แฉ 4 ปัญหาใหญ่ ที่มักเกิดขึ้นในไฮสคูลอเมริกา

แฉ 4 ปัญหาใหญ่ ที่มักเกิดขึ้นในไฮสคูลอเมริกา อ่านไว้ จะได้ทำใจหากเจอของจริง ! Post : 22 พฤศจิกายน 2554 , View : 6,141 Tag : เรียนนอก, มัธยม, ไฮสคูล, เหยียดเชื้อชาติ, racist
เก็บบทความนี้ไว้ใน My.iD | พิมพ์บทความนี้
window.___gcfg = {lang: 'th'}; (function() { var po = document.createElement('script'); po.type = 'text/javascript'; po.async = true; po.src = 'https://apis.google.com/js/plusone.js'; var s = document.getElementsByTagName('script')[0]; s.parentNode.insertBefore(po, s); })();

 

สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com .... ช่วงนี้มีน้องๆ หลายคนที่เตรียมตัวจะไปแลกเปลี่ยนที่อเมริกา กังวลเกี่ยวกับการเตรียมตัว รวมถึงแอบหวั่นๆ ว่า ชีวิตในไฮสคูลที่นั่นจะเป็นยังไงบ้าง จะเจอปัญหาอะไรมั้ย ? ..... เพราะฉะนั้นวันนี้ พี่เป้ ขอนำเรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับปัญหาหลักๆ ที่มักเกิดขึ้นในไฮสคูลที่อเมริกามาฝากค่ะ เชื่อเถอะว่า ต้องเจอปัญหาต่อไปนี้ชัวร์ๆ ไม่มากก็น้อยแหละ !!

 


RACISM (การเหยียดเชื้อชาติ)

จริงๆ แล้วเรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหาที่เกิดเฉพาะในอเมริกา แต่เกิดในทวีปอเมริกาเหนือและยุโรปตะวันตกค่ะ ซึ่งบุคคลหลักๆ ที่มักจะโดนเหยียดเรื่องเชื้อชาติอันดับแรกๆ ก็คงไม่พ้น "คนผิวสี(ดำ)" ที่มาจากประเทศในทวีปแอฟริกา รองลงมาก็เป็นพวกชาวเอเชียหัวดำๆ ผิวเหลืองๆ แบบพวกเรานั่นเองค่ะ ซึ่งบางคนก็โดนตั้งแต่เรื่องเล็กๆ เช่น ไปซื้อข้าวแต่กลับถูกพนักงานซึ่งเป็นฝรั่งผิวขาวมองด้วยหางตา หรือบางทีขึ้นรถบัสแล้วไปนั่งใกล้ๆ ฝรั่งผิวขาว เจ๊แกก็ทำหน้าขยะแขยงแล้วลุกไปนั่งที่อื่น แสดงออกอย่างชัดว่ารังเกียจ ..... โดยเฉพาะคนผิวสีนี่น่าเห็นใจมากค่ะ เพราะในอดีตนั้น พวกเค้ามาขายแรงงานเป็นทาส จนมีลูกมีหลานและขยายเผ่าพันธุ์ไปเรื่อยๆ ในประเทศอเมริกาหรือยุโรปตะวันตก ทำให้ถูกฝรั่งผิวขาวมองว่าเป็นพลเมืองชั้นสอง ส่วนพวกคนเอเชียแบบพวกเรา ก็มักถูกมองว่าเป็นพวกต่างด้าวที่เข้ามาอาศัยในประเทศของเค้า

