10 อันดับถนนหลอน ถ้าซํ้าก็ขอโทษด้วยนะ

ในตอนกลางคืนที่เงียบเหงา คุณอาจจะขับรถไปผิดทาง (หรือว่าถูก ?) ซึ่งบางครั้งมันก็พาคุณไปพบกับบางสิ่งบางอย่างที่คุณไม่คาดคิด ถนน 10 สายต่อไปนี้ จากคำบอกเล่าต่างๆ แล้ว ดูเหมือนมันจะเป็นมากกว่าเส้นทางที่ใช้ขนส่งสินค้านะ





10. A75 Kinmont Straight – South West Scotland

เป็นเวลามากกว่า 50 ปีแล้วที่ถนนเส้นนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของความหลอน บันทึกเกี่ยวกับปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติทีเกิดขึ้นบ่อยครั้งนั้นเพียงพอสำหรับฉายาของถนนเส้นนี้ โดยถนนเส้นนี้ได้รับฉายาว่า โกส์โรด (Ghost Road) ว่ากันว่าเป็นถนนสายที่หลอนที่สุดในสก็อตแลนด์และมีบันทึกเกี่ยวกับการพบเห็นสิ่งแปลกประหลาดหลายร้อยเหตุการณ์ ตัวอย่างเช่น ในปี 1957 คนขับรถบรรทุกคนหนึ่งขับรถชนคนคู่หนึ่ง แต่เมื่อเขาลงมาดูคนเจ็บกลับไม่พบใครเลยแม้แต่คนเดียว

















9. Kelly Road – Ohioville, Pennsylvania

ช่วงหนึ่งของถนนเคลลี่ (Kelly Road) ที่มีความยาวเพียง 1 ไมล์ ในเมืองโอไฮโอวิลล์, เพนซิลวาเนีย เป็นพื้นที่ที่มีบันทึกเกี่ยวกับเหตุการณ์แปลกประหลาดมากมาย รายงานดังกล่าวมักกล่าวว่า เมื่อสัตว์ผ่านเข้าไปในช่วงถนนดังกล่าวจะมีท่าทีปลี่ยนไป คือ จากที่ดูเป็นมิตรกลับแสดงอาการก้าวร้าว (เหมือนเรื่อง Cujo: วรรณกรรมสยองขวัญที่เขียนโดย สตีเฟ่น คิง (Stephen King) โดยหนังสือเล่มนี้ชนะเลิศรางวัล British Fantasy Award ในปี 1982 และถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ชื่อเดียวกันในปี 1983) รวมถึงวิ่งไล่สัตว์ประเภทอื่นและคน รอบข้างถนนเส้นนี้ปกคลุมได้ด้วยความมืด หนาแน่นไปด้วยต้นไม้ที่ขึ้นอยู่ข้างทางและไม้เลื้อยประเภทต่างๆ ทำให้พบเห็นหรือได้ยินเสียงแปลกประหลาดที่ไม่สามารถอธิบายได้ไปต่างๆ นานา ไม่มีใครทราบว่าเพราะเหตุใดถนนในช่วงสั้นๆ นี้ถึงมักเกิดเหตุการณ์ประหลาดดังกล่าว แต่มีหลายทฤษฎีกล่าวว่าน่าจะเป็นผลมาจากกิจกรรมทางศาสนาบางอย่างที่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่แถบนี้และคำสาปก็ยังคงอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวด้วยเหตุผลบางประการ




8. Dead Man’s Curve – Clermont County, Ohio

โค้งคนตาย (Dead man’s curve) เป็นโค้งที่มีอันตรายมากในเขต เชอร์มอนท์ เคาน์ตี้ ถนนเส้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของถนน โอไฮโอ้ เทิร์นไพค์ (Ohio Turnpike; Turnpike: ถนนสำหรับรถยนต์ที่วิ่งด้วยความเร็วสูง (โดยเฉพาะถนนที่มีด่านเก็บเงิน)) สร้างขึ้นในปี 1831 และมีรายชื่อของเหยื่อยาวเหยียดเลยทีเดียว – วันที่ 19 ตุลาคม 1969 วัยรุ่นห้าคนต้องจบชีวิตลงเมื่อรถอิมพาลา ปี 1968 (1968 Impala) ถูกชนที่ความเร็วมากกว่าร้อยไมล์ต่อชั่วโมงโดยรถรุ่นโรดรันเนอร์ ปี 1969 (1969 Roadrunner) เหตุการณ์ครั้งนี้มีผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว คือ ริค (Rick) หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา ที่สี่แยกจะมีคนพบกับ "นักโบกรถไร้หน้า" (The Faceless Hitchhikers) ซึ่งริคเคยเห็นมาแล้วถึงห้าครั้ง

