รายการ โทรทัศน์ญี่ปุ่นรายการหนึ่งเคยทำสกู๊ปเกี่ยวกับความรักและการแต่งงานของคน ชาติต่างๆ เป็นที่น่าภูมิใจว่า เขาจัดให้ความรักและการแต่งงานของคนไทย “หินที่สุด” ซึ่งชายไทยผู้น่าสงสารจะต้องผ่านด่านมากมายกว่าจะได้ครองคู่ร่วมหอลงโรง
ด่านที่ 1: ด่านกำแพงใจ สาวไทยมักไว้เชิง หยิ่งไว้ก่อนแม่สอนไว้ หนุ่มๆก็ต้องแปลงร่างเป็นพ่อบุญทุ่มคอยพะเน้าพะนอเจ้าหล่อนต่างๆนานากว่าจะได้หัวใจเธอ
ด่านที่ 2: ด่านยักษ์ (พ่อแม่แฟน) การได้ใจสาวแค่นั้นไม่พอ มาริโอต้องพิสูจน์คุณงามความดีตัวเองให้คุณพ่อคุณแม่สาวเจ้าได้ตระหนักด้วย การไปรับ-ส่งลูกสาว ช่วยคุณพ่อล้างรถ ช่วยคุณแม่ไปซื้อก๋วยเตี๋ยวเป็ดหน้าปากซอย ซื้อขนมไปฝากคุณพ่อคุณแม่บ้าง ชมทรงผมใหม่คุณแม่บ้าง ลำบากแต๊ๆ น้อ
ด่านที่ 3: ด่าน “พระ” ชายไทยจะบรรลุนิติภาวะได้อย่างสมบูรณ์เมื่อได้ผ่านการครองชายผ้าเหลืองแล้ว คงไม่ยากนักสำหรับมาริโอที่กระโดดข้ามกำแพงใจสาวในด้านแรกและฝ่าด่านที่ 2 ได้ ท่องบทขานนาคได้ก็พอไปรอดแล้วค่ะ
ด่านสุดท้าย: ด่าน “ชะตาฟ้าลิขิต” ผู้ใหญ่จะนำดวงทั้งคู่ไปให้เกจิพระอาจารย์ช่วยตรวจดูว่าดวงสมพงษ์กันหรือไม่ ถ้าไม่อาจโดนจับให้เลิกค่ะ
ต่าง จากที่ญี่ปุ่น ถ้าหนุ่มสาวรักกัน พาไปหาพ่อแม่แล้วพ่อแม่ไม่ได้ว่าอะไร ก็แต่งงานกันได้เลย สรุปคือ อย่างมากแค่ 2 ด่าน ไปหนักใจอีกทีก็ตอนจัดงานแต่งนู่นเลย ค่าจัดแพงเหลือเกิน ... ด้วยสภาพสังคมและวัฒนธรรมไทยเช่นนี้ เราจึงพบว่า หนุ่มไทยมีนิสัยน่ารักๆ หลายประการในการเอาชนะใจสาวญี่ปุ่นดังต่อไปนี้
1. เอาใจใส่
แถวบ้านเรียก “เทคแคร์” สังคมญี่ปุ่น สถานภาพจะค่อนข้างกลับกัน คือ ผู้หญิงญี่ปุ่นจะค่อนข้างเป็นฝ่ายดูแลฝ่ายชายมากกว่า ถ้าใครเคยอ่านการ์ตูนรักกุ๊กกิ๊กของญี่ปุ่น มันจะต้องมีฉากที่สาวน้อยเพียรพยายามทำคุ้กกี้เอย ปิ่นโตเอย แล้ววิ่งไปยื่นให้รุ่นพี่ที่ตัวเองแอบรัก (ต้องยื่น 2 มือแล้วก้มหัวนิดๆ ด้วยนะ) คบกันเป็นแฟนแล้ว ฝ่ายผู้หญิงก็เป็นคนตักกับข้าว หยิบช้อนส้อม บริการนู่นนี่ให้
ถ้าจู่ๆ มีหนุ่มต่างชาติมาคอยดูแล ตักอาหารให้บ้าง หยิบนู่นหยิบนี่ให้ คอยถาม “เหนื่อยไหม หิวไหม” เจ้าหล่อนจะซึ้งและประทับใจขนาดไหน เพื่อนคนหนึ่งมีฝีมือในการทำอาหารหน่อย เวลาจะไปหาแฟน เฮียจะลงทุนทำข้าวผัดเอย ผัดไทเอย ไปฝากสาวเจ้าเกือบทุกครั้ง เทคแคร์ขนาดนี้ จีบไม่ติดก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว
2. บอกรัก
เชื่อไหม ว่า ภาษาญี่ปุ่น ไม่มีคำที่ตรงกับคำว่า “คิดถึง” คนไทย ถ้าเป็นแฟนกันจะพูดคำนี้ประมาณอย่างน้อย วันละ 3 ครั้งหลังอาหาร แต่คู่รักชาวญี่ปุ่นจะพูดประมาณว่า 「会いたい (Ai-tai:อยากเจอจัง)」「淋しい (Sa-bi-shii: เหงาจัง)」คำพวกนี้จะเหมือนเป็น “คำสงวน” ไม่ค่อยเห็นคนญี่ปุ่นใช้ มักใช้ในกรณีที่สาหัสสากรรจ์จริงๆ เช่น ฝ่ายชายและหญิงมีเหตุต้องพลัดพรากจากกันไปทำงานคนละจังหวัด ประมาณนั้น