บางคนอาจมองว่า RACISM เป็นเรื่องเล็ก แต่บางทีก็กลายเป็นเรื่องใหญ่จนกลายเป็นประเด็นน่ากลัว เช่น การสังหารหมู่อย่างที่เคยเป็นข่าวดังไปทั่วโลกก็คือเรื่องของ หนุ่มเกาหลีชื่อ โซ ซึง ฮุย ที่สังหารหมู่เพื่อนนักศึกษาไปกว่า 30คน โดยเพื่อนตอนมัธยมของโซ ซึง ฮุยเล่าให้นักข่าวฟังว่า ตอนเรียนมัธยม โซ ซึง ฮุย ถูกครูเรียกให้ออกไปพูดหน้าชั้นแต่กลับโดนเพื่อนฝรั่งผิวขาวในชั้นโห่ไล่จนทำให้อับอายขายขี้หน้ามากๆ จนมีความกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นเอง น่ากลัวนะนี่

แต่ว่ากันว่า ในอเมริกานั้น หากเราถูกเหยียดเชื้อชาติหรือสีผิว เราสามารถแจ้งตำรวจได้นะคะ แต่ก็ไม่ค่อยมีใครอยากไปแจ้งเท่าไหร่ เพราะต้องมีพยานมีผู้รู้เห็นเหตุการณ์ถึงจะเอาเรื่องได้ ค่อนข้างวุ่นวาย ส่วนมากจึงปล่อยเลยตามเลยไป หึหึ ..... หรือแม้แต่ผู้หญิงไทยอย่างเราก็โดนเหมือนกันค่ะ มีน้องคนหนึ่งเล่าว่า เคยไปเที่ยวผับ แล้วมีผู้ชายฝรั่งอย่างหล่อเลย ยักคิ้วหลิ่วตาให้ประมาณว่า เดี๋ยวต้องเข้ามาขอเบอร์แน่ๆ และซักพัก ผู้ชายคนนั้นก็เข้ามาคุยด้วยจริงๆ ค่ะ โดยทักว่า "Are you Japanese?" (เพราะน้องเค้าผิวขาวมาก) แต่พอน้องตอบไปว่า I'm Thai..... เท่านั้นแหละ ฝรั่งสุดหล่อก็เดินจากไป .... คงไม่ต้องเล่าต่อนะคะว่า ภาพลักษณ์ผู้หญิงไทยที่ทำให้ฝรั่งบางคนเหยียดเชื้อชาติเรา เป็นเพราะเรื่องอะไร ?

 


DISCRIMINATION (การแบ่งแยก , การเลือกปฏิบัติ)

คำนี้จะมีความหมายคล้ายๆ RACISM แต่จะต่างกันตรงที่ว่า DISCRIMATION นั้นอาจจะเกิดจากเรื่องเชื้อชาติหรือเรื่องอื่นๆ ก็ได้ เช่น อายุ เพศ ศาสนา

- เพศ .... ถ้าเป็นเรื่องเพศ ก็คงไม่พ้นเพศหญิงหรือเพศที่สาม (เกย์อาจจะโดนเยอะเป็นพิเศษ) เช่น นักเรียนชายคนหนึ่งเปิดเผยตนว่าเป็นเกย์ อาจถูกเพื่อนๆ บีบออกจากกลุ่ม ไม่คุยด้วย นั่งกินข้าวแยก มองเป็นตัวประหลาด ..... แต่สำหรับเมืองไทย เรื่องนี้ถือว่าเปิดกว้างมากจริงๆ ค่ะ เพราะถ้าใครมีเพื่อนเป็นเพศที่สามนี่ถือว่าลัลล้ามากๆ เพราะพวกเขานี่แหละมักเป็นคนสร้างสีสันให้แก่กลุ่ม

- ศาสนา .... เช่น สมมติเจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นคนที่เคร่งศาสนา(คริสต์)มากๆๆๆ เมื่อมีคนมาสมัครเป็นพนักงานร้านแต่เป็นมุสลิม เจ้าของร้านอาหารกลับปฏิเสธไม่รับเพราะไม่ใช่คริสเตียนเหมือนกัน เรื่องแบบนี้ก็มีนะคะ ทำเป็นเล่นไป

