โชคชะตาเล่นงาน สาว 26
เป็นยายแก่วัย 70 ชั่วข้ามวัน
ใครจะไปนึกว่าโชคชะตาจะเล่นงานคนได้ถึงขนาดนี้ เหวียนถิเฟือง (Nguyễn Thị Phượng) ในภาพถ่ายตอนอายุ 21 ปี วันนี้กลายเป็นอีกคนหนึ่งที่ดูแก่กว่าอายุจริงเกือบ 4 เท่าตัว นับเป็นกรณีหายากอีกกรณีหนึ่ง คณะแพทย์แห่งโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์นครโฮจิมินห์กำลังช่วยเธออย่างเต็มที่ เพื่อให้ได้ใบหน้าสวยกลับคืนมาอีกครั้ง.
ทุกฝ่ายกำลังพยายามช่วยเหลือเหวียนถิเฟือง (Nguyễn Thị Phượng) อย่างสุดความสามารถ เพื่อให้สาวสวยได้ใบหน้าใสและอ่อนเยาว์ กลับมาเช่นเดิมอีกครั้ง หลังโดนชะตากลั่นแกล้ง ทำให้สาววัย 26 กลายเป็นคุณยายแก่ๆ อายุสัก 70 ปี ภายในไม่กี่วัน คณะแพทย์ที่ดูแลบอกว่า เธอมีโอกาสที่จะกลับคืนเป็นปกติมากกว่า 50% แค่ก็ยังมีปัจจัยอีกหลายอย่างกำหนด
เฟืองเป็นชาว จ.เบ๊นแจ (Bến Tre) ในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขง เธอเป็นข่าวใหญ่หน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์เวียดนามหลายฉบับเมื่อเดือนที่แล้ว เมื่อเพื่อนบ้านกับเพื่อนๆ ในโรงงานไม่สามารถจดจำเธอได้เลย นอกเสียจากจะได้ยินเสียงพูด แต่ก็มี เหวียนแถ่งเตวี๋ยน (Nguyễn Thành Tuyển) สามีวัย 34 ปีอยู่เคียงข้างมาตลอดโดยหวังว่าสักวันหนึ่ง เฟืองจะกลับไปเป็นภรรยาคนเดิมของเขาอีกครั้งหนึ่ง
ตามคำบอกเล่าของเตวี๋ยน เรื่องเกิดในปี 2551 ภรรยาคนสวยรับประทานอาหารทะเลเข้าไปและเกิดอาการคันบริเวณใบหน้า จากนั้นได้ไปพบแพทย์ที่คลินิกใกล้บ้าน หมอวินิจฉัยว่าเป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง พร้อมจัดยาให้รับประทาน 1 สัปดาห์ ซึ่งนอกจากอาการจะไม่ดีขึ้นแล้วยังทำให้เฟืองเปลี่ยนไปเป็นคนละคน และเธอเริ่มดูแก่ลงเรื่อยๆ จนเป็นอีกคนหนึ่งที่เห็นอยู่ต่อหน้าขณะนี้ มีเพียงเสียงเท่านั้นที่ยังดูเยาว์วัยและไม่เปลี่ยน
เตวี๋ยนนำภรรยาส่งโรงพยาบาลประจำจังหวัด ซึ่งผ่านไป 6 เดือน ก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้น จึงให้เฟืองหยุดรับประทานยาหมอและหันไปพึ่งยาหม้อ ไปพบกับแพทย์ทางเลือก ใช้บริการยาจีน แต่ก็ไม่มีอะไรช่วยได้ เธอกลายเป็นหญิงแก่ๆ มาตั้งแต่ปี 2552
“เฟืองเป็นคนสวยมาก ผมอยากจะได้เธอกลับมาอีก เป็นภรรยาคนเดิมของผม” นายเตวี๋ยน บอกกับหนังสือพิมพ์แถ่งเนียน
พญ.หวอถิแบ๊ก (Võ Thị Bạch) แห่งโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์นครโฮจิมินห์ กล่าวว่า อาการของเหวียนถิเฟือง นับเป็นกรณีที่หายาก เธอไม่ได้เป็นโรคแก่ก่อนวัย หากแต่เป็นอาการข้างเคียงจากการใช้ยาบางชนิด ซึ่งอาจจะเป็นยาในกลุ่มคอร์ติคอยด์ (Corticoid)
แต่ นพ.หว่างวันมีง (Hoàng Văn Minh) ที่ตรวจอาการครั้งสุดท้ายวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา กล่าวว่า เฟืองอาจเป็นโรคมาสโตไซโตซิส (Mastocytosis) และ คณะแพทย์จะต้องรอตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งจึงจะได้ข้อสรุป
เหวียนถิเฟือง (Nguyễn Thị Phượng) ถ่ายตอนอายุ 21 ปี กับ เหวียนถิเฟืองในวันนี้ตอนอายุ 26 แต่ถูกโชคชะตาเล่นงานอย่างโหดร้าย.