ฝ่าย ที่พูดคำพวกนี้ก็มักจะเป็นสาวๆไปเสียอีก หนุ่มญี่ปุ่นจะมีความเชื่อว่า ตัวเองต้องขรึม คูล เข้ม ไม่แสดงความรู้สึก แต่ว่าหัวอกผู้หญิง ไม่ว่าชาติไหนก็ย่อมอยากรู้ความในใจแฟน ถ้ามีหนุ่มไทยมาคอยบอกรัก บอกคิดถึง หยอดคำหวานๆบ้าง หัวใจที่อ้างว้างของสาวญี่ปุ่นจะชุ่มชื้นขนาดไหน
ก่อน ที่หนุ่มๆ ไทยจะเหลิงไปมากกว่านี้ ขอฉุดกระชากคุณๆ มาสู่โลกแห่งความเป็นจริงที่ว่า นิสัยบางอย่างของหนุ่มไทย (บางคน) ก็ทำเอาสาวญี่ปุ่นขยาดไปได้เหมือนกัน อาทิ
1. ตื๊อ
อันนี้เพื่อนสาวคนญี่ปุ่นเคยบ่นให้ฟังจริงๆ เธอไม่เข้าใจว่า เมลหรือโทรมาบ่อยเหลือเกินแต่ไม่ได้มีธุระอะไร พูดแค่ “คิดถึงหน้าเธอ” ถ้าสไตล์หนุ่มญี่ปุ่นจีบ เวลาเมล์ก็ต้องมีสาระนิดหนึ่ง เช่น ชวนไปทานข้าว ขอยืมแผ่นหนัง เพราะฉะนั้น สาวญี่ปุ่นเลยไม่ค่อยชินกับลูกอึดลูกตื๊อของหนุ่มไทย
การโทรหรือ SMS ไปหาเจ้าหล่อนทุกชั่วโมงเพื่อบอกแค่ “คิดถึง” คือ ถ้าจีบแต่พอดี สาวๆ จะยิ้ม แต่ถ้าเกินระดับปกติ สาวๆ ก็จะเริ่มกลัวว่า อีตานี่มันเป็นสโตกเกอร์ (พวกโรคจิต ชอบแอบสะกดรอยตามสาวที่ตัวเองปลื้ม) หรือเปล่า จะเอาชีวิตฉันไหม แล้วหล่อนก็จะหนีหายไปจากชีวิตคุณ
2. เจ้าชู้
ไม่ได้ เหมาชายไทยทุกราย หนุ่มคาสิโนว่าบางคนพร่ำบอกรักเธอ ส่ง SMS ให้เธอฝันดีมาทุกคืน พอเธอไปดี๊ด๊าให้เพื่อนสาวคนอื่นฟัง ปรากฏเพื่อนหล่อนก็ได้รับ SMS แบบเดียวกัน สังคมคนญี่ปุ่นที่คบค้าสมาคมกับคนไทยมันแคบ ไปทำอะไรไว้เขารู้กันหมด
3. พยายามแปลและยิงมุขควาย
ภาษาญี่ปุ่นไม่มีการผวนคำ เพราะฉะนั้นมุขประเภท “วันนี้เรอทั้งวันเลยอ่ะ เรอทัก....รักเธอ” คงใช้การไม่ได้ แต่หนุ่มไทยก็มิยอมแพ้ เพื่อรอยยิ้มของสาวน้อย หนุ่มๆ ก็พยายามดัดแปลงและแปลมุขควายเป็นภาษาญี่ปุ่น เช่น
“ถึงแม้คลื่นซึนามิจะกวาดทุกสิ่งหายไปในพริบตา แต่ไม่เคยกวาดหัวใจของฉันที่รักคุณหายไปได้เลยแม้แต่เสี้ยวใจ”
สาวญี่ปุ่นอาจงง ซึนามิ ภัยพิบัติที่ทำเราเศร้ากันทั้งประเทศ แล้วตานี่มาบอกอะไรฉันตอนเดท
โอ...พ่อแม่ฉันที่ฟุกุชิม่าจะเป็นอะไรไหมน้อ ฮือ T-T ...
หรือ ...
“ซุมิมาเซ็ง (ขอโทษครับ) ผมขอถามทางคุณหน่อยได้ไหมครับ? .... ทางไปหัวใจคุณ”
เธอคงจะงง อีนี่เป็นใคร หน้าแปลกๆ มาถามทางฉัน จะไปไหนนะ? ไปหัวใหญ่ ... อะไรของมัน
ขอแนะนำว่า มุขควาย เอาไว้ใช้ตอนจีบหล่อนติดแล้ว คุณมีระดับภาษาญี่ปุ่นที่ดีมากแล้ว และให้หล่อนคุ้นเคยกับวัฒนธรรมไทยสักพักก่อนจะปลอดภัยกว่า
สุดท้าย นี้ หนุ่มๆ คงคันปากอยากถาม “จีบสาวญี่ปุ่นยังไงให้ติด” ก็ขอฟันธงว่า... ให้ฟังเสียงในหัวใจคุณเองก็แล้วกัน (ฮ่าๆ) เป็นตัวตนอย่างที่เราเป็น แล้วทุกอย่างจะดีเอง