เมื่อ 20 พ.ย. เอเอฟพีรายงานเบื้องหลังการจับกุมเซฟ อัล อิสลาม วัย 39 ปี บุตรชายคนสำคัญของพ.อ.โมอัมมาร์ กัดดาฟี อดีตผู้นำลิเบียผู้ล่วงลับ โดยเผยว่าทีมเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลถ่ายโอนอำนาจแห่งชาติรวบตัวอัล อิสลาม ได้ในขบวนรถที่เมืองโอบารี ซึ่งอยู่ทางใต้ ภายในรถพบเงินไม่กี่พันดอลลาร์ ขณะที่บุตรชายกัดดาฟีอยู่ในสภาพอิดโรย เนื่องจากมีบาดแผลนิ้วมือขวาขาดจากระเบิดของนาโต้ตั้งแต่การปะทะครั้งสุดท้ายที่ตริโปลี
ทีมเจ้าหน้าที่ระบุว่า คณะของอัล อิสลาม ไม่ได้ขัดขืนการจับกุมแม้แต่น้อย และว่าอัล อิสลาม มีท่าทางหวาดกลัวในช่วงแรกของการจับกุม โดยกลัวว่าจะถูกสังหารเหมือนผู้พ่อ แต่ต่อมากลับกล่าวขอให้ยิงตนให้ตายและนำศพกลับไปยังเมืองซินตันแทน
รายงานยังระบุว่า ฝ่ายรัฐบาลลิเบียใหม่นำตัวอัล อิสลาม ขึ้นเครื่องบินมายังที่กักขังที่เมืองซินตัน ทางตอนเหนือของประเทศซึ่งมีประชาชนรออยู่ที่สนามบินเป็นจำนวนมากและเกิดเหตุวุ่นวายขึ้นเมื่อมีผู้ต้องการเข้าไปทำร้ายอัล อิสลาม แต่สุดท้ายฝ่ายเจ้าหน้าที่ก็กันตัวลูกชายกัดดาฟีออกมาได้
วันเดียวกันศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ไอซีซี ระบุว่า ลิเบียต้องส่งตัวอัล อิสลาม ให้กับศาลเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีข้อหาก่ออาชญากรรมกับมนุษยชาติ แต่หากต้องการให้มีการพิจารณาคดีในลิเบีย รัฐบาลก็ต้องทำเรื่องขอถอนฟ้องส่งไปยังศาลก่อน ขณะที่ผู้นำชาติต่างๆ ออกมาเรียกร้องให้ทางการลิเบียรับประกันเรื่องความเป็นธรรมกับผู้ต้องหารายนี้
ด้านโมฮัมเหม็ด อัล อลาจี รมว.ยุติธรรมในรัฐบาลลิเบียใหม่กล่าวว่า อัล อิสลามควรขึ้นศาลลิเบีย และยอมรับว่าผู้ต้องหาอาจได้รับโทษประหารชีวิต อย่างไรก็ดีมีรายงานระบุว่าประชาชนชาวลิเบียต่างต้องการทราบข้อมูลเรื่องทรัพย์สินของกัดดาฟีที่ยังอาจมีการซุกซ่อนไว้อีกจากปากลูกชายรายนี้