตของคู่บ่าวสาววัย 29 "วิล & เคต" บนหน้ามุขพระราชวังบักกิ้งแฮม

สื่อมวลชนต่างเปรียบเทียบกับช็อตจุมพิตประวัติ ศาสตร์ของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และเจ้าหญิงไดอาน่า ในมุมบวกว่า คู่หนุ่มสาวจะไม่ซ้ำรอยรุ่นพ่อแม่ เพราะมีพื้นฐานความรักที่ผ่านการทดสอบมานานกว่า 8 ปี

สำหรับสาวเคตโดนเปรียบเทียบกับเจ้าหญิงไดอาน่ามาตลอด โดยเฉพาะบทบาทผู้นำ ′แฟชั่น′ โดยเคตเน้นสไตล์เสื้อผ้าแบรนด์ธรรมดา ราคาไม่แพง แต่ ′มิกซ์ แอนด์ แมตช์′ จนดูดีมีสง่าสมศักดิ์ศรีดัชเชสได้อย่างน่าอัศจรรย์

ในปีนี้คู่รักสุดฮอตแห่งราชวงศ์เริ่มเสด็จเยือนต่างประเทศแล้วที่แคนาดาและสหรัฐอเมริกา

ส่วนปีหน้า ดยุกและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์จะเสด็จเยือนมาเลเซีย สิงคโปร์ และหมู่เกาะโซโลมอน เพื่อฉลองวโรกาสที่ควีนทรงครองราชย์ครบ 60 ปี

ในฐานะผู้แทนพระองค์ที่ผู้คนตั้งตารอ

องค์จิกมี & เจตซุน

ข้ามทวีปมายังคู่สวีตสุดโรแมนติกที่ทำให้คนทั่วทั้งโลกต้องตาร้อนผ่าว กับรักหวานๆ กระชุ่มกระชวยหัวใจส่งท้ายปี

สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก และสาวเจตซุน เพมา

ต้นตำรับรักแรกพบของ ′ว่าที่กษัตริย์จิกมี′ กับ ′ด.ญ.เจตซุน เพมา′ ที่วิ่งเล่นอยู่ในอาณาเขตวังตั้งแต่ยังเด็ก ด้วยหน้าตาจิ้มลิ้ม

คำพูดไร้เดียงสาของเด็กหญิงวัย 7 ขวบว่า "หม่อมฉันจะตามพระองค์ไปทุกแห่งหน" ทำให้หัวใจเจ้าชายในวัย 17 ปีเอ่ยคำมั่นสัญญาว่า "โตขึ้นเราแต่งงานกันนะ"

แม้จะเป็นรักต่างชนชั้นของมกุฎราชกุมาร ผู้สืบทอดบัลลังก์ต่อจาก สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย วังชุก พระราชบิดากับลูกสาวเจ้าเมืองธรรมดาสามัญชน

แต่กษัตริย์จิกมีกลับ ประกาศว่า เจตซุนคือหญิงสาวที่จะขอครองคู่ด้วยเท่านั้น

พระองค์ทรงมองข้ามประเพณีนิยมที่เจ้าอาณา จักรภูฏานมีชายาได้ถึง 4 พระองค์ และยังยืนยันหนักแน่นว่า "มีเจตซุนเพียงคนเดียวก็เกินพอ เพราะเธอเป็นได้ทั้งที่ปรึกษาปัญหาราชการ และเรื่องหัวใจ"

พระราชพิธีอภิเษกสมรสซึ่งสืบทอดมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล ถือฤกษ์ดีในวันที่ 13 ตุลาคม ณ วิหารศักดิ์สิทธิ์

กษัตริย์จิกมีในฉลองพระองค์สีชมพูอ่อนปักลายดอกไม้ กับผ้าคลุมพระวรกายสีเหลืองสดใส ประทับบนบัลลังก์ทองเบื้องหน้า เจ้าสาวเจตซุน ที่สวมชุดกระโปรงผ้าไหมหลากสี เสื้อคลุมสีทองอ่อนประดับแถบสีแดงที่ปลายแขนเสื้อ รับกับผมยาวสลวยสีดำขลับ ตัดกับใบหน้าสวยสง่าราวภาพเขียน

โดยเฉพาะเมื่อได้รับการสถาปนาเป็นราชินี ด้วยมงกุฎเนื้อไหมปักลายที่ทรงออกแบบให้เองเป็นการพิเศษ เพื่อให้เหมาะเจาะเคียงคู่กับมงกุฎกษัตริย์สีแดงเข้มของพระองค์

แม้งานพิธีการจะยิ่งใหญ่ และเปี่ยมด้วยมนต์ขลังทางอารยธรรม แต่ไฮไลต์ที่ใครๆ จำติดตาตรึงใจมิรู้ลืม กลับเป็นภาพจุมพิตในวันเฉลิมฉลองพระราชพิธีอภิเษกสมรส

ราชาราชินีแห่งภูฏานพระราชทานรับสั่งต่อหน้าพสกนิกรเป็นครั้งแรก กษัตริย์จิกมีทรงจับมือราชินีเจตซุนเป็นระยะๆ เพื่อให้กำลังใจแก่พระชายาที่รู้สึกประหม่า

ทั้งรอยยิ้ม สีพระพักตร์ และสายพระเนตรที่จ้องมองกัน ล้วนแสดงออกถึงความรักเต็มพระราชหฤทัยของทั้งคู่ได้เกินคำบรรยายใดๆ

ยิ่งองค์จิกมีตรัสว่า "โอกาสเช่นนี้เราอยากจุมพิตพระราชินี" ก่อนโน้มพระวรกายลงเพื่อประทับรอยจูบเบาๆ บนแก้มของคนรักถึง 2 ครั้ง ทั้งยังจุมพิตที่พระโอษฐ์ขององค์ราชินีเป็นโบนัสชุดใหญ่แถมท้ายให้แก่ราษฎร ที่ร่วมแซ่ซ้องด้วยความปีติ

ทั้งกษัตริย์จิกมี และราชินีเจตซุน จึงกลายเป็นคู่บารมีที่อยู่ในความสนใจอย่างต่อเนื่อง เมื่อ เสด็จฯ อินเดียเป็นประเทศแรก ต่อด้วยประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทรงเข้าเฝ้าฯ สมาชิกราชวงศ์ดอกเบญจมาศ

จากนั้นเสด็จฯ มาประเทศไทย เพื่อให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย และทรงอวยพรให้เหตุการณ์ผ่านพ้นไปโดยเร็ว รวมทั้งขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยคุ้มครองคนไทย

และเสด็จฯ ต่อไปยังสหราชอาณาจักร โดยมี เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ และดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ทรงต้อนรับ

องค์จิกมี และราชินีเจตซุน ทรงเข้าร่วมงานงานกุศลของมูลนิธิในราชูปถัมภ์เพื่อสิ่งปลูกสร้าง เป็นอันปิดท้ายโปรแกรมเวิลด์ทัวร์ของคู่รักผู้นำแห่งภูฏาน
 

29 ธ.ค. 54 เวลา 12:38 3,647 50
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...