ในบรรดาเรื่องลึกลับที่ยังหาคำตอบไม่ได้ คงต้องรวมเรื่องของ กลอเรีย รามิเรซ หรือที่รู้จักกันในนาม "หญิงสาวผู้มีเลือดเป็นพิษ" (The Toxic Lady) เข้าไว้ด้วยเรื่องหนึ่ง ในฐานะที่เธอเป็นคนไข้พิสดาร ผู้ที่ทำให้แพทย์และพยาบาลที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ช่วยชีวิตเธอในห้องฉุกเฉินมีอันต้องเจ็บป่วยไปตามๆ กัน ด้วยสาเหตุลึกลับที่หลายคนเชื่อว่ามาจากร่างของเธอนั่นเอง
กลอเรีย รามิเรซ (1963-1994) ซึ่งป่วยเป็นมะเร็งที่มดลูก ได้เกิดอาการอาเจียนขณะนอนอยู่บนเตียงที่บ้านพักใน ริเวอร์ไซด์ แคลิฟอร์เนีย คนในครอบครัวพยายามที่จะช่วยเหลือและพยาบาลเธอเท่าที่จะทำได้ หากแต่อาการกลับทรุดลงเรื่อยๆ จนต้องเรียกรถพยาบาลมารับตัวเธอไปในตอนเย็นของวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 1994
เวลาประมาณ 20.15 น. เธอถูกส่งไปไปยังห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล แพทย์และพยาบาลพยายามช่วยชีวิตเธอ แพทย์พบว่าความดันโลหิตของเธอต่ำลงอย่างน่ากลัว ในขณะที่หัวใจเต้นเร็วผิดปกติอันเป็นอาการที่พบไม่บ่อยนักในผู้ที่มีอายุน้อยๆ ดังนั้นจึงเริ่มรักษาโดยการให้ยาและอัดอากาศเข้าไปในปอด จนเมื่ออัตราการเต้นของหัวใจลดลง แพทย์จึงเตรียมใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจ ขณะนั้นเองที่หลายๆ คน สังเกตเห็นว่าผิวหนังของเธอมีลักษณะแปลกๆ เหมือนถูกฉาบด้วยน้ำมัน และมีกลิ่นฉุนซึ่งคาดว่ามาจากปากของเธอ
แต่ขณะนั้นยังไม่มีใครสนใจเท่าใดนัก ทุกคนยังคงวุ่นอยู่กับการช่วยชีวิตเธอ นางพยาบาลชื่อ ซูซาน เคน พยายามที่จะดูดตัวอย่างเลือดออกจากแขนของรามิเรซ และทันทีนั้นเองที่เธอได้กลิ่นฉุนของแอมโมเนียระเหยออกมาจากหลอดตัวอย่างเลือด
เคนได้ส่งกระบอกฉีดยาให้กับ จูลี่ กอร์ชินสกี ซึ่งสังเกตเห็นว่ามีผลึกขนาดเล็กบางอย่างลอยอยู่ในเลือด เพียงไม่กี่วินาทีต่อจากนั้น ความโกลาหลวุ่นวายก็เกิดขึ้นในห้องฉุกเฉิน เมื่อจู่ๆ ซูซาน เคน เกิดอาการวิงเวียน แล้วทรุดลงไปนอนกับพื้นและถูกนำตัวออกจากห้องฉุกเฉิน จากนั้น ดร. กอร์ซินสกี เริ่มรู้สึกคลื่นไส้และเวียนหัว เลยออกจากห้องมาอีกคนและนั่งพักที่โต๊ะพยาบาล และไม่นานพยาบาลอีกคนก็รู้สึกวิงเวียนศีรษะและหายใจไม่ออกก่อนจะสลบไปอีกคนนึง ดร. มาร์ด เป็นรายต่อไปที่รู้สึกไม่ค่อยสบาย แต่เขายังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ จากนั้น มอรีน เวลช ก็ล้มลงหมดสติบนพื้นห้อง ตามมาด้วยแซลลี ที่มีอาการปวดแสบปวดร้อนบริเวณผิวหนังรวมทั้งอาเจียน
และในเวลา 20.50 น. 45 นาทีหลังจากนั้น กลอเรีย รามิเรซ ได้เสียชีวิตลงจากอาการไตวายและสุดท้ายก็ไม่มีใครรู้ว่าเธอไปทำอะไรมาถึงเกิดเลือดพิษแบบนี้ ทำให้เรื่องราวของเธอยังเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้
ข้อมูลจาก http://lonesomebabe.wordpress.com/category/%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%a5%e0%b8%b6%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b8%b1%e0%b8%9a/