แรงอาฆาต"สาวเลสเบี้ยน"

 

 

 

 

 

แรงอาฆาต“สาวเลสเบี้ยน”

 

เด็กหญิงวัย 12 ปีถูกเพื่อนรุ่นพี่ 4 คนลวงไปฆ่าอย่างทารุณกลางป่าลึกเพราะแค้นที่Fanสาวปันใจให้เหยื่อเคราะห์ร้าย

แชนด้า รานี ชาเรอร์ (Shanda Ranee Sharer) เกิดในปี 1979 ที่เมืองไฟน์วิลล์ รัฐเคนทักกี เธอเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ทางด้านกีฬา สมัยที่เรียนเกรด 5 และเกรด 6 แชนด้าเข้าร่วมทีมซอฟต์บอล วอลเลย์บอล และยังเป็นเชียร์ลีดเดอร์ให้กับโรงเรียนอีกด้วย


แชนด้า รานี ชาเรอร์ (Shanda Ranee Sharer)

ฤดูร้อนปี 1991 พ่อแม่ของแชนด้าย้ายถิ่นอาศัยไปยังเมืองนิวอัลบานี รัฐอินดีแอนา แชนด้าจึงต้องย้ายโรงเรียนไปศึกษาต่อที่โรงเรียน Our Lady of Perpetual Help และเธอก็สมัครเป็นนักกีฬาบาสเกตบอล

เพียงไม่นานนักแชนด้าก็ได้ รับการต้อนรับจากเพื่อนใหม่ถึงขั้นลงไม้ลงมือ แชนด้าและอแมนด้า เฮฟริน (Amanda Heavrin) คู่กรณีวัย 14 ปี ถูกอาจารย์ฝ่ายปกครองลงโทษด้วยการกักบริเวณ เด็กก็คือเด็ก โกรธง่ายหายเร็ว หลังจากที่อยู่กันตามลำพัง ทั้งคู่ก็เกิดความสนิทสนมและเปลี่ยนจากความไม่ชอบหน้ากลายมาเป็นเพื่อนสนิท


อแมนด้า เฮฟริน (Amanda Heavrin)

ในช่วงเวลานั้นอแมนด้าเป็นคู่กิ๊กกับมาลินด้า เลิฟเลส (Malinda Loveless) สาวทอมบอยวัย 16 ปี ผู้ที่เพิ่งประสบมรสุมชีวิต พ่อแม่แยกทางกันทำให้เธอเป็นคนเจ้าอารมณ์และมักหาเรื่องตบตีกับเพื่อนใน โรงเรียนอยู่เสมอ


มาลินด้า เลิฟเลส (Malinda Loveless

มาลินด้าไม่พอใจที่อแมนด้าให้ความสนิทสนมกับแชนด้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งอแมนด้ามักจะควงแชนด้าไปงานสำคัญๆเช่นงานเต้นรำและงาน เทศกาลต่างๆแทนที่จะไปกับเธอ เมื่อถึงเดือนตุลาคม 1991 มาลินด้าก็หมดความอดทน แสดงความหึงหวงอย่างออกหน้าออกตาโดยตรงไปประจันหน้ากับแชนด้าและกล่าวคำ อาฆาตต่อหน้าสาธารณชน

พ่อแม่ของแชนด้าไม่สบายใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น จึงวางแผนจะย้ายแชนด้าไปเรียนโรงเรียนคาทอลิกในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงโดย ทันที แชนด้าและอแมนด้าจึงเหมือนถูกจับให้แยกกันโดยปริยาย แต่ถึงกระนั้นอแมนด้าก็ไม่ได้หวนกลับไปคืนดีกับมาลินด้า

