ไม่ต้องสงสัยเลยว่า บรอดเวย์ เป็นหนึ่งในไฮไลท์สำคัญที่ไม่ควรพลาดหากมานิวยอร์ก สถานที่ที่มีชื่อเสียงในด้านของโรงละครต่าง ๆ มากมายมารวมกันอยู่ที่นี่ และนี่ก็เป็นที่มาของชื่อ ถนนบรอดเวย์ หากคุณตั้งใจที่จะมาดูการแสดงละครเวทีหรือศิลปะการแสดงต่าง ๆ และไม่ต้องการพลาดที่นั่งแถวหน้า มุมดี ๆ บอกได้เลย[ว่า ต้องจองที่ล่วงหน้าไว้ก่อนนะ ไม่งั้นพลาดแน่นอน หรือหากคุณพลาดจริง ๆ ก็ไม่ต้องกังวลใจ ที่บรอดเวย์ยังมีอะไรให้คุณทำอีกเยอะ เช่น ออกไปโปรยเงินเล่นช้อปปิ้งที่ ฟิฟท์ อเวนิว (5th Avenue) พร้อมชมความงามของ โบสถ์ทรินิตี้ อันเลื่องชื่อ และแน่นอนที่สุด ไม่ควรพลาดที่จะมุ่งไปที่ ไทม์ สแควร์ สถานที่ ๆ คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศความเป็นนิวยอร์กอย่างแท้จริง
2. อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ (Statue of Liberty)
เมื่อเอ่ยถึงสตรียืนสูงเด่นเป็นสง่า ที่เป็นสัญลักษณ์ของ "เสรีภาพ" ของชาวมะกันนั้น คงต้องหมายถึง "เทพีเสรีภาพ" อย่างแน่นอน ซึ่งเป็นอนุสาวรีย์ที่ทางฝรั่งเศสมอบให้กับชาวอเมริกัน เพื่อเป็นของขวัญฉลองครบรอบ 100 ปี ในวันประกาศอิสรภาพจากประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 1776 โดยตัวเทพีมีความสูงถึง 96 เมตร ใช้ชิ้นส่วนมาประกอบตัวเทพีจำนวน 350 ชิ้น ซึ่งใช้ระยะเวลาในการประกอบถึง 4 เดือน สร้างโดย บาร์โธลดี หากไม่ได้มาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับสตรีแห่งเสรีภาพแห่งนี้ ถือว่าคุณพลาด 1 ในมหัศจรรย์สิ่งก่อสร้างของโลกชิ้นหนึ่งเลยทีเดียว
3. สวนสาธารณะ เซ็นทรัล พาร์ค (Central Park)
หากต้องการหลบจากความวุ่นวายในเมืองใหญ่อย่างมหานครนิวยอร์ก สวนสาธารณะ เซ็นทรัล พาร์ค คงเป็นตัวเลือกแรก ๆ ที่น่าสนใจสำหรับคนเมืองใหญ่เช่นนี้ เซ็นทรัล พาร์ค สร้างเสร็จเมื่อปี 1873 มีขนาดอยู่ที่ 341 เฮกตาร์ (3.4 ตารางกิโลเมตร หรือสนามฟุตบอล 460 สนามต่อกัน) โดยผู้คนที่เดินทางมาที่นี้ ไม่ใช่มาเพื่อเดินหรือวิ่งออกกำลังเท่านั้น ภายในสวนสาธารณะแห่งนี้ ยังมีสวนสัตว์ รูปปั้น ร้านอาหาร เรือถีบ ม้าหมุน ลานสเก็ต นั่งปิคนิค และลานน้ำพุ ที่สำคัญที่ เซ็นทรัล พาร์ค ยังเป็นสถานที่ยอดนิยมที่กองภาพยนต์ มักเลือกใช้มาเป็นส่วนหนึ่งในฉากประกอบซะด้วย
4. หมู่บ้านกรีนวิช (Greenwich Village)
