เสร็จช้าว่าดี จริงหรือ?
ไม่รู้ใครเป็นคนกำหนดความคิดที่ว่า เสร็จช้าดีกว่าเสร็จเร็ว แต่ที่แน่ๆ ความคิดนี้แพร่กระจายออกไปอย่างไม่หยุดยั้ง หยุดหย่อน ยิ่งสังคมยุคปัจจุบัน ปัญหาและอาการเสื่อมหรือหย่อนสมรรถภาพทางเพศเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็ยิ่งทำให้หลายคนอยากจะมีเซ็กซ์ที่เนิ่นนาน
แต่บางครั้งความนานก็ไม่ใช่พระเอกขี่ม้าขาวเสมอไป จริงอยู่ที่ทุกครั้งที่เราดูหนังเอวี ดาราในเรื่องนั้นๆ กว่าจะพ่นพิษรักออกมาได้ ก็ผ่านเวลาไปเกินชั่วโมงหรือขั้นต่ำๆ ก็สามสิบนาทีเป็นอย่างน้อย เมื่อมองไปถึงฝ่ายหญิง สีหน้า และน้ำเสียงของเธอ ก็กำลังบ่งบอกว่ามีความสุขเต็มที่ แต่เรื่องจริงก็คือสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เซ็ตขึ้นมาล้วนๆ แม้กระทั่งในงานวิจัยยังบอกว่าการมีเซ็กซ์นานเกิน 30 นาทีขึ้นไปให้ถือว่าเป็นโรคหลั่งช้า
คงมีผู้หญิงไม่กี่คนที่ยกมือบอกว่า การมีเพศสัมพันธ์ต่อเนื่องนานนับชั่วโมงเป็นโลกแห่งความสุข เพราะโลกแห่งความเป็นจริงหลังจากที่เสร็จกิจ เธออาจจะต้องทั้งรู้สึกแสบ ระบม แถมอาจต้องระทมใจเพราะกลัวการมีเซ็กซ์ครั้งต่อไปก็เป็นได้
มีงานวิจัยจากประเทศแคนาดาและสหรัฐอเมริกายืนยันครับว่า ความนานของการมีเซ็กซ์ที่สุขสม และอยู่ในขั้นพื้นฐานที่กำลังดีนั้นอยู่ที่ 3-13 นาที โดยแบ่งคร่าวๆ ได้ดังนี้
หากฝ่ายชายถึงจุดสุดยอดก่อน 1 นาที หรือประเภทแค่แตะก็แตกแล้วนั้น ให้นับว่าเป็นภาวะที่ผิดปกติหรือที่เราเรียกว่า “นกกระจอกไม่ทันกินน้ำ” หรือพวกล่มปากอ่าว
ส่วนประเภทที่ถึงจุดสุดยอดก่อน 2 นาทีนั้น ให้ถือว่าเป็นพวกที่ไหว้วานอะไรไม่ได้ หรือเรียกว่าพวกใช้ไม่ได้นั่นล่ะ แหม กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม ดันเอาตัวรอดตัดช่องน้อยแต่พอตัวไปก่อน พวกนี้หลั่งเร็วไปหน่อย
พวกที่เข้าทีหน่อย สำหรับงานวิจัยชิ้นนี้ก็คือพวกที่ถึงจุดสุดยอดตั้งแต่ 3-7 นาที โดยในงานวิจัยระบุว่าเป็นพวกที่เข้าข่ายใช้ได้
สำหรับพวกที่เจ๋งจริงๆ และถือว่าเป็นที่พึงพอใจกับสาวๆ ก็คือพวกที่ถึงจุดสุดยอดตั้งแต่ 7-13 นาที แต่ถ้าหากว่าการถึงจุดสุดยอดของคุณเกิน 14 นาทีขึ้นไปจนถึง 30 นาที ถือว่าเป็นพวกที่นานเกินไป และถ้าหากว่าเกิน 30 นาทีขึ้นไป ให้ถือว่าเป็นพวกหลั่งช้า คนพวกนี้ตามทฤษฏีแล้วจะเริ่มสร้างความเจ็บปวดให้กับอวัยวะเพศของฝ่ายหญิงแล้วล่ะ