แก๊งแม่มด

ลอรี่ แทคเก็ต (Laurie Tackett) อายุ 17 ปี เป็นสาววัยรุ่นสมัยใหม่ รักสวยรักงามชอบแต่งเนื้อแต่งตัวเหมือนวัยรุ่นทั่วๆไป หากแต่แม่ของเธอเป็นคนหัวโบราณ เคร่งศาสนา มักจะดุด่าทุกครั้งที่ลอรี่นุ่งกางเกงยีนและบังคับให้เธอสวมเสื้อผ้าแบบ ผู้หญิงๆ


ลอรี่ แทคเก็ต (Laurie Tackett)

ลอรี่เป็นกิ๊กกับโฮป ริบเปย์ (Hope Rippey) ซึ่งมีเพื่อนสนิทคบหากันมาตั้งแต่เด็กชื่อ โทนี ลอว์เรนซ์ (Toni Lawrence) ทั้งคู่อายุ 15 ปีเท่ากัน พ่อของโฮปเคยซื้อกระดานผีถ้วยแก้ว (Ouija Board) ให้เป็นของขวัญวันเกิด โฮปจึงชวนลอรี่และโทนีมาเล่นผีถ้วยแก้ว แต่ลอรี่ไม่ได้เล่นสนุกๆเพียงแค่นั้น เธอหลงใหลและเริ่มสนใจในเรื่องไสยศาสตร์อย่างเอาเป็นเอาตาย


โฮป ริบเปย์ (Hope Rippey)         โทนี ลอว์เรนซ์ (Toni Lawrence)

วันหนึ่ง แม่ของลอรี่ตามมาพบว่าลอรี่นั่งเล่นผีถ้วยแก้วที่บ้านโฮป เธอดุด่าลูกสาวและบอกให้โฮปเอากระดานผีถ้วยแก้วไปเผาทิ้ง พร้อมกับแนะนำให้โฮปทำพิธีปัดรังควานบ้าน

ลอรี่ถลำตัวลึกลงไปในด้าน มืดเกินกว่าจะเยียวยา เธอมักจะแกล้งทำเป็นถูกปิศาจดีนน่า (Deanna the Vampire) สิงร่าง วันที่ 19 มีนาคม 1991 แม่ของเธอรู้เรื่องเข้าจึงจับตัวส่งโรงพยาบาล แพทย์ให้ยาระงับประสาทและส่งตัวกลับบ้าน แต่เพียงอีก 2 วันต่อมา ลอรี่ก็ใช้มีดเชือดข้อมือตัวเองต่อหน้าโฮปและโทนี

หลังจากถูกนำตัวไปรักษาบาดแผล ลอรี่ก็ถูกส่งตัวไปสงบสติอารมณ์ในโรงพยาบาลบ้า แพทย์วินิจฉัยว่าเธอเป็นโรคอารมณ์แปรปรวน (Borderline Personality Disorder) และให้การรักษาจนเหมือนเธอจะหายเป็นปรกติ จึงปล่อยตัวกลับบ้านในวันที่ 12 เมษายน

กำจัดศัตรูหัวใจ

มาลินด้าตามงอนง้อขอคืนดีกับกิ๊กเก่า แต่อแมนด้าเอือมระอากับนิสัยเกกมะเหรกของมาลินด้า จนถึงวันที่ 10 มกราคม 1992 มาลินด้าก็หมดความอดทน เรียกเพื่อนซี้มาประชุมวางแผนแก้เผ็ดมือที่สามที่เข้ามาแทรกตรงกลาง

คืนวันที่ 10 มกราคม 1992 มาลินด้า ลอรี่ โฮป และโทนี นัดพบกันในบ้านร้างแห่งหนึ่ง โดยทั้ง 4 คนต่างโกหกพ่อแม่ว่าไปนอนค้างคืนที่บ้านเพื่อน พวกเธอรวมหัวกันวางแผนแก้แค้นให้มาลินด้าโดยจะทำให้สาสมมากที่สุด มาลินด้าล้วงมีดทำครัวเล่มโตออกมาจากกระเป๋าถือและพูดว่าเธอจะใช้มันขู่แช นด้าให้ตกใจกลัวจนฉี่ราด

