เมื่อวันนี้ (22 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่หมู่บ้านนันทวัน ย่านวัชรพล ซึ่งเป็นบ้านพักของนายเสกสรร สุขพิมาย หรือ เสก โลโซ นักร้องร็อกชื่อดัง ซึ่งถูกเปิดเผยภาพขณะกำลังเสพยาเสพติด กระทั่งเจ้าตัวออกมาแถลงข่าวยอมรับทั้งยังอ้างว่าเป็นศิลปินต้องใช้ยา จนบรรดาเหล่านักร้องนักดนตรีในวงการต่างรุมตำหนิความคิดดังกล่าว ทั้งทาง “แกรมมี่” ต้นสังกัดยังออกมาตัดหางปล่อยวัด ทำให้เจ้าตัวประกาศบนเวทีคอนเสิร์ตที่ จ.บุรีรัมย์ ว่าจะแฉความลับหลายเรื่องของบริษัท ล่าสุดนายเบรนดัน จอห์น ฮูกกี้ ยังออกมาแฉว่าเคยแต่งงานกับ น.ส.พรพิมล เทพพิชัย แฟนใหม่ของนักร้องดัง ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าพบเสกแต่อย่างใด

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อ น.ส.พรพิมล ผู้จัดการส่วนตัวของเสก ได้รับการเปิดเผยว่า ขอยอมรับว่าเคยแต่งงานจริง เพราะต้องการจะไปทำงานที่ออสเตรเลีย เป็นการแต่งงานเพื่อให้ได้กรีนการ์ดเท่านั้น อีกอย่างเขาเองก็ต้องการจะมาซื้อที่ดินทำธุรกิจในเมืองไทยด้วย ตอนนั้นมีการตกลงคุยกันเรียบร้อยแล้ว โดยนัดหย่ากันในวันที่ 25 ธ.ค.นี้ แต่จู่ ๆ ก็มาเป็นข่าวแบบนี้งงมาก

“เราเจอกันที่เกาะสมุย เขามาประชุมอะไรสักอย่าง เรารู้จักกันแค่เดือนเดียวก็แต่งงานกัน แต่พอหลังจากแต่งงานกันเราไม่ได้ใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน เขามาพักที่บ้านอ้อมยังไม่ถึงอาทิตย์ด้วยซ้ำ พอแต่งงานเสร็จก็กลับกรุงเทพฯ ประมาณอาทิตย์หนึ่งเขาก็กลับไปออสเตรเลีย เราไม่ได้อยู่กินกันแบบสามีภรรยา ตั้งแต่แต่งงานกันมาเขาส่งเงินมาให้อ้อมแค่ 7 หมื่นบาท ทั้งเงินที่ส่งมาก็เพื่อให้มาทำพาสปอร์ต และดำเนินการเรื่องไปออสเตรเลียเท่านั้น ตอนจะหย่ากันเขาก็ขอแค่เงินสินสอดคืน แต่ตอนหลังกลับบอกว่าไม่เอาสินสอดแล้วขอแค่แหวนคืน ตอนนี้งงมาก ที่เขาบอกว่าจะดำเนินการทางกฎหมายกับอ้อม จึงได้แต่รอดูท่าที เพราะฝ่ายอ้อมเองก็มีพยานหลักฐานข้อตกลงเช่นกัน” น.ส.พรพิมล กล่าว

วันเดียวกันที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เลขาธิการ ป.ป.ส. นายณรงค์ รัตนานุกูล และนายเพิ่มพงษ์ ชวลิต รอง เลขาธิการ ป.ป.ส. จัดการประชุมร่วมกับองค์ธุรกิจภาคบันเทิง เพื่อหารือมาตรการลดผลกระทบ และมาตรการป้องปรามศิลปินมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยมีนายกริช ทอมมัส รองกรรมการผู้อำนวยการอาวุโสสายงานธุรกิจเพลง บริษัท จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ จำกัด (มหาชน) พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจบันเทิงทั้งสื่อโทรทัศน์ ค่ายเพลง จำนวนมากเข้าร่วม

พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า ในวันนี้ได้สรุปข้อตกลงร่วมกันไว้ 8 ข้อ เพื่อส่งเสริมศิลปินให้เป็นแบบอย่างที่ดีและป้องปรามรวมทั้งลบผลกระทบเชิงลบต่อสังคม จากกรณีที่มีศิลปินเกี่ยวข้องกับยาเสพติด คือ 1.ระบุในสัญญาให้พ้นจากสภาพการเป็นศิลปินในสังกัด 2.ให้โอกาสศิลปินที่เกี่ยวข้องกรณีเสพ/ติด ให้ได้รับการบำบัดรักษา 3.ยุติการเผยแพร่ผลงาน 2 ปี โดยขอความร่วมมือให้ครอบคลุมทุกภาคส่วน 4.ดำเนินการต่อศิลปินที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนทางกฎหมาย

5.ให้รางวัลศิลปินที่เป็นต้นแบบที่ดี 6.ปลูกฝังสร้างจรรยาบรรณแก่ศิลปิน 7.ขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนทุกแขนงให้ระมัดระวังในการนำเสนอข่าวที่จะขยายผลกระทบด้านลบต่อสังคม แต่ให้ข้อมูลผลกระทบของยาเสพติดเพิ่มมากขึ้น และ 8.ส่งเสริมศิลปินในสังกัดช่วยเป็นสื่อบุคคลในการเผยแพร่รณรงค์วิธีคิดที่ถูกต้องแก่เด็กและเยาวชนในวาระโอกาสต่าง ๆ เช่น การแสดง การให้สัมภาษณ์

เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยเพิ่มเติมว่า สำหรับการประชุมร่วมกันครั้งนี้เนื่องจากศิลปิน เป็นสื่อบุคคลที่มีอิทธิพลต่อเด็กเยาวชนอย่างมาก สามารถถ่ายทอดวิธีคิด ค่านิยมและการปฏิบัติตัวให้กับคนที่ชื่นชอบศรัทธาในตัวศิลปิน หากประพฤติตัวไม่เหมาะสมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ย่อมก่อให้เกิดค่านิยมและการลอกเลียนแบบที่ผิด ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ต้องให้ความสำคัญในการส่งเสริมศิลปินในการเป็นแบบอย่างในด้านบวก ป้องกันไม่ให้ศิลปินเข้าไปข้องเกี่ยวยาเสพติด เพื่อลดผลกระทบเชิงลบต่อสังคม

“กรณี เสก โลโซ วันนี้ทาง ป.ป.ส.ได้ทำหนังสือเชิญตัวให้มาให้ปากคำ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ.2519 เพื่อเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการเสพยาเสพติด โดยกำหนดระยะเวลาภายใน 7 วัน ซึ่งเมื่อ เสก มาพบและยินดีที่จะเข้ารับการบำบัด ทาง ป.ป.ส.ก็จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการบำบัดฟื้นฟู เนื่องจากตามกฎหมาย ผู้ติดยาเสพติดถือเป็นผู้ป่วยต้องรักษาให้กลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้ตามปกติ แต่หากเขาไม่มาตามกำหนดจะมีความผิดตามมาตรา 16 กรณีไม่ให้ความร่วมมือ จากนั้นทาง ป.ป.ส. จะเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง หรือ บช.ปส.เพื่อออกหมายเรียก แต่หากยังไม่มาพบตามหมายเรียกอีกก็จะมีการเสนอออกหมายจับ ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าว

ด้านนายกริช กล่าวว่า ปัญหาระหว่างเสกกับจีเอ็มเอ็มแกรมมี่จบลงไปแล้ว สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้คือการให้กำลังใจเพื่อให้เขาเข้ารับการบำบัดรักษาอาการติดยาเสพติด ส่วนจะกลับมาทำงานร่วมกันหรือไม่ คงต้องรอหลังจากการบำบัดจนหายดีก่อนถึงจะกลับมาพูดคุยกันภายหลัง ส่วนกรณีที่เสก กล่าวพาดพิงถึงบริษัทตนพร้อมให้อภัย