สวัสดี ค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com .... เมื่อวันก่อนก็ได้เกิดข่าวช็อกโลก (หรือเปล่า) อีกข่าว นั่นก็คือ ผู้นำแห่งเกาหลีเหนือหรือ "คิมจองอิล" ได้เสียชีวิตลงแล้วด้วยโรคหัวใจล้มเหลวเนื่องจากทำงานหนักด้วยวัย 69 ปี .... โอ้ว คือตอนแรกที่ พี่เป้ ได้ยินข่าวนี่งงมากๆ เลยค่ะ อะไรจะกะทันหันปานนั้น
เพราะฉะนั้น วันนี้จึงมีเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับชีวิตจริงของท่านผู้นำท่านนี้ "คิมจองอิล" มาฝากน้องๆ กันค่ะ รับรองว่าเป็นเรื่องที่อาจไม่เคยได้อ่านที่ไหนมาก่อน !! (แต่ถ้าเคยอ่านแล้ว ก็อ่านอีกรอบนึงละกันเนาะ 555)
ชีวิตในวัยเด็ก
จริงๆ แล้วเขาเกิดที่ค่ายทหารโซเวียตในไซบีเรีย แต่บางข้อมูลบอกว่าเขาเกิดบนยอดเขาที่สูงที่สุดของเกาหลีเหนือ โดยเขาเกิดเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1941 แต่ในประวัติตามสื่อต่างๆ มักระบุว่าเขาเกิด 16 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1942 สาเหตุก็เพราะว่า คนเกาหลีเหนือจะให้ความสำคัญกับเลข 5 และเลขต่างๆ ที่หารด้วยเลข 5 ลงตัว เนื่องจาก "คิมอิลซอง" ผู้เป็นพ่อเกิดในปี 1912 หากเลื่อนปีเกิดไปเป็นปี 1942 จะทำให้อายุของเขาห่างกับพ่อของเขา 30 ปีพอดี
ในตอนเด็กๆ เขามีชื่อเล่นเป็นภาษารัสเซียว่า Yura (ยูรา) เขาใช้ชื่อนี้มาเรื่อยๆ จนจบมัธยมปลาย คนอื่นจึงเริ่มเรียกเขาว่า "คิมจองอิล"
ประวัติการศึกษา
การเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยของคิมจองอิลนั้น เขาเริ่มเข้าเรียนในเดือนกันยายนปี 1960 ที่มหาวิทยาลัยคิมอิลซอง ซึ่งผู้เป็นพ่อของเขาเป็นคนสร้าง รวมถึงพี่น้องคนอื่นๆ ก็เข้าเรียนที่นี่กันทุกคน โดยเขาเข้าเรียนในสาขาเศรษฐศาสตร์การเมือง ในระหว่างเรียน เขาได้รับการดูแลอย่างดีทั้งจากอาจารย์และเพื่อน มีรายงานว่า เพื่อนๆ ของเขาไม่มีใครกล้าเรียกเขาว่าจองอิล แต่ทุกคนจะเรียกว่า "ลูกชายท่านผู้นำ" แทน (กลัวนั่นเอง)
ก่อนที่เขาจะจบการศึกษา เขาได้ทำปริญญานิพนธ์ในหัวข้อ 'the role and status of gun in socialism building' หรือ บทบาทและสถานะของปืนในการสร้างระบบสังคมนิยม โดยเขาได้อธิบายช่องหว่างระหว่างสังคมเมืองและสังคมชนบท และบทบาทของปืนและอาวุธต่างๆ ที่ใช้ในการเปลี่ยนแปลงสังคมชนบทให้กลายเป็นสังคมเมือง
เวลาในการทำงาน
หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งของเกาหลีเหนือเคยรายงานนิสัยในการทำงานของผู้นำท่าน นี้ว่า เป็นคนที่ชอบทำงานในเวลากลางคืนจนเป็นนิสัย โดยเวลาทำงานของเขาจะอยู่ที่เวลา 5 ทุ่มจนถึงประมาณตี 4 จากนั้นจะเข้านอนตอนเช้า และตื่นขึ้นมาในช่วงบ่าย ซึ่งคิมจองอิลเองก็เคยเปิดเผยว่า การทำงานตอนกลางคืนเป็นนิสัยที่เขาปฏิบัติมานานหลายสิบปีแล้ว โดยเริ่มจากที่ต้องช่วยพ่อทำงาน เขาจะได้รับรายงานในช่วงตี 3 ของวัน และต้องสรุปรายงานต่างๆ นี้และส่งไปให้พ่อของเขาตรวจในตอนตี 4
แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ในช่วงกลางวันนั้น เป็นช่วงที่จะได้รับการรายงานเรื่องการดักฟังโทรศัพท์ของคนในรัฐบาล ดังนั้นในเวลากลางคืนจึงเป็นเวลาเหมาะสมที่จะจัดการเรื่องพวกนี้ และอาจเป็นสาเหตุให้เขาเลือกทำงานในช่วงเวลากลางคืนก็เป็นได้
เมนูอาหารที่ชื่นชอบ
เป็นที่รู้กันดีว่า คนเกาหลีเหนือส่วนมากอยู่กันแบบอดๆ อยากๆ แต่ผู้นำประเทศกลับมีชีวิตที่สุขสบายและนิยมรับประทานอาหารแพงๆ บางทีเขามักสั่งให้คนสนิทบินไปต่างประเทศเพื่อหาซื้ออาหารแพงๆ จากเมืองนอกมาให้ (คิมจองอิลกลัวเครื่องบินค่ะ เขาจะไม่ค่อยเดินทางไปไหนโดยเครื่องบิน) โดยพ่อครัวของเขาเคยให้สัมภาษณ์ว่า ท่านผู้นำคนนี้ชอบหูฉลามมาก สามารถทานได้ทุกวัน โดยประยุกต์เป็นหลายๆ เมนู เช่น หูฉลามตุ๋นเยื่อไม้ไผ่ หูฉลามตุ๋นมะพร้าว โดยในมื้อหนึ่งๆ เขาจะทานอาหารไม่มากเท่าไหร่นัก แต่จะชอบเลือกสรรเมนูต่างๆ ใหม่ๆ มาให้พ่อครัวทำ
แม้แต่ในปี 1996 ที่เกาหลีเหนือประสบภาวะขาดแคลนอาหารอย่างหนัก มีผู้คนล้มตายจำนวนมาก แต่พ่อครัวของคิมจองอิลก็ยังเดินทางไปหลายประเทศเพื่อหาอาหารชั้นเลิศมาให้ ท่านผู้นำ เช่น เหล้าองุ่นแดงจากเดนมาร์ค ปลาคาเวียร์จากอิหร่าน ผลไม้เมืองร้อนจากเอเชียใต้ เช่น ทุเรียน มะละกอ
ความสูงของคิมจองอิล
ตามข่าวทั่วไปมัก ระบุว่า คิมจองอิลสูงประมาณ 165 เซนติเมตร แต่ก็มีคนสงสัยไม่น้อยว่า เขาสูงเท่านั้นจริงๆ เหรอ เพราะมักมีภาพหลุดออกมาว่า เขาใส่รองเท้าที่ส้นหนามากๆ เพื่อเพิ่มความสูงให้ตัวเอง
อย่างภาพข้างบน เป็นภาพที่คิมจองอิลเคยเข้าพบกับอดีตประธานาธิบดีวลาดิมิรี์ ปูตินของรัสเซีย จะเห็นได้ว่า ส้นรองเท้าของคิมจองอิลหนากว่าประธานาธิบดีวลาดิมิรี์ ปูตินมาก จึงคาดว่า ความสูงจริงๆ น่าจะต่ำกว่า 165 เซนติเมตรอย่างแน่นอน และน่าจะอยู่ที่ประมาณ 155 เซนติเมตร
จนถึงทุกวันนี้ ก็ไม่เคยมีรายงานว่า ส่วนสูงจริงๆ ของคิมจองอิลอยู่ที่เท่าไหร่ เรื่องนี้ถือเป็นความลับที่ไม่มีใครรู้ ว่ากันว่า สาเหตุที่ไม่มีใครรู้ก็เพราะว่า ไม่มีใครกล้าเข้าไปขอวัดส่วนสูงที่แท้จริง รวมถึงไม่มีคนสนิทคนไหนที่สนิทมากจริงๆ ถึงขั้นกล้าถามส่วนสูงนั่นเอง (ใครจะกล้าล่ะ)
ไม่หมดแค่นั้นนะคะ นอกจากจะเป็นผู้นำที่มีรูปร่างเล็กแล้ว คิมจองอิลยังไม่ค่อยนิยมบอดี้การ์ดที่ตัวสูงมากเกินไปด้วย เพราะบอดี้การ์ดประจำตัวของเขาแต่ละคนนั้น มีรูปร่างที่เล็ก แทบไม่มีใครสูงเกิน 170 เซนติเมตร จึงทำให้เป็นที่น่าสงสัยว่า เขาไม่ห่วงความปลอดภัยของตัวเองเหรอ ?