ลอรี่ผู้มีความบ้าเป็นทุนเดิมและคิดเสมอว่า ตัวเองเป็นผีดูดเลือด เห็นด้วยกับวิธีการโหดๆ มาลินด้าวางแผนให้โฮปและโทนีไปล่อแชนด้ามาที่รถ โดยให้หลอกว่าอแมนด้าส่งมารับเธอไปพบที่ “ปราสาทแม่มด” (Witches Castle) บ้านร้างที่อยู่ห่างไปไม่ไกล เนื่องจากแชนด้าไม่รู้จักโฮปและโทนี อีกทั้งพวกเธอก็อยู่ในวัยเดียวกับอแมนด้า แชนด้าน่าจะหลงเชื่อง่ายๆ

ลอรี่ ขับรถที่พ่อซื้อให้พาพรรคพวกตรงไปยังบ้านแชนด้าตั้งแต่หัวค่ำ แชนด้าบอกว่าเธอออกไปไหนไม่ได้เพราะพ่อแม่ยังไม่นอน ขอให้โฮปและโทนีกลับมารับเธออีกครั้งหลังเที่ยงคืน

 

รอเวลาเชือด

แก๊งแม่มดเดินทางไปดู คอนเสิร์ตในสวนสาธารณะเพื่อรอเวลานัด ขณะที่โฮปและโทนีเพลิดเพลินกับดนตรี มาลินด้าและลอรี่จับผู้ชาย 2 คนไปมั่วกันในรถจนได้เวลาเที่ยงคืน ทั้งหมดก็พากันกลับมาที่บ้านแชนด้าตอน 00.30 น.

โฮปและลอรี่เดินไปรับ แชนด้า ขณะที่มาลินด้าซ่อนตัวอยู่ใต้ผ้าห่มที่เบาะหลัง เมื่อแชนด้ามาถึงรถ ลอรี่บอกว่าเธอจะพาไปหาอแมนด้าที่ปราสาทแม่มด ซึ่งเป็นบ้านร้างที่มีตำนานเล่ากันว่าเป็นที่อยู่ของแม่มด 9 คนเมื่อสมัยยุคสร้างเมือง

ระหว่างเดินทาง โฮปแกล้งถามว่ารู้จักอแมนด้านานหรือยัง แชนด้าตอบว่าเธอควงอแมนด้าอยู่พักหนึ่งและชอบพอเธอมาก ทันทีที่มาลินด้าได้ยินคำตอบเธอก็ลุกพรวดขึ้นมาจากที่ซ่อน จิกผมแชนด้าจนหน้าหงายแล้วเอามีดจ่อที่คอหอย

แชนด้าร้องเสียงหลงด้วย ความตกใจ ขณะที่คนทั้งสี่รุมกันด่าว่าต่างๆนานา เมื่อลอรี่ขับรถมาถึงปราสาทแม่มด มาลินด้าและลอรี่ก็ช่วยกันลากตัวแชนด้าลงจากรถ โฮปและโทนีช่วยกันจับขาไม่ให้แชนด้าดิ้นหลุด ลอรี่นำเศษผ้ามาก่อไฟและขู่แชนด้าว่านี่คือสถานที่ที่เธอจะไปก่อนรุ่งสาง

ปราสาท แม่มดอยู่ใกล้กับถนนใหญ่ มีรถยนต์วิ่งผ่านเป็นระยะๆ โฮปและโทนีเริ่มใจคอไม่ค่อยดี แนะนำให้ย้ายไปสถานที่แห่งอื่น ลอรี่จึงลากตัวแชนด้าขึ้นรถอีกครั้งและขับพาไปยังถนนเปลี่ยวในเมืองเมดิสัน ใกล้กับบ้านพ่อที่เธอมาอาศัยอยู่ด้วยหลังจากออกจากโรงพยาบาลบ้า