หมู่บ้านกรีนวิช เป็นที่รู้จักดีว่าเป็นเขตที่อยู่อาศัยของชุมชนในแมนฮัตตัน แต่ครั้งหนึ่งนั้นเคยเป็นเขตอุตสาหกรรมที่สำคัญ และตกเป็นเมืองขึ้นของชาวโบฮีเมี่ยน บีทนิกส์ และเคยถูกทิ้งให้เป็นเมืองร้างมาก่อน แต่หมู่บ้านกรีนวิชยังคงความมีเสน่ห์ในตัวที่ทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาที่หมู่บ้านแห่งนี้ ปัจจุบันได้กลายเป็นชุมชนศิลปะอันสดใส และอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยนิวยอร์กอันโด่งดัง พร้อมอยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมตอนกลางคืนอันสว่างไสวไปกับแสงไฟบนถนนแม็คโดกัล
ภาพประกอบโดย Cedric Weber / Shutterstock.com
5. ตึกเอ็มไพร์ สเตท (Empire State)
ตึกเอ็มไพร์ สเตท เป็นตึกที่ได้ชื่อว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดเหนือ ตึกไครซ์เลอร์ และเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของนครนิวยอร์ก ตึกระฟ้าแห่งนี้มีความสูงถึง 102 ชั้น มีสไตลล์การตกแต่งแบบศิลปะสไตลล์ เด็คโค่ และเป็นอาคารที่ได้รับความนิยมถูกใช้เป็นฉากถ่ายทำภาพยนต์หลายเรื่อง เช่น ภาพยนต์ชื่อดังอย่าง "คิงคอง" ที่มีเจ้าลิงยักษ์ปีนขึ้นไปบนยอดตึก ตึกเอ็มไพร์ สเตท หากคุณไม่กลัวความสูง และต้องการเห็นมุมมองอันน่าอัศจรรย์ของเมืองนิวยอร์ก ที่สามารถมองเห็นรอบ ๆ เมืองได้ไกลถึง 80 ไมลล์ ต้องไม่พลาดในการขึ้นไปพิชิตยอดตึกแห่งนี้เหมือนเจ้าคิงคอง
ภาพประกอบโดย SeanPavonePhoto / Shutterstock.com
6. พิพิธภัณฑ์ศิลปะ เมโทรโพลิทัน (Metropolitan Museum of Art)
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่หิวโหยและคลั่งไคล้ในงานศิลปะ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ เมโทรโพลิทัน เป็นสถานที่รวบรวมจัดแสดงผลงานชั้นยอดต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียงของเหล่าศิลปินมากมายไว้ที่นี้ เช่น เซซานและโมเนต์ ปิกัสโซ่ แคนดินสกี้ เดอะ โมมา เป็นต้น และพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมแห่งหนึ่งของโลกเลยทีเดียว ดังนั้น หากคุณได้มาชื่นชมผลงานอันเลื่องชื่อของศิลปินที่นี้ คุณอาจจะได้รับแรงบันดาลใจดี ๆ เพื่อนำไปสร้างสรรค์ผลงานของคุณเองได้อีกด้วย
ภาพประกอบโดย Vladimir Korostyshevskiy / Shutterstock.com
7. เกาะโคนี่ย์ (Coney Island)
หากกำลังมองหาสถานที่พักผ่อนริมทะเล กับหาดทรายขาวนวลและแสงแดดอ่อน ๆ เราขอแนะนำให้ลองมาที่ เกาะโคนี่ย์ บ้านพักตากอากาศที่ได้รับความนิยมมาก ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทางตอนใต้ของเมืองบรู๊คลิน และริมทางเดินชายหาดของนิวยอร์ก นอกจากชายหาดแล้วยังมีสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่าง พิพิธภัณฑ์สัตวน้ำนิวยอร์ก สวนสนุกที่มีเครื่องเล่นหลากหลาย และต้องไม่พลาดเลยกับ ฮ็อทด็อกซ์ เจ้าดังอย่าง "เนธาน ฮ็อทด็อกซ์" ที่เมื่อมาถึงทีนี้แล้วต้องมาลิ้มรสกันให้ได้
ภาพประกอบโดย Andrew F. Kazmierski / Shutterstock.com
8. ร็อคกี้เฟลเลอร์ เซ็นเตอร์ (Rockefeller Center)
เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีศูนย์การค้าส่วนตัวของตัวเอง ประกอบไปด้วยตึก 19 ตึก ที่มีความสวยงามน่าประทับใจ โดยเริ่มต้นการทำโครงการทางธุรกิจแบบผสมผสาน มีทั้งสวน ร้านอาหารและแหล่งช้อปปิ้ง ด้วยพื้นที่สำนักงาน ซึ่งทั้งหมดถูกตกแต่งอย่างสวยงาม ด้วยศิลปะสไตลล์เด็คโค่ ปัจจุบันที่ศูนย์แห่งนี้เป็นสถานที่จัดงานทางด้านวัฒนธรรมและบันเทิงกลางเมืองนิวยอร์ก ซึ่งจัดงานคอนเสิร์ตและนิทรรศการต่าง ๆ
แล้วที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง คือ ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส จะมีการนำต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่มาจัดแสดงไว้ และในยามค่ำคืน ณ ลานสเก็ตที่ศูนย์แห่งนี้ จะแปรเปลี่ยนเป็นลานสเก็ตที่ส่องแสงประกาย สะท้อนแสงไฟระยิบระยับราวกับเพชร ซึ่งเป็นภาพที่สวยสดงดงามในยามค่ำคืน
ภาพประกอบโดย SeanPavonePhoto / Shutterstock.com
9. ศูนย์แสดงศิลปะ ลินห์นคอน เซ็นเตอร์ (Lincoln Center for the Performing Arts)
ศูนย์แสดงศิลปะ ลินห์นคอน เซ็นเตอร์ เป็นศูนย์ศิลปะที่ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นบ้านของสถาบันศิลปะนิวยอร์กทั้ง 12 แห่ง อาทิ โรงละครโอเปร่า เมโทรโพลิแทน โรงแสดงบัลเล่ต์นิวยอร์ก ที่จัดแสดงคณะประสานเสียง โรงหนังลินห์นคอน เซ็นเตอร์ เป็นต้น และเป็นที่แน่นอนเลยว่าผู้หลงใหลศิลปะทั้งหลาย จะได้รับประสบการณ์อันยอดเยี่ยมกับผลงานอันตระการตาต่าง ๆ จากเหล่านักแสดงและเป็นแรงใจให้กับศิลปินหน้าใหม่มามากกว่า 50 ปี
ภาพประกอบโดย Pierre E. Debbas / Shutterstock.com
10. สนามแยงกี้ (Yankee Stadium)
สุดยอดสนามเบสบอลทีมเหย้าอันน่าภาคภูมิใจของชาวนิวยอร์กแยงกี้ ที่ได้ชื่อว่ามีมูลค่าการก่อสร้างของสนามแพงถึง 1.5 เหรียญ กับความจุของสนามอันมหาศาลมากกว่า 52,000 ที่นั่ง พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย โดยเคยตั้งอยู่ที่ย่าน บรองซ์ ก่อนที่จะย้ายมาสร้างใหม่ที่ เลขที่ 25 ถนนหลักใน คูเปอร์สทาวน์ เมืองนิวยอร์ก ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนเบสบอลหรือไม่ เราขอแนะนำให้คุณลองเข้าไปสัมผัสกับบรรยากาศอันกึกก้อง ของสาวกทีมนิวยอร์กแยงกี้ ซึ่งจะปลุกอารมณ์คุณให้ลุกขึ้นมาร่วมเชียร์ทีมโปรดไปด้วยกัน