เดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า "วินโดวส์ 8" ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ที่มีคนรู้จักและใช้งานมากที่สุดในโลกก็จะเปิดให้ใช้อย่างเป็นทางการแล้ว
ดังนั้นจึงเห็นควรที่จะต้องทำความรู้จักเพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ที่ทางไมโครซอฟท์นำเสนอ โดยสามารถแจกแจงข้อดีข้อเด่นต่างๆ ได้ดังนี้
อันดับแรกคงหนีไม่พ้นหน้าตาอินเตอร์เฟซแบบกระดานดำ ที่เลื่อนไปเลื่อนมาได้ ซึ่งไมโครซอฟท์เรียกว่าเมโทร สไตล์ ส่วนอินเตอร์เฟซสำหรับพีซีทั่วไปที่ใช้เมาส์ในการคลิกจะเรียกว่าเดสก์ท็อป สไตล์ ซึ่งประโยชน์ของเมโทร สไตล์ ก็เพื่อความสะดวกในการใช้งานของหน้าจอสัมผัสบนสมาร์ตโฟน และแท็บเล็ตต่างๆ
ต่อมาก็คือ ความสามารถในการใช้หน่วยความจำร่วมกัน โดยแต่เดิมโปรแกรมบนวินโดวส์จะสามารถจองหน่วยความจำหลายๆ ส่วนจากหน่วยความจำระบบ ซึ่งอาจจะไม่ได้จำเป็นต้องใช้ตอนนี้ แต่อาจจำเป็นต้องใช้ในอนาคต
นั่นหมายความว่า ยิ่งเปิดโปรแกรมมาก เท่าใด การใช้หน่วยความจำก็จะมากขึ้นไปด้วย
สำหรับเทคนิคการรวมหน่วยความจำเข้าด้วยกัน วินโดวส์ 8 จะมีการค้นหาหน่วยความจำระบบ แล้วตรวจสอบการใช้งานที่ซ้ำกัน จากนั้นยุบให้มันเหลือกอบปี้เดียวในหน่วยความจำ ทำให้ได้หน่วยความจำคืนกลับมา
กระบวนการนี้จะช่วยให้หน่วยความจำระบบเหลือเพิ่มขึ้นได้ตั้งแต่ 10 - 100 MB เลยทีเดียว
จุดเด่นข้อต่อมาของวินโดวส์ 8 ก็คือ ไมโครซอฟท์เตรียมใช้ระบบปฏิบัติการตัวนี้กับอุปกรณ์ทุกชนิดในอนาคต และไฟล์ข้อมูลต่างเครื่องกันก็สามารถซิงก์ข้อมูลเชื่อมต่อกันได้ทั้งหมด ซึ่งลักษณะดังกล่าวจะสร้างข้อได้เปรียบให้กับผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นทั้งหลาย ที่พัฒนาครั้งเดียว แต่ขายได้บนอุป กรณ์ที่หลากหลาย
นอกเหนือจากที่กล่าวไปแล้ว ยังมีลักษณะเด่นปลีกย่อยอีกดังนี้ วินโดวส์ 8 สามารถใช้แอพพลิเคชั่นที่รองรับวินโดวส์ 7 ได้ทุกตัว สามารถใช้งานบนแท็บเล็ตที่ใช้ชิพ ARM และทำงานบน Intel ATOM รุ่นแรกที่มีแรม 1GB ได้อย่างราบรื่น มีไดรเวอร์ในตัวที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ผู้ใช้สามารถนำอุปกรณ์ภายนอกมาใช้งานแบบ Plug and Play ได้ทันที และตัวเต็มจะมาพร้อมวินโดวส์ แอพ สโตร์ และวินโดวส์ ไลฟ์
ส่วนสเป๊กขั้นต่ำสำหรับใช้งานคือ ซีพียู 1 GHz หรือ 32-bit(x86) หรือ 64-bit (x64) หน่วยความจำ 1 GB RAM (32-bit) หรือ 2 GB RAM (64-bit) ต้องการพื้นที่ในการติดตั้ง 16 GB (32-bit) หรือ 20 GB (64-bit)