คืนทรมาน

เมื่อถึงที่หมายมาลินด้าและลอรี่ช่วยกันลากตัวแชนด้าลงจากรถ มาลินด้าสั่งให้แชนด้าถอดเสื้อผ้าออกจนเปลือยเปล่าล้อนจ้อน มันเป็นคืนที่อากาศหนาวเย็น โฮปและโทนีขอตัวไปหลบลมหนาวในรถขณะที่มาลินด้าและลอรี่สนุกสนานกับการทรมาน แชนด้า

ลอรี่ทำหน้าที่จับตัวแชนด้าให้อยู่นิ่งๆขณะที่มาลินด้าทำการตบ สั่งสอน แชนด้าร้องด้วยความกลัวและเจ็บปวด เธอรับปากว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับอแมนด้าอีก มาลินด้ารวบรวมกำลังและปล่อยหมัดฮุคเข้าที่ท้องแชนด้าสุดกำลังจนเธอทรุดลงไป กองกับพื้น มาลินด้าจิกหัวแชนด้าขึ้นมาตีเข่าหลายต่อหลายครั้งจนเลือดกบปาก

มาลินด้าบ้าเลือดไปแล้ว เธอคว้ามีดที่นำมาด้วยเชือดคอแชนด้า แต่มีดทื่อมากจนฉือนไม่เข้าเนื้อ โฮปกระโดดลงมาจากรถเพื่อช่วยจับตัวแชนด้า มาลินด้าใช้เท้าช่วยกดสันมีดแต่มันก็ทื่อเกินกว่าจะทำให้เกิดบาดแผล มาลินด้าโมโหและเปลี่ยนมาใช้มีดแทงเข้าที่หน้าอกแชนด้า

บาดแผลไม่รุนแรงพอที่จะทำให้แชนด้าเสียชีวิต ลอรี่วิ่งกลับไปเอาเชือกที่รถมารัดคอแชนด้า มาลินด้าจับขาไม่ให้ดิ้นขณะที่ลอรี่นั่งทับหน้าอกเอาเชือกรัดคอแชนด้าจน กระทั่งเธอไม่กระดุกกระดิก จากนั้นพวกเธอก็ช่วยกันนำร่างแชนด้าใส่ท้ายรถ ขับตรงมายังบ้านลอรี่

โคตรเหี้ยม

ลอรี่พาเพื่อนขึ้นไปบนห้องนอน เธอทำพิธีโยนหินดูดวง ลอรี่ทำนายว่าดวงกำลังขึ้น ทันใดนั้นเองอยู่ดีๆสุนัขก็เห่าหอนขึ้นมา ลอรี่ชะโงกออกไปดูนอกหน้าต่าง เธอได้ยินเสียงแชนด้าร้องขอความช่วยเหลือ ลอรี่รีบวิ่งลงไปที่ครัวหยิบมีดเล่มใหญ่และตรงไปที่รถ ลอรี่เปิดกระโปรงท้ายรถแล้วใช้มีดเล่มนั้นกระหน่ำแทงแชนด้าหลายครั้งจนเธอ แน่นิ่ง

“เราต้องกำจัดมัน” ลอรี่บอกกับเพื่อนๆ แต่คราวนี้โฮปและโทนีปฏิเสธที่จะร่วมมือ ลอรี่จึงขับรถออกไปพร้อมกับมาลินด้าเพียง 2 คน ระหว่างเดินทาง ลอรี่หยุดรถเพื่อตรวจดูว่าแชนด้าตายหรือยัง ทันทีที่เปิดกระโปรงท้ายรถ แชนด้าก็ลุดพรวดขึ้นนั่งทั้งๆที่มีเลือดท่วมตัว ตาเธอกลอกไปมาเหมือนไม่ได้สติ ริมฝีปากขยับแผ่วเสียงออกเบาๆ “แม่จ๋า” ลอรี่ตกใจ คว้าเหล็กถอดล้อกระหน่ำฟาดลงบนศีรษะแชนด้าและรีบปิดกระโปรงท้ายรถ

