2 ชุดเกือบ 4 แสน

 

2 ชุดเกือบ 4 แสน

วันอาทิตย์ ที่ 13 พฤศจิกายน 2554 เวลา 0:00 น

 
เนื้อหาข่าว

 

วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำก็นองเต็มตลิ่ง เราทั้งหลายชายหญิงสนุกกันจริง วันลอยกระทง

นี่คือเพลงของสุนทราภรณ์ที่ไพเราะยิ่งนัก ที่ร้องกันมานานนับสิบ ๆ ปี
    
แต่ปีนี้เพื่อให้เพลงตรงกับความเป็นจริง น่าจะใช้เนื้อร้องดังนี้จะดีไหม
     
วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำก็นองริมถนนเราทั้งหลายชายหญิง ทุกข์เศร้าจริง ๆ วันลอยกระทงที่เฉพาะใน กทม. และจังหวัดใกล้เคียง ส่วนจังหวัดอื่น ๆ ก็มีการเฉลิมฉลองงานลอยกระทงกันสนุกสนานเป็นปกติ
    
เช่นที่จังหวัดสุโขทัยก็มีงาน “เผาเทียนเล่นไฟ” ในงานวันลอยกระทง ส่วนที่จังหวัดเชียงใหม่ก็มี “งานยี่เป็ง” หรืองานลอยกระทง
    
สมัยก่อนนั้น กรุงเทพฯ ยังไม่มีงานลอยกระทงยิ่งใหญ่เหมือนในยุคปัจจุบันซึ่ง “งานลอยกระทงของไทย” ได้เป็นปฏิทินของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เดินทางมาร่วมงานในไทยโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ
    
ในยุคหนึ่งนั้นปล่อยให้เล่นกันจนเลยเกินความสนุก มีการจุดดอกไม้ไฟ พลุตะไลกันตามสบาย
    
มีคราวหนึ่ง พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ซึ่งขณะนั้นเป็นรัฐมนตรีได้เดินทางในวันลอยกระทงไปตามลำน้ำเจ้าพระยา เมื่อผ่านมาถึงสะพานพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้มีมือดีโยนดอกไม้ไฟลงบนเรือของ พล.ต.สนั่น จนเกือบเกิดอุบัติเหตุ
    
หลังจากนั้นก็มีคำสั่งห้ามเล่นดอกไม้ไฟในวันลอยกระทง และห้ามจำหน่าย
    
มีข้อเท็จจริงการขายดอกไม้ไฟซึ่งส่วนใหญ่เลิกขายแล้ว แต่ทำไมบริเวณป้อมพระกาฬ เชิงสะพานผ่านฟ้า ยังแอบขายดอกไม้ไฟตลอดมา
    
งานยี่เป็งหรือลอยกระทงที่เชียงใหม่สมัยก่อนนั้น สนุกมาก คนจากกรุงเทพฯ ต้องเดินทางนอนค้างคืนในรถไฟด่วนจากกรุงเทพฯ ถึงเชียงใหม่
       
การเดินทางโดยเครื่องบินสมัยโน้น คนธรรมดาไม่มีสิทธิ เพราะสมัยก่อนเดินทางโดยเครื่องบินมีของบริษัทท่าอากาศไทยจำกัดเท่านั้น
       
บินด้วยเครื่องบิน “ดาโกต้า” มีที่นั่งประมาณ 30–50 คนเท่านั้นเป็นเครื่องบินใบพัดสองเครื่องยนต์ บินช้ามากชั่วโมงละไม่กี่ร้อยกิโลเมตร ใช้เวลาเกือบ 2–3 ชั่วโมงจึงถึงเชียงใหม่
        
คนจึงนิยมเดิน ทางด้วยรถไฟไปเชียงใหม่ นอนค้างคืนในรถไฟ พอเช้าก็ถึงเชียงใหม่
       
รถไฟยุคนั้นสะอาดจริง ๆ โดยเฉพาะในตู้รถนอนชั้นที่ 1 และตู้เสบียงอาหารเฉพาะชั้น 1
        
พนักงานแต่งชุดขาวเหมือนตามในโรงแรม ในรถนอนมีห้องอาบน้ำด้วย นอนสบาย อาหารอร่อยบนรถตู้เสบียงชั้น 1 
      
ในขณะนั้นโรงแรมราชธานีที่สถานีรถไฟหัวลำโพงมีชื่อเสียงมาก ใครไปนอนพักหรือทานอาหารที่นั่นไม่ใช่คนธรรมดา ต้องเป็นบุคคลชั้นสูงเท่านั้น
      
ขณะนี้โรงแรมราชธานีกลายเป็นอดีตไปแล้ว
      
วันนี้ได้นำธนบัตรมาให้ชม 2 ชุด ชุดแรกเป็นธนบัตรแบบ 15 ราคา 50 บาท พิมพ์บนวัสดุ “โพลิเมอร์” สีฟ้า มีภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ ส่องดูเห็นทั้งสองด้าน ธนบัตรชุดนี้มีเลขตองครบชุดทั้งตัวหมวดและตัวเลขรวม 11 ฉบับ มีผู้ประมูลไปในราคา 330,000 บาท    
    
ส่วนอีกฉบับเป็นธนบัตรเขมรราคา 50 เรียล มีผู้ประมูลไปในราคา 62,000 บาท นับว่าสูงมาก
    
พบกันวันอาทิตย์หน้า.

สมเจตน์ วัฒนาธร

Credit: เดลินิวส์ดอดคอม
#ธนบัตรเก่าๆ
THEPOco
ผู้กำกับภาพ
สมาชิก VIP
16 พ.ย. 54 เวลา 06:11 2,518 3 90
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...