วันที่ 18 พ.ย.54 ร.ต.อ.สมชาย หมายมั่น พนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อ.เมืองเชียงใหม่ รับแจ้งเหตุจากโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ว่า มีพระภิกษุสงฆ์ถูกทำร้ายร่างกายและนำส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงรุดไปตรวจสอบ ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ พระอัศนัย ใจอุประ อายุ 21 ปี ชาวเชียงใหม่ เป็นพระภิษุสงฆ์สังกัดวัดอุโมงค์ ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จากนั้นได้รุดไปสอบสวนที่วัดอุโมงค์พบพระภิกษุสงฆ์ต่างแตกตื่นกับเหตุการที่ เกิดขึ้น

จากการสอบสวนพยานทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ พระอัศนัย ใจอุประ เดินอยู่ภายในวัดอุโมงค์ และพบกับพระไพโรจน์ สีจา อายุ 18 ปี ชาวอุตรดิตถ์ เป็นพระสังกัดวัดอุโมงค์เช่นเดียวกัน และทั้งคู่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน จึงเกิดการท้าชกต่อยกันขึ้นภายในวัด ปรากฎว่าพระอัศนัย ใจอุประ สู้ไม่ได้และล้มลง พระไพโรจน์ จึงกระโดดขึ้นคร่อมและชกที่ใบหน้า กราม จนฟันหัก ทั้งยังกระทืบซ้ำ ก่อนที่พระอัศนัย จะแน่นิ่งหมดสติไป หลังจากนั้นพระไพโรจน์หลบหนีไปกบดานที่วัดลังกา ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่

ต่อมา พ.ต.อ.สุวัฒน์ แก้วดวงโต ผกก.สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ สั่งการไปยัง พ.ต.ท.บุญรักษ์ คำประพันธ์ รอง ผกก.สส.,พร้อมด้วย พ.ต.ต.พลูทรัพย์ รวมสุข สว.สส.สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนติดตามไปจับกุมตัวพระไพโรจน์ ใจอุประ ได้ที่วัดลังกา แล้วควบคุมตัวไปให้เจ้าอาวาสวัดศรีโสดา เพื่อทำการจับศึก ก่อนนำตัวมาสอบสวน

นายไพโรจน์ สีจา ให้การรับสารภาพว่าได้ชกต่อยกับกระอัศนัยจนถึงแก่ความตายจริง เบื้องต้นเจ้าหน้าทีตำรวจได้ทำการควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พนักงานสอบสวนดำเนินคดีโดยกล่าวหานายไพโรจน์ว่าทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็น ถึงแก่ความตาย และนำตัวไปฝากขังที่เรือนจำกลางจังหวัดเชียงใหม่