..... อาการหลั่งช้า นั้นนับเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นอันดับสามของปัญหาเซ็กซ์ของหนุ่มๆ เลย (อันดับแรกคือ หย่อนสมรรถภาพทางเพศ อันดับสองคือ หลั่งเร็ว) แต่ก่อนที่เราจะยืนยันได้ว่าเรามีปัญหาในเรื่องของการหลั่งช้าหรือไม่นั้น ต้องตรวจให้แน่ชัดก่อนว่าเราไม่ได้มีภาวะหลั่งย้อนกลับเข้าไปภายใน (Retrograde Ejaculation) การหลั่งแบบนี้เป็นภาวะผิดปกติทางร่างกาย อาจเป็นได้ว่ามีเบาหวานแทรกซ้อน เคยผ่าตัดต่อมลูกหมาก บาดเจ็บที่ประสาทไขสันหลัง หรือมีโรคที่เกี่ยวกับเส้นประสาท การสังเกตนั้นก็ไม่ยาก ให้ดูว่าหลังจากที่เราเสร็จกิจแล้ว น้ำปัสสาวะของเรามีสีอะไร ถ้าหากเป็นสีปกติที่เราคุ้นชินก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าหากมีอาการขุ่นคล้ายๆ กับอสุจิที่หลั่งออกมา ให้รีบไปพบแพทย์ดีกว่า
คำว่า หลั่งช้า (Retarded Ejaculation) ในที่นี้นั้นอธิบายง่ายๆ ก็คือเป็นพวกที่เสร็จยาก สาเหตุก็มาจาก 2 ข้อใหญ่ๆ ก็คือ ร่างกายและจิตใจ
ปัญหาของร่างกาย ก็อย่างเช่น เป็นโรคเรื้อรังยอดฮิตอย่างเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาทที่ไปเลี้ยงอวัยวะเพศได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก การเป็นโรคต่อมลูกหมากก็มีส่วน หรืออาจจะเป็นเพราะผลข้างเคียงจากยาบางชนิด
ในส่วนปัญหาทางด้านจิตใจก็เช่น มีอาการขี้เบื่อ ขี้เหงา เครียด มีความวิตกกังวลเรื่องเซ็กซ์กลัวว่าจะถูกตราหน้าว่าไม่เก่ง หรือบางคนอาจรู้สึกผิดทุกครั้งเวลามีเซ็กซ์ก็จะส่งผลให้เกิดอาการหลั่งช้าได้เช่นกัน รวมไปถึงพวกที่มีอาการเบี่ยงเบนทางเพศแบบไม่รู้ตัว คนพวกนี้ก็มีสิทธิ์ที่จะเกิดอาการหลั่งช้า
วิธีการแก้ไขปัญหาการหลั่งช้าก็ไม่ยาก ลด ละ เลิก สิ่งที่ทำให้ร่างกายผิดปกติ เช่น เลิกดื่มแอลกอฮอล์ หรือเลิกสูบบุหรี่ การทำให้สภาพจิตใจอยู่ในสภาวะผ่อนคลายก็นับเป็นทางออกที่ดีที่สุดทางหนึ่ง อาจใช้การกำหนดลมหายใจ หรือนั่งสมาธิก็ได้
สำหรับใครที่ยังอาการไม่หนักจนเกินไป การเล้าโลมถือเป็นเรื่องสำคัญ การเพิ่มอรรถรสของเซ็กซ์แต่ละครั้งด้วยการจินตนาการไปให้ไกลนั้นมีส่วนช่วยทำให้การหลั่งกลับมาเป็นปกติได้เช่นกัน รวมไปถึงการที่คุณอาจจะพูดตรงๆ กับฝ่ายหญิงว่าชอบตรงไหน อยากให้กระตุ้นตรงไหน ก็อาจทำให้อาการหลั่งช้าดีขึ้น
ท่วงท่าก็มีส่วนสำคัญ เลือกท่าที่ทำให้น้องหนูเราถูกกระตุ้นได้ดีและมากขึ้น หรือจะเป็นท่าที่เราชื่นชอบก็ได้ และแม้กระทั่งการฝึกขมิบเป็นประจำก็ช่วยทำให้เรามีประสิทธิภาพในการหลั่งที่เป็นปกติได้
และหากใครที่ลองทำหมดทุกข้อแล้ว บรรเลงเพลงรักครั้งต่อไปยังเนิ่นนานจนอีกฝ่ายต้องร้องขอให้หยุด หรือเลิกกระทำ ปรึกษาแพทย์น่าจะเป็นทางออกสุดท้าย