เล่าเรื่องเมืองอินเดีย รุ้จักคนแขกให้มากขึ้นกว่าเดิม

เล่าประสบการณ์เด็กนอก
บทความนี้ โพสโดย

พี่เป้
เล่าเรื่องเมืองอินเดีย รู้จักคนแขกให้มากขึ้นกว่าเดิม ไปเรียนภาษาที่บังกาลอร์ แม้เป็นช่วงสั้นๆ แต่ก็ได้อะไรเพียบ Post : 24 พฤศจิกายน 2554 , View : 2,914 Tag : เรียนนอก, อินเดีย, บังลากอร์, ภาษา, india
เก็บบทความนี้ไว้ใน My.iD | พิมพ์บทความนี้
window.___gcfg = {lang: 'th'}; (function() { var po = document.createElement('script'); po.type = 'text/javascript'; po.async = true; po.src = 'https://apis.google.com/js/plusone.js'; var s = document.getElementsByTagName('script')[0]; s.parentNode.insertBefore(po, s); })();

 

สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com .... เจอกับ พี่เป้ และเล่าประสบการณ์เด็กนอกทุกๆ วันพฤหัสเช่นเคย ^^ สำหรับเรื่องที่นำมาฝากวันนี้ มาจากประเทศที่ไม่ใกล้ไม่ไกลนี่แหละค่ะ นั่นก็คือ "อินเดีย" กับประสบการณ์การไปเรียนภาษา 1 เดือน แต่ก็ได้อะไรกลับมาเยอะแยะ ถ้าอยากรู้ว่าจะน่าสนใจมากน้อยแค่ไหน ก็เลื่อนลงไปอ่านได้เลยจ้า

 

สวัสดีค่ะ ชื่อ "กวาง" นะคะ ศึกษาอยู่มัธยมปลายชั้นปีที่ 4 ที่โรงเรียนราชวินิตมัธยม วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ช่วงปิดเทอมจากอินเดีย ที่เมืองบังกาลอร์ ที่เคยไปเรียนภาษามาค่ะ

บังกาลอร์ เป็นเมืองที่เจริญนะคะ เป็นเมืองซอฟต์แวร์ หลายบริษัทส่วนมากจะมาลงทุนที่เมืองนี้ค่ะ และอากาศที่นี่จะดีมากๆ ด้วยค่ะ ตอนเย็นจะหนาวมากๆ ถ้าตอนบ่ายจะไม่ร้อนมากเท่ากับไทย ถ้ายิ่งหลังฝนตก อากาศจะดีมากๆ ค่ะ เวลานอนแทบไม่ต้องพัดลมเลยค่ะ หนาวมากๆ

เรื่องความสะอาด ทุกคนคงคิดว่ามันสกปรกมากๆ แต่จริงๆ แล้วอินเดียโดยรวมก็สกปรกจริงๆ ค่ะ (ความเห็นส่วนตัวนะคะ) แต่เมืองที่กวางอยู่ พวกพี่คนไทยเขาบอกว่ามันสกปรกน้อยที่สุดในอินเดียแล้ว บางทีเดินไปทางไหนจะเจอแต่กองขยะค่ะ คนที่นี่เขาถือว่าทุกที่เป็นถังขยะ จะทิ้งตรงไหนก็ได้ ไม่มีใครว่าเลยค่ะ แต่ถึงจะมีข้อเสียเรื่องความสะอาด แต่มีข้อดีตรงที่นี่เขามีกฎว่า ห้ามใครก็ตามตัดต้นไม้ ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ชนิดไหน ก็ห้ามตัดเลยค่ะ ถึงแม้ว่ามันจะงอกอยู่หน้าบ้านเรา ต้นใหญ่ๆ เราก็ตัดไม่ได้เลย เพราะเมืองนี้เขาขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งสวยเลย เขาเลยอนุรักษ์ต้นไม้ไว้ หันไปทางไหนก็จะเจอต้นไม้ใหญ่ๆ เต็มไปหมด