ในครั้งที่สามนั้น เพื่อนของริคที่ชื่อ ทอดด์ เล่าว่า "ริคและผมกำลังเดินทางกลับบ้าน โดยเดินทางจากบีเธล (Bethel) ไปยังอเมเลีย (Amelia) แล้วผมก็สังเกตเห็นบางอย่างรูปร่างคล้ายคนยืนอยู่ที่ข้างทาง ทำท่าทางเหมือนกำลังโบกรถ บางสิ่งบางอย่างนั้นใส่กางเกงสีอ่อน เสื้อเชิตสีน้ำเงิน ผมยาวและไม่มีหน้า เมื่อพวกเราหันหลังกลับไปมอง ก็ไม่มีเห็นอะไรเลย นอกจากนี้ผมยังเห็นเงาสีดำค่อยๆ เดินช้าๆ อยู่ข้างทาง"





7. Boone County – Illinois

ที่เมืองเบลวิเดียร์ (Belvidere) ในเขต บูน เคาน์ตี้ (Boone County), อิลลินอยซ์ นั้นจะมีแยกๆ หนึ่ง ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความหลอน โดยเฉพาะแยกที่อยู่บนถนนบลัดส์พอนท์ (Bloodspoint Road) ส่วนถนนเส้นอื่นที่อยู่ในเขตพื้นที่ที่ขึ้นชื่อเรื่องความหลอนก็เช่น ถนนวีลเลอร์ (Wheeler), ฟลอร่า เชิร์ซ (Flora Church), เพิร์ล พูล (Pearl Poole), สวีนนี (Sweeney), เชอร์รี่ วัลเลย์ (Cherry Valley), สโตน ควอรี (Stone Quarry), แฟร์เดล (Fairdale) และไอรีน (Irene) เชื่อกันว่าเหตุการณ์แปลกประหลาดต่างๆ เป็นผลมาจากอุบัติเหตุจากการจราจรที่เคยเกิดขึ้นในอดีต






6.Stocksbridge By-Pass – England

ถนนรอบเมือง (By-Pass) สต็อคบริดจ์ (Stocksbridge) เป็นส่วนหนึ่งของทางด่วน (Moterway) หมายเลข M67 ในประเทศอังกฤษ เมื่อก่อนถนนเส้นนี้มีสองทางวิ่ง แต่ในปัจจุบันเหลือเพียงทางวิ่งเดียว ถนนสร้างเสร็จในปี 1989 อยู่ทางตอนเหนือรอบตัวเมืองสต็อคบริดจ์และหุบเขา ถนนเส้นนี้ก็มีเรื่องแปลกประหลาดเกิดขึ้นมากมายเช่นกัน เหตุการณ์ที่มักจะพบกันอยู่เสมอคือ เห็นเด็กหลายๆ คนกำลังเล่นกันอยู่ใต้สะพานในเวลากลางดึกและนักบวช (พระ) ที่ยืนมองรถผ่านไปมาข้างทาง แต่สุดท้ายแล้วก็หาคำอธิบายใดๆ ไม่ได้ ส่วนคนอื่นๆ ก็มีได้ยินเสียงเด็กหลายคนร้องเพลงอยู่แถวๆ นั้นแหละ แต่พอมองหากลับไม่เจอใครเลย ส่วนรายงานที่ดูหลอนที่สุดคงเป็นเรื่องของคนที่กำลังขับรถอยู่ แล้วทันใดนั้นก็สังเกตเห็นนักบวชดังกล่าวมานั่งอยู่ข้างๆ เขานั่นแหละ !