คุณหมอจากโรงพยาบาลจังหวัดเบ๊นแจ ไปตรวจ "คุณยายเฟือง" หลายครั้งก่อนหน้านี้ ผิวหน้าของเธอเหมือนดิ้นได้ เหมือนจะหลุดติดเครื่องมือหมอไปด้วยทุกครั้ง.
เหวียนแถ่งเตวี๋ยน (Nguyễn Thành Tuyển) สามีวัย 34 ปีอยู่เคียงข้างมาตลอดโดยหวังว่าสักวันหนึ่ง จะได้ภรรยาคนเดิมกลับมาครองสุขกันอีกครั้ง.
คุณหมอบอกว่า อาการนี้เกิดจากการมีมาสต์เซล (Mast Cell) ซึ่งเป็นเซลล์หลักของร่างกายชนิดหนึ่งที่มักจะแทรกตัวอยู่ตามเนื้อเยื่อต่างๆ ไปสะสมอยู่บริเวณผิวหนังมากเกินไป ทำให้เกิดความไม่สมดุลและนำไปสู่ความไม่ปกติหลายอย่าง รวมทั้งผิวหนังพุพอง ท้องร่วง หงุดหงิด และนำไปสู่การติดเชื้อ แต่นับว่าโชคดีที่เฟืองเป็นมาสโตไซโตซิสอีกแบบหนึ่งที่มีอาการข้างเคียงน้อยและยังมีโอกาสรักษาให้หายได้ 50-70%
นพ.มีง บอกกับหนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋ ว่า ไม่จำเป็นต้องพึงศัลยกรรมตบแต่ง หากสามารถรักษาได้ด้วยยา และ ขจัดริ้วรอยบนใบหน้าด้วยเลเซอร์ ทั้งหมดนี้อาจต้องใช้เวลานานและค่อยเป็นค่อยไป โดยเริ่มจากรักษาอาการแพ้ก่อนอื่น
เฟืองไม่ใช่กรณีแรกในเวียดนาม หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋ เคยรายงานเมื่อเร็วๆ นี้ เกี่ยวกับการพบหนุ่มวัย 17 ปี กลายเป็นชายชราวัย 80 แต่ขณะเดียวกันชายวัย 50 คนหนึ่ง กลับมีใบหน้าอ่อนเยาว์กลายเป็นเด็กชั้นประถมศึกษาตอนต้น แต่ทั้งสองกรณีก็มีสาเหตุที่มาแตกต่างกัน
สำหรับ เฟือง โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์โฮจิมินห์รับเอาไว้เป็นคนไข้สงเคราะห์ เพื่อเป็นกรณีศึกษา โดยเหวียนแถ่งเตวี๋ยนสามีอยู่ใกล้ๆ ตลอดเวลา สำนักข่าวซเวินจี๊ (Dan Tri) กล่าว