ส่วนนิสัยของคนอินเดียที่นี่ กวางว่านิสัยคนที่นี่สู้บ้านเราไม่ได้ โดยเฉพาะตอนขับรถนี่ไม่มีน้ำใจให้กันเลย เวลาใครจะข้ามถนนนะคะ เขาจะไม่หยุดให้แต่จะเร่งขับรถให้เร็วกว่าเดิมด้วย เขาจะหยุดให้ต่อเมื่อจะติดไฟแดงเท่านั้นค่ะ แต่ยังไงก็ตาม กวางว่าคนอินเดียค่อนข้างเฟรนด์ลี่นะคะ บางทีเขาเห็นเราเป็นคนต่างชาติ เขาก็เข้ามาคุยมาถาม กวางจะโดนถามบ่อยมากๆ แถมเขาจะพาไปเที่ยวด้วย อีกอย่างคือคนอินเดียพูดภาษาอังกฤษได้ทุกคนเลย แต่สำเนียงก็จะแปลกๆ ตามสไตล์อินเดียค่ะ แต่ก็มีนะคะที่บางคนสำเนียงดีมากๆ พูดชัดมากๆ พวกนี้ก็จะเป็นพวกครูสอนภาษาไม่ก็พวกนักศึกษาค่ะ ส่วนความเป็นอยู่ของคนที่นี่ คนส่วนมากจะตื่นสาย เวลาไปทำงานเขาจะตื่นกัน 8 โมง ข้าวเช้าจะกินกันประมาณ 9โมงกว่าๆ ทานข้าวเที่ยงอีกทีบ่าย 3 ส่วนข้าวเย็นทานกันประมาณ 3 ทุ่มค่ะ


มาถึงเรื่องเรียนบ้าง กวางเรียนภาษาที่ The Career Collage ที่นี่จะมีพวกซาอุดิอาระเบีย อิหร่าน อาหรับ และไทย โดยจะเรียนวันละ 4 ชั่วโมง เรียน Vocabulary , Read and Writing , Grammar และก็ Group Class เพื่อนแต่ละคนก็ อายุมากกว่ากวางอีก กวางไปเรียนที่นั่นคืออายุน้อยสุดในโรงเรียนเลย 55555 และครูที่นี่เฟรนด์ลี่มากๆ พอบอกว่ามาจากไทย เค้าก็จะเอ็นดูเรามากๆ เลยค่ะ

เรื่องการพักอยู่อาศัย กวางจะอยู่หอหญิงค่ะ จะนอนห้องละ 2 คน และใช้ห้องน้ำรวม แต่ใช้คู่กับ roommate และก็จะมีห้องครัวรวมด้วย ตอนแรกที่มาก็ยังไม่มีเพื่อน พอไปอยู่ในหอ ก็เริ่มรู้จักเพื่อนอินเดีย คนแรกชื่อลาเวนลา เขาทำงานเกี่ยวกับแบงค์ เขาทำอาหารอินเดียให้เราทาน คือโรตีกับผักอะไรไม่รู้ค่ะ รสชาติกินแรกๆ จะแปลกๆ ถ้ากินกับแกงไก่จะอร่อยมากๆ แล้วมีอยู่วันนึง เขาเห็นเราทานมาม่าบ่อย เขาเลยห้ามเราทาน เขาบอกว่ามันไม่ดีต่อสุขภาพ แต่กวางก็แอบกินบ่อยๆ นะตอนเขาไม่อยู่ 5555


เรื่องของกินนี่ไม่ต้องกลัวผอมลงหรืออดเลยค่ะ เพราะของกินที่นี่อร่อย อาหารที่กวางชอบมากๆ คือ Chicken Briyani อร่อยมากๆ เป็นข้าวหมกไก่เหมือนบ้านเราค่ะ แต่รสชาติจะต่างมากๆ เขาจะให้ข้าวเราเยอะมากๆ จานนึงกินได้สามคนเลยค่ะ แต่คนที่นี่เค้ากินหมด 555 แรกๆ กวางเห็นข้าวแล้วตกใจ ทำไมให้เยอะมาก มาแรกๆ กินไม่หมด หลังๆ อยู่ไปนานๆ ท้องขยาย เลยทานเกือบหมด ส่วนของหวาน กวางจะทานแต่เค้กค่ะ เพราะเค้กที่นี่ไม่แพงแถมน่ากินด้วย พวกนมเนยจะถูกมากๆ น้ำหนักเลยขึ้นด้วยค่ะ 555 อีกอย่างที่แนะนำคือข้าวโพดต้ม รสชาติจะไม่เหมือนบ้านเรา เพราะที่อินเดียจะเปรี้ยวๆ เผ็ดๆ ค่ะ กวางลองครั้งแรก ทำไมเผ็ดขนาดนี้ เพราะเขาจะราดน้ำมะนาวกับผงที่มันเผ็ดๆ