5. M6 Motorway – England

ในประเทศอังกฤษ หลายๆ คนเห็นด้วยที่ว่า "ถนนที่ยาวที่สุดนั้น มักจะเป็นถนนที่หลอนที่สุดด้วย!" คนที่สัญจรไปมาบางคนเคยขับรถไปตามถนนเส้นนี้ แล้วก็พบกับประสบการณ์ที่แปลกประหลาด: ทหาร (นักรบ) โรมันกำลังเดินสวนสนาม ผู้หญิงพยายามโบกรถ – ถนนเส้นนี้มีความยาว 230 ไมล์ และมี 6 เลน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าถนนเส้นนี้นั้นกว้างพอสำหรับขบวนสวนสนามที่แปลกประหลาด









4. Tuen Mun Road – Hong Kong

ถนนเส้นนี้ถูกใช้งานอย่างหนักและไม่ได้รับการออกแบบปรับปรุงให้เข้ากับลักษณะการจราจรสมัยใหม่ รวมถึงขึ้นชื่อในเรื่องของอุบัติเหตุจากการจราจรและเรื่องผี! หลายคนอ้างว่า บรรดาผีทั้งหลายมักจะปรากฏตัวขึ้นมาทันทีทันใดที่กลางถนน เป็นสาเหตุให้คนขับรถจำเป็นต้องหักหลบเพื่อหลีกเลี่ยงการชนและทำให้จำนวนผีที่เป็นเหยื่อของอุบัติเหตุเพิ่มสูงขึ้นไปด้วย









3. Highway 666 – Utah, United States

ในปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ ทางหลวงหมายเลข 191 (Highway 191) ถนนเส้นนี้เองก็ขึ้นชื่อในเรื่องของอุบัติเหตุเช่นกัน – ลินดา ดันนิ่ง (Linda Dunning) ได้เขียนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับสามีของเธอไว้ในเว็บ Prairieghost.com ว่า:


"เขาขับรถมาคนเดียวและเมื่อมองไปข้างหน้าก็ไม่เห็นมีรถซักคัน ทันใดนั้นเขาก็เห็นรถบรรทุกคันหนึ่ง ดูเหมือนว่ามันกำลังลุกติดไฟ รถคันนั้นวิ่งอยู่ตรงหน้าเขาเลยทีเดียว รถคันดังกล่าววิ่งค่อนข้างเร็ว มีประกายไฟกระเด็นขึ้นมาจากล้อและเปลวไฟบริเวณท่อไอเสีย เมื่อเห็นดังนั้นเขาก็รีบลงจากรถด้วยความกลัว แล้วถอยห่างออกไปร่วม 20 ฟุต จากรถของเขาและรอให้รถบรรทุกคันนั้นวิ่งผ่านไปก่อน เขาคิดว่ารถคันนั้นน่าจะวิ่งที่ความเร็วประมาณ 130 ไมล์ต่อชั่วโมงเลยทีเดียว เมื่อรถแล่นผ่านไปเขาก็กลับมาที่รถและขับรถต่อ"

ถ้าคุณเห็นเด็กผู้หญิงเดินไปตามถนน แล้วคุณพยายามจะช่วยเธอ เธอก็จะหายไปต่อหน้าต่อตา ถ้าคุณขับรถมาคนเดียว บรรดาผีทั้งหลายก็จะขึ้นนั่งเป็นผู้โดยสารที่เบาะหลังของรถคุณ ดันนิ่งได้ให้คำแนะนำไว้ว่า:

"พยายามหาเพื่อนไปกับคุณหลายๆ คนและพยายามอย่าเหลือที่ว่างไว้สำหรับผู้โดยสารที่คุณไม่อยากจะเจอ ซึ่งผู้โดยสารคนนี้อาจจะตัดสินใจปรากฏตัวขึ้นที่เบาะหลัง, พยายามนำรถเข้าจอดข้างทาง (Pull off the Road) ถ้าเห็นรถบรรทุกคันใหญ่วิ่งตรงเข้ามาหาคุณ, อย่าทำตัวอยากรู้อยากเห็นถ้าเห็นรถคันที่มีคนขับคนเดียวขับผ่านคุณไปในตอนกลางดึก, อย่ามองแสงที่สว่างอยู่บนท้องฟ้า, หวังว่าคุณคงจะไม่เจอเด็กผู้หญิงใส่ชุดสีขาว ห้ามหยุดรถเด็ดขาดไม่ว่าคุณจะสังเกตเห็นอะไรก็ตามและอย่ารับคนโบกรถขึ้นมาเด็ดขาด





2. A229 from Sussex to Kent – England

"ในเดือนพฤศจิกายนปี 1992 … เอียน ชาร์ป (Ian Sharpe) ขับรถไปตามถนนหมายเลย A229 จากซัสเซก (Sussex) ไปยังเคนท์ (Kent) ขณะขับรถอยู่นั้นก็มีเด็กผู้หญิงสวมชุดสีขาวคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นด้านหน้ารถของเขาและหายไป ด้วยความตกใจเขาจึงหยุดรถและมั่นใจว่าเขาขับรถชนเธอเข้าให้แล้ว เมื่อเขาลงจากรถไปหาเด็กผู้หญิงคนนั้น เขากลับไม่พบอะไรเลย ไม่มีเด็กผู้หญิง ไม่มีศพ ไม่มีชุดสีขาว แม้กระทั่งสัตว์ป่าซักตัวก็ไม่มี"

