ไทยติดอันดับ 2 "ประเทศที่เรียนหนักสุดในโลก" รองจากญี่ปุ่น

         นักวิจัยนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ สนับสุนโดยสำนักงานกองทุนสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ประเทศไทยถูกจัดลำดับที่มีเวลาเรียนที่เยอะที่สุดในโลก เมื่อรองมาจากประเทศญี่ปุ่น เหตุที่เรียนหนักจึงส่งผลทำให้มีเด็กไทยต้องออกกลางคันจำนวนปีละ 900.000 คน ต่อปีและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี และมีปัญหาตั้งครรภ์ ก่อนวัยอันควรจำนวน 1.500.000 คน ใน 2 ปีที่ผ่านมา และยังมีเยาวชนติดโรค HIV จำนวน 1.358.000 คนใน 3 ปี และจะเพิ่มขึ้นทุกปี และมีค่าเรียนที่แพงจนมีเด็กไทยหลายคนเลือกทำอาชีพที่ผิดกฎหมายกันมากขึ้นจำนวน 386.250 คนต่อปี

         เด็กที่ประกอบอาชีพที่ผิดกฎหมาย เช่น ข่ายตัว ค้าขายเสพติด เป็นต้น สาเหตุที่เด็กทำผิด เฉพาะต้องการหาเงินเป็นค่าเรียน และการเรียนพบว่าเด็กไทยมีเวลาเรียนวันละ 8-10 คาบต่อวัน แต่มีเด็กจำนวนไม่น้อยไม่อยากเรียนหนังสือเพราะเบื่อหน่วย และที่น่าเป็นห่วงที่สุด เด็กจำนวนร้อยละ 87 มีเวลาพูดคุยกับพ่อแม่วันละ 10 นาทีจึงทำให้เด็กไม่มีเวลาได้บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ จึงทำให้พ่อแม่ไม่รู้ชีวิตความเป็นอยู่ในโงเรียนของเด็กเลย หรือน้อยมาก และพบอีกว่าเนื้อหารายวิชาต่างๆ มีแต่เนื้อหาที่มีความรู้แต่ไม่มีศิลธรรม จึงทำให้เด็กกลายเป็นคนขาดศิลธรรม ไม่รู้จักเสียสละ ไม่รู้จักทำเพื่อส่วนรวมเพื่อผู้อื่น และกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวในที่สุด เมื่อเด็กจบไปเด็กอาจใช้ความรู้ที่มีมาก่อน นำไปใช้ในทางที่ผิดศิลธรรมในที่สุดได้เช่นกัน

        และมีเด็กไทยตั้งแต่ 7 -20 ปีที่ต้องฆ่าตัวตายด้วยผลการเรียนตกตํ่า หรือสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ ที่น่าตกใจมีจำนวนที่เด็กไทยที่ฆ่าตัวตายปีละ 300.000 คนต่อ อีกปัญหาหนึ่งคือ จำนวนนักเรียนในห้องเรียนมากเกินไป ตามมาตรฐานการศึกษาจำนวนนักเรียนต่อห้องไม่ควรเกิน 30 คน

        "คำพูดที่สรุปภาพของการศึกษาไทยได้อย่างเจ็บแสบว่าเป็นแบบ "ลู่วิ่งเดี่ยวปลายตีบ" เด็กทั้งประเทศเหมือนกำลังวิ่งอยู่บนลู่วิ่งที่แข่งขันด้านความเป็นเลิศทาง วิชาการ แต่ยิ่งวิ่ง ปลายลู่ยิ่งตีบ เด็กส่วนใหญ่พ่ายแพ้ ต้องหล่นออกจากลู่ มีน้อยคนเท่านั้นที่วิ่งชนะ สภาพเช่นนี้บั่นทอนคุณภาพชีวิตของเด็กๆ ทุกคน ถ้าวันนี้ถ้าระบบการศึกษาไทยยังไม่เปลี่ยน ก็เดินหน้าต่อไปไม่ได้"

Credit: www.teenee.com
13 ธ.ค. 54 เวลา 14:45 1,697 8 70
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...