ลอรี่ ขับรถไปจนถึงถนนสายเปลี่ยว พลันเธอก็ได้ยินเสียงดังขึ้นมาจากท้ายรถ ลอรี่หยุดรถและลงไปเปิดกระโปรงท้ายอีกครั้ง แชนด้านอนแน่นิ่งเลือดท่วมตัว เธอพยายามพูดอะไรบางอย่างแต่ไม่มีเสียงใดหลุดรอดออกมาจากปาก ลอรี่คว้าเหล็กถอดล้อมากระหน่ำตีแชนด้าจนกะโหลกร้าว มันเป็นเวลาใกล้รุ่งสาง ลอรี่เปลี่ยนใจขับรถกลับบ้านโดยวางแผนจะเผาร่างของแชนด้าบริเวณที่เปลี่ยว ข้างทาง

เผาทั้งเป็น

ลอรี่และมาลินด้ากลับมารับโฮปและโทนีก่อน จะพากันไปซื้อน้ำมันเบนซินใส่ขวดน้ำอัดลม 2 ขวด ลอรี่ขับรถไปยังถนนสายเปลี่ยว เธอและมาลินด้าช่วยกันลากแชนด้าลงจากท้ายรถ โฮปใช้น้ำมันเบนซินที่เพิ่งซื้อมาราดทั่วตัวแชนด้าซึ่งดูเหมือนเธอจะยังไม่ เสียชีวิตเพราะอวัยวะบางส่วนยังคงกระดุกกระดิก ลอรี่เป็นคนจุดไฟเผาร่างแชนด้า

กลุ่มฆาตกรพากันขึ้นรถกลับบ้านโดยแวะ กินอาหารเช้าระหว่างทางที่ร้านฟาสต์ฟู้ดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังจากกลับถึงบ้านโฮปสติแตกเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้พ่อแม่ฟัง ขณะเดียวกันนั้นเองมีคนพบศพแชนด้าและได้แจ้งเรื่องให้ตำรวจทราบ

ฆาตกร และผู้สมรู้ร่วมคิดยอมรับสารภาพเพื่อบรรเทาโทษ มาลินด้า ลอรี่ และโฮป ถูกตัดสินจำคุก 60 ปี โทนีถูกตัดสินจำคุก 20 ปี เธอได้รับการลดหย่อนโทษเพราะความประพฤติดี ถูกปล่อยตัวในปี 2000 และโฮปได้รับการปล่อยตัวในปี 2006 ส่วนมาลินด้าและลอรี่ไม่ได้รับสิทธิพิจารณาการลดหย่อนโทษจนกว่าจะถึงปี 2020




แม่ของแชนด้ากล่าวติเตียนระบบกฎหมาย โดยเฉพาะกรณีที่ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวโฮปก่อนเวลา เพราะเธอเป็นคนที่ลงมือราดน้ำมันลงบนตัวแชนด้า ซึ่งหมายถึงเธอเป็นเหมือนคนที่ลงมือสังหาร ขณะเดียวกันทนายของมาลินด้ากำลังดำเนินเรื่องเพื่อขอให้ศาลลดหย่อนโทษ ชาวบ้านที่ทราบข่าวได้รวมตัวกันล่าลายชื่อได้มากเกือบหมื่นรายชื่อเพื่อ เรียกร้องให้ศาลไม่รับพิจารณาคำร้องของทนายจำเลย

ที่มา : นิตยสารโลกวันนี้วันสุข ปีที่ 5 ฉบับที่ 232 วันที่ 7-13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 หน้า 42 คอลัมน์ ร้ายสาระ โดย ศิลป์ อิศเรศ

 

Credit: http://www.mythland.org/v3/thread-1953-1-1.html
29 พ.ย. 54 เวลา 15:13 7,527 5 100
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...