ถ้าคุณเป็นคนขี้กลัว อย่าได้คิดใช้ถนนเส้นนี้เลย … ถนนหมายเลข A229 เป็นถนนอีกเส้นหนึ่งที่ได้ขึ้นชื่อว่าหลอนที่สุดในอังกฤษ ตำรวจท้องถิ่นไม่ถือเป็นคนแปลกหน้าที่คอยเรียกผู้ใช้ถนนให้นำรถเข้าจอดข้างทาง แต่คนแปลกหน้าที่พูดถึงพิเศษกว่านั้นมาก นั่นคือ ผู้หญิงใส่ชุดสีขาว เพียงแต่ว่าเธอไม่มีร่างกายเท่านั้นเอง ถ้าคุณเดินทางผ่าน โลวเวอร์ เบลล์ ผับ (Lower Bell Pub) เพื่อตรงไปยังเมดสโตน (Maidstone) อย่าตกใจไปถ้าจะเห็นคนโบกรถข้างทางหายไปต่อหน้าต่อตาก่อนที่คุณจะถึงที่หมาย ผีผู้หญิงตนนี้เชื่อว่าน่าจะเป็น จูดิธ แลงแฮม (Judith Langham) ซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถชนกันในวันแต่งงานของเธอเองและเธอยังคงสวมชุดแต่งงานอยู่เหมือนเดิม





1. Clinton Road – Passaic County, New Jersey

ถ้าคุณใช้ถนนเส้นนี้ในตอนกลางดึก ลองแวะไปเยี่ยมสะพานที่โค้งคนตาย (Dead Man’s Curve) เพื่อเล่นเกมส์บางอย่างสิ เกมส์ที่ว่าก็แค่ให้คุณลองขว้างเหรียญลงไปในน้ำ แล้วผีเด็กผู้ชายจะขว้างมันกลับขึ้นมาให้คุณเอง

-หมาป่าสีเทาที่มีดวงตาสีแดงจะวิ่งออกมาจากพุ่มไม้และไล่คุณ
-เหล่าคนที่บูชาซาตานจะเอาเสื้อผ้าเปื้อนเลือดออกมาตากให้แห้ง หลังจากไปฆ่าสัตว์บูชายัญมา
-ซากปรักหักพังของปราสาทที่อยู่ใกล้ๆ กับป่า
-ถ้าคุณพบว่าตัวเองหลงเข้ามาในป่า ระวังจะโดนไล่ออกมาโดยพวกบูชาซาตานหรือพวกคูคลักแคล็นล่ะ (อ่านรายละเอียด คูคลักแคล็น เพิ่มเติม ที่นี่)
-คุณอาจจะพบกับสัตว์แปลกๆ หรือสัตว์ที่เหลือรอดจากสวนสัตว์ร้างใกล้ๆ แถวนั้น หรือจากป่าลึก รวมถึงพวกสัตว์ที่แอบหนีรอดออกมาจากที่อื่น
-ที่โค้งอันตรายซึ่งทำให้ผู้ขับรถที่ไม่ระมัดระวังเสียชีวิตมามากมาย ก็ขึ้นชื่อเรื่องหลอนๆ มากเหมือนกัน
-ปิศาจขับรถบรรทุกยินดีที่จะรับคุณเดินทางไปด้วย จากนั้นค่อยไล่ล่าคุณทีหลัง


เรื่องราวเกี่ยวกับถนนเส้นนี้ไม่ใช่เรื่องขำเลย เรื่องราวเหล่านี้ล้วนได้รับการยืนยันจากคนหลากหลายกลุ่มและไม่ใช่เรื่องที่เล่าเพื่อดึงดูดความสนใจ แต่สิ่งแปลกประหลาดพวกนั้นไม่ต้องการให้ใครเข้าไปรบกวนหรอก
ข้อมูลจาก http://lonesomebabe.wordpress.com/category/%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%a5%e0%b8%b6%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b8%b1%e0%b8%9a/

21 พ.ย. 54 เวลา 23:09 2,623 2 20
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...