นักสะสมภาพยนตร์ตัวยง
หลายคนคงเคยได้ยินว่า คิมจองอิลเป็นแฟนพันธุ์แท้ของภาพยนตร์ต่างประเทศ เขาชื่นชอบการดูหนังมาก โดยเริ่มต้นจากสมัยที่เรียนในมหาวิทยาลัย เขาไปดูหนังที่โรงหนังเกือบทุกวัน แต่หนังของเกาหลีเหนือนั้นมีคุณภาพต่ำเพราะไม่ได้รับการสนับสนุนหรือพัฒนา ดังนั้นเขาจึงเริ่มหันมานิยมหนังของรัสเซียแทน เนื่องจากในตอนนั้น รัสเซียเป็นประเทศคอมมิวนิสต์แบบเกาหลีเหนือนั่นเอง
ในเปียงยาง เมืองหลวงของเกาหลีเหนือ มีห้องสมุดที่เก็บสะสมภาพยนตร์ของคิมจองอิลโดยเฉพาะ ว่ากันว่ามีภาพยนตร์ต่างชาติกว่า 15,000 เรื่องในห้องนี้ นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่กว่า 250 คนที่คอยดูแลในการทำซับไตเติ้ลหรือช่วยแปลหนังนั้นๆ ให้แก่คิมจองอิลโดยเฉพาะ (ถ้าเกิดอยากดูหนังไทยนี่ จะมีคนไทยถูกลักพาตัวไปช่วยแปลมั้ยนะ = =") นักแสดงที่เขาโปรดปรานคือ อลิซซาเบธ เทย์เลอร์
คิมจองอิลสนใจอยากพัฒนาวงการภาพยนตร์ของเกาหลีเหนือ แต่ในเกาหลีเหนือนั้นกลับไม่มีบุคลากรที่มีความชำนาญทางด้านนี้ เขาจึงส่งสายลับไปลักพาตัว "ชินซางอก" ผู้กำกับภาพยนต์ชื่อดังของเกาหลีใต้ พร้อมด้วยภรรยาซึ่งเป็นนักแสดงคือ "ชเวอึนฮี" เพื่อให้มาสร้างภาพยนตร์ให้เขาดู
และนั่นก็คือเรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับคิมจองอิลค่ะ ... ยังไงก็ต้องลุ้นกันต่อไปค่ะว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างกับเกาหลีเหนือและโลกใบ นี้ หากลูกชายขึ้นมารับหน้าที่ต่อจากพ่อ ทิศทางการเมืองในเกาหลีเหนือจะเป็นยังไงต่อไป ??? ถ้ามีอะไรน่าสนใจ พี่เป้ จะนำมาเขียนให้อ่านอีกแน่นอน
เนื้อหาประกอบ : dailynk.com
ภาพประกอบ : article.joinsmsn.com
หากต้องการนำบทความ ไปเผยแพร่ยังเว็บไซต์อื่นกรุณา อ้างอิงถึงแหล่งที่มา
หรือหาก ต้องการนำไปใช้อย่างเป็นทางการ กรุณาติดต่อทีมงาน เจ้าของบทความ