อีกเรื่องที่อยากเล่าคือเรื่อง "รถออโต้" เหมือนตุ๊กตุ๊กบ้านเรา แต่ที่นั่งจะไม่กว้างเท่าบ้านเรา อยู่ที่นี่ไม่ต้องกลัวโดนโกงค่าโดยสารเลยค่ะ เพราะเขามีมิเตอร์ราคาไม่แพงด้วย จะเริ่มต้นที่ 17 รูปี ก็ประมาณ 10 บาทค่ะ แต่มันจะแพงตอนกลางคืน ถ้าเราอยากได้ราคายุติธรรม ต้องให้ตำรวจเขียนบิลให้ค่ะ หรือเราจะต่อรองราคาเองก็ได้ กวางมาที่นี่ส่วนมากจะพูดต่อรองกับคนขับออโต้บ่อยมากๆ ฝึกภาษาไป นอกจากนี้ เวลาจะบอกทางไปไหนกับออโต้ เราก็ต้องทำสำเนียงอินเดียค่ะ ไม่งั้นเขาจะงง เราก็ต้องกระดกลิ้นบางคำ บางทีกวางก็เมื่อยลิ้นนะ 5555555 มีครั้งหนึ่ง จำได้ขึ้นใจเลยค่ะ พอดีมาเดินเล่นกับคนไทย แล้วตอนนั้นก็เย็นแล้ว ค่าออโต้น่าจะแพง เลยไปให้ตำรวจเขียนบิลให้ ระยะทางที่กลับหอราคาน่าจะประมาณ 53 รูปี เลยให้ตำรวจเขียนบิลให้ ก็งงว่าทำไมเค้าเขียนให้แค่ 32 รูปี พอขึ้นรถ คนขับก็พาหลง พอถึงที่หมายปรากฏว่าเค้าจะเอา 100 รูปี แล้วเค้าพูดภาษาอังกฤษไม่เก่ง เถียงกันไม่รู้เรื่อง สรุปต้องให้เค้าไป 90 รูปี วุ่นวายมากวันนั้น

มีอีกเรื่องที่อยากจะเล่าค่ะ คือเทศกาลของอินเดียคือ เทศกาล Diwali Day เป็นวันฉลองของเทพเจ้าอินเดียค่ะ จะเป็นวันหยุดประมาณ 3 วัน เทศกาลนี้ทำให้กวางและคนอินเดียแทบไม่ได้นอนค่ะ เพราะเขาจะจุดพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟ จุดกันแบบ 3 วัน 3 คืนเลยค่ะ ดังมากๆๆๆ จุดแบบไม่ได้หลับไม่ได้นอน จุดกันทั่วประเทศ ดังกว่าตรุษจีนบ้านเราซะอีก


สำหรับความประทับใจจากการที่มาอยู่ที่นี่ คือการที่ได้เจอเพื่อนจากประเทศอื่นๆ ได้มาเจอความหลากหลาย บางคนอาจจะมองว่าคนอินเดียน่ากลัว ดูโหดๆ แต่จริงๆ เขาใจดีและเฟรนด์ลี่มากๆ นอกจากนี้ยังทำให้เราได้เห็นสิ่งแปลกๆ ที่ไม่เคยเห็น วัฒนธรรมที่แตกต่าง อาหาร ผู้คน ความเป็นอยู่ สุดท้ายอยากฝากว่า อยากให้เพื่อนๆ ลองมาอินเดียซักครั้งในชีวิต การมาครั้งนี้ทำให้กวางกล้าพูดภาษาอังกฤษมากขึ้นค่ะ ค่าใช้จ่ายก็ไม่แพงด้วย


เห็นด้วยมากๆ ว่า ครั้งหนึ่งในชีวิตจะต้องไปพิชิตอินเดียให้ได้ พี่เป้ เองก็เล็งอยากไปเหมือนกันนะ ฮ่าๆๆ ... ส่วนใครมีประสบการณ์เด็กนอกสนุกๆ อยากแบ่งปันเพื่อนๆ บ้าง ก็ส่งมาได้เหมือนเดิมที่ pay@dek-d.com แล้วเจอกันจ้า

Credit: เด็กดีดอดคอม
27 พ.ย. 54 เวลา 07:35 4,493 2 50
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...