- อายุ .... เช่น ที่อเมริกามีกฎหมายซึ่งประกันให้ผู้มีอายุ 40-70 ปี มีโอกาสในการทำงานทัดเทียมกับคนอื่นโดยไม่ถูกกีดกันในเรื่องอายุ


 

BULLY IN SCHOOL (อันธพาลในโรงเรียน)

พวกนี้หลักๆ ส่วนมากเป็นพวกที่ไม่อยากเรียนหนังสือ ไม่อยากไปโรงเรียน (แต่ต้องไป) ดังนั้นจึงพยายามทำตัวกวนประสาทหรือขวางโลก ชอบรังแกคนอื่น ชอบด่าคนอื่นอะไรทำนองนี้ค่ะ ขอยกเรื่องของ "น้อง N@NNiE" ซึ่งอยู่ที่ฟลอริด้าและเคยโพสลงในเว็บบอร์ดมาให้อ่านละกันนะคะ

"ในประเทศอเมริกานั้น ถ้าใครอยู่โรงเรียน high school ดีๆ หน่อยก็จะดีไป เพราะจะไม่ค่อยมีพวก bully มากนัก ในอเมริกานี้เด็กจะต่อยตีกันและแกล้งกันในกลุ่มเป็นเรื่องปกติมาก คือต่อยกันแทบทุกวัน ใครข่มใครได้ก็ข่มไป !

ในอเมริกาเด็กที่ high school นี่จำเป็นมากที่จะต้องใส่เสื้อผ้าที่ดีที่สุด ถ้าถามว่าทำไม ? ก็บอกได้เลยว่ามันจำเป็น ! คือที่อเมริกาเขาจะมีบางอย่างที่เรียกว่า "respect" คือการนับถือ (การที่เห็นว่าดีเราดีเราเจ๋ง) การแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าแพงๆ เพื่อจะให้ได้ "respect" นี้เป็นเรื่องปกติ ถ้าใครใส่เสื้อผ้าถูกๆ จะ "lose respect" คือคนในโรงเรียนจะเห็นว่าเราไม่เจ๋ง ก็จะโดนกลั่นแกล้งและไม่มีใครคบในที่สุด ตอนนั้นร้านขายรองเท้าแห่งหนึ่งในรัฐ Florida ได้ชื่อว่าเป็นร้านหนึ่งที่ขายรองเท้าราคาถูกที่สุด มีชื่อว่า Payless ShoeSource ถ้าใครไปซื้อรองเท้าร้านนั้นก็จะโดนกลั่นแกล้ง โดนซ้อม โดนปานู่นปานี่ใส่ โดนยิง (ด้วยหนังสติ๊ก) และก็จะถูกถามว่า "Are you poor?" (นายจนมากหรือไง?)

ที่นั่นไม่เหมือนที่เมืองไทย คือใครมองแล้วแกล้งได้ ต้องรีบแกล้ง สรุปคือเราต้องแต่งตัวให้ดูดีที่สุดเพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเป้าหมายของพวก bully ถ้าใส่สูทไปโรงเรียนได้ก็ใส่เลย ! เพราะอย่างนี้วัยรุ่นที่นั่นจึงต้องหางานพิเศษทำ และยอมทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้เสื้อผ้าเท่ๆ แพงๆ มา ถ้าซื้อเสื้อแล้วยี่ห้อดีๆ แล้ว ก็จะยิ่งดีกว่าถ้าเสื้อตัวนั้นมีชื่อยี่ห้อโชว์หราอยู่บนเสื้อ แต่ถ้าไม่มียี่ห้อติด เด็กที่นั่นก็อาจจะไม่แกะป้ายราคาออกเลย เพราะที่ป้ายราคาจะมีชื่อยี่ห้ออยู่"

 


SEX IN SCHOOL (เพศสัมพันธ์ในวัยเรียน)

ในประเทศตะวันตกนั้น มักมีเสรีหรืออิสระกันในเรื่องพวกนี้ ถือเป็นเรื่องธรรมดาเพราะมนุษย์ทุกคนมีความต้องการทางเพศ (ฟังดูน่าขนลุก) ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจที่เห็นเด็กอายุแค่ 13-14 แต่เคยมีเพศสัมพันธ์กันแล้ว แต่บางคู่ก็กลับไม่รู้จักป้องกัน ดังนั้นทำให้เกิดปัญหาตามมา เช่น การตั้งครรภ์ การทำแท้ง ซึ่งจริงๆ ปัญหานี้ก็เกิดในบ้านเราเหมือนกันค่ะ ก็ไม่รู้ว่าใครเลียนแบบใคร เหอะๆ .... ขอยกตัวอย่างไฮสคูลในแคนาดาจากประสบการณ์ของ "น้องหมูหวาน" มาให้อ่านค่ะ

"ในโรงเรียนสห เรื่องกุ๊กกิ๊กของผู้หญิงกับผู้ชายก็มีให้เห็นกันเป็นเรื่องธรรมดาค่ะ บางทีเดินๆ อยู่ดีๆ ก็ได้ชมฉาก 'เลิฟซีน' อยู่บ่อยๆ มีตั้งแต่แบบหวานๆ น่ารักๆ ไปจนถึงแบบฮาร์ดคอร์ อารมณ์ไฟรักอสูรก็ไม่ปาน [ละครเก่าไปไหน? ฮ่าๆ] มีอยู่วันหนึ่ง หมูหวานเดินกลับบ้านกับเพื่อน แล้วทีนี้ไม่รู้ว่านึกอะไร อยากลองเดินไปทางป่าหลังโรงเรียน ก็เดินไปกันกับเพื่อน แล้วทีนี้ก็เห็นรุ่นพี่สองคนกำลังกอดจูบกันอย่างดูดดื่มอยู่หลังดงต้นไม้ค่ะ! O[]O! พูดถึงเรื่องเพศแล้ว ในห้องน้ำหญิงนอกจากจะมีตู้ขายผ้าอนามัย ยังมีอีกตู้หนึ่งค่ะสำหรับถุงยางอนามัย [หลายๆ คนคงโห่อย่างรับไม่ได้กันเลยทีเดียว] แต่หมูหวานว่ามันเป็นเรื่องดีนะคะ อย่างน้อยก็ทำให้นักเรียนรู้จักที่จะป้องกันตัวเอง"

หลายคนอาจจะมองว่า การแจกถุงยางอนามัยหรือการมีตู้กดถุงยางอนามัยนั้นถือเป็นเรื่องดี เด็กจะได้รู้จักป้องกันตัวเอง แต่มองอีกแง่ ก็เหมือนเป็นการชี้โพรงให้กระรอกมากๆ ประมาณว่า อยากมีเพศสัมพันธ์ก็มีไป เพราะยังไงโรงเรียนก็มีถุงยางแจก .... เรื่องแบบนี้พูดยากค่ะ ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกล้วนๆ

 

นั่นก็คือ 4 ปัญหาใหญ่ๆ ที่ต้องได้เจอแน่ๆ ไม่ว่ากับตัวเองหรือคนรอบข้าง ขอแนะนำว่าถ้าทนไหวก็ทน แต่ถ้าทนไม่ไหวจริงๆ ให้ลองปรึกษาคนรอบข้างว่าควรรับมือยังไงดี เพราะถ้าเก็บ(กด)ไว้คนเดียว กลัวจะเป็นเหมือนโซ ซึง ฮุย = =" ว่าแต่มีใครเคยเจอปัญหาอะไรในโรงเรียนบ้างคะ ลองมาเล่าให้ฟังได้ที่คอมเม้นท์ด้านล่างเลยค่ะ

 

Credit: เด็ดดีด็อดคอม
24 พ.ย. 54 เวลา 07:27 3,630 3 40
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...