รอยสักบนตัวปลาทอง กับการหากินบนความเชื่อที่เกินควร





  ว่ากันว่า ตามความเชื่อของคนจีนแล้ว "ปลาทอง" ถือ เป็นสัตว์ที่มีสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งและความกลมเกลียว หากใครนำมาเลี้ยงไว้ ก็จะเกิดเป็นศิริมงคลแก่ชีวิตทั้งกับตัวผู้เลี้ยงเองและสมาชิกคนอื่น ๆ ในบ้าน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ปลาทองที่ว่าจะยิ่งให้ศิริมงคลแก่ชีวิตมากขึ้น เพราะมีการสักคำที่มีความหมายดี ๆ อยู่บนตัวของพวกมันเพิ่มมาด้วย

           ที่ เราได้บอกไปแบบนั้นก็เป็นเพราะว่า ที่งานแสดงสินค้าและจัดจำหน่ายพืชผลทางเกษตรในเมืองไหโข่ว มลฑลไห่หนาน ของจีนนั้น มีการจัดแสดงปลาทองที่มีรอยสักเป็นคำในภาษาจีนซึ่งมีความหมายที่ดีอยู่บนตัว ของพวกมันจริง ๆ

           ทั้งนี้ การสักรอยอักษรบนตัวปลาทองที่ว่านั้น ทางผู้ดูแลได้ออกมากล่าวอธิบายไว้ว่า การ สักนั้นเป็นการสักจริง ๆ ไม่ได้ใช้วิธีเอาปากกาเคมีมาเขียนแต่อย่างใด โดยหลักการสักให้ปลาทองนั้น ก็จะใช้วิธีการฉีดยาด้วยตัวยาสูตรพิเศษบนเกร็ดเล็ก ๆ ของพวกมัน ซึ่งอยากจะได้ตัวอักษรแบบไหน ลายอะไร ก็แล้วแต่จะเลือกฉีดออกมาให้เป็นลายตามที่หวัง

           ด้านตัวยาที่ฉีดไปนั้น จะใช้เวลานานกว่าครึ่งปีเลยทีเดียว กว่าที่ตัวยาจะออกฤทธิ์เปลี่ยนสีของเกร็ดปลาให้ออกมาเป็นรูปแบบของตัวอักษร ต่าง ๆ อย่างที่ได้เห็นกัน ซึ่งการสักให้ปลาแบบนี้ เริ่มมีให้เห็นและมีการจำหน่ายกันครั้งแรก ๆ เมื่อปี 2005 ที่ผ่านมา แต่เพิ่งจะมาเป็นที่นิยมกันมากขึ้นก็ในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมานี้เอง

           แต่ จะอย่างไรก็ดี การที่สักให้ปลาแบบนี้ก็ไม่เป็นที่พอใจกับกลุ่มคนรักสัตว์มากสักเท่าไหร่นัก โดยพวกเขามองว่าการสักแบบนี้ ถือเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะไม่มีใครรู้เลยว่ายาที่ฉีดไปนั้น จะทำอันตรายใด ๆ กับตัวของปลาหรือไม่ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วมองไปในทิศทางเดียวกันที่ว่า นี่เป็นการกระทำที่ใจร้ายและฝืนความเป็นธรรมชาติกับปลาทองมาก ๆ

           นอกจากนี้แล้ว เคยมีประเด็นเกี่ยวกับความเหมาะสมที่นำปลาทองมาใช้หากินมาแล้ว โดยเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา เคยมีนักมายากลชาวจีนคนหนึ่งโชว์กลบังคับให้ปลาทองเคลื่อนที่ไปตามที่เขา สั่งการได้ แต่ทว่าสุดท้ายแล้วก็มีการเปิดเผยกลนี้ว่า เป็นเพราะปลาทองเหล่านั้นตายไปหมดแล้ว เพราะมีการยัดเอาแม่เหล็กใส่ไว้ในตัวปลาเพื่อที่จะได้โชว์กลนั้นอย่างแนบ เนียนนั่